ก็ถือว่า พ้นพงหนาม พบฟากฝั่งไปอีกราย...สำหรับท่านอดีตนายกฯ บิ๊กจิ๋ว ที่ประกาศวางมือทางการเมืองอย่างเป็นทางการไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ช่วงที่ใครต่อใครแห่ไปอวยพรปีใหม่เมื่อวันวานที่ผ่านมา แม้เสียงปี่ เสียงกลองจะเริ่มครางกระหึ่มขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้เสือ สิงห์ กระทิง แรด สมเสร็จ กระซู่ ประเภทเขี้ยวยาวเฟื้อยเลื้อยลากดินและเกล็ดแตกลายงาทั้งหลาย เริ่มออกเดินสาย เพ่นพ่าน กันอีกครั้ง...
----------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...คำพูด คำเตือน ของ บิ๊กจิ๋ว ก็น่าจะพอรับฟังได้ เพราะคงไม่ได้เกี่ยวกับประโยชน์โพดผล ในทาง ส่วนตั๊ว-ส่วนตัว อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะคำเตือนถึงนายทหารรุ่นน้อง อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ที่ต้องกลายสภาพเป็น ทหารการเมือง ไปอีกราย แม้เป็นคำเตือนแบบสั้นๆ เรียบๆ ง่ายๆ แต่ก็ออกจะลึกซึ้งอยู่พอสมควร คือ ให้สุขุม-เยือกเย็น-อย่าบ่นมาก...และใช้คนให้เป็น ส่วนผู้ที่ได้รับคำเตือน จะนำคำพูดที่กลั่นออกมาจากความบริสุทธิ์ใจ ของอดีต ทหารการเมือง รุ่นพี่ ไปใช้ประโยชน์ได้มากน้อยขนาดไหน อันนั้น...ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ ประสิทธิภาพในการฟัง ว่าฟังแล้วได้ยิน-ไม่ได้ยิน มาก-น้อยขนาดไหน...
---------------------------------------------------------
แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง...ที่มังกือการเมืองและงูดินทางเศรษฐกิจอย่าง บิ๊กจิ๋ว ได้ประมาณการเอาไว้ โดยจะถือเป็นคำเตือน หรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่จะว่ากันไป คือการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจปีหน้า ที่ใครต่อใครคิดว่าฟื้นแล้ว เงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว แต่ในสายตา บิ๊กจิ๋ว กลับเห็นว่าน่าจะแย่หนักขึ้นไปอีก!!! อันนี้นี่แหละ...ไม่ว่าได้ยิน-ไม่ได้ยิน คงต้องคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะสิ่งที่ทำให้ สากกะเบือบิน ปลิวว่อนเข้าใส่รัฐบาลในแทบทุกทิศทุกทาง ตลอดช่วงระยะที่ผ่านมา ก็คือเรื่องของ เศรษฐกิจ นั่นแหละเป็นหลักใหญ่...
----------------------------------------------------------
คือถ้าดูจาก เศรษฐกิจโลก อะไรต่อมิอะไรมันน่าจะพลั่กๆๆ อยู่ตามสมควร จากภาวะที่เคยซึมๆ เซาๆ ต่อเนื่องกันมานานแสนนาน ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ที่เขยิบขึ้นไปถึง 3.6 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าที่เคยประมาณการเอาไว้ก่อนล่วงหน้า และสูงกว่าการขยายตัวของปีที่แล้ว ที่อยู่ในระดับ 3.2 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้การคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า เชื่อว่าน่าจะเพิ่มขึ้นไปอีกไม่ต่ำกว่า 3.7 เปอร์เซ็นต์เป็นหลักใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมองถึงการค้าๆ-ขายๆ ที่ออกจะโตกันแบบพรวดๆ พราดๆ คือจาก 2 ปีที่แล้ว การขยายตัวของการค้าอยู่ในระดับแค่ 2.4 หรือ 2.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง แต่มาปีนี้ถึงกับกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 4.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว อันส่งผลให้ประเทศใดก็ตามที่อยู่ได้ด้วยการส่งออก-นำเข้า อย่างเช่นประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย เลยพลอยได้รับอานิสงส์ชนิดหน้าบวม หน้าบาน และทำให้ เฮียกวง หรือ ป๋าดัน ได้รับการติดดาบ ติดเทอร์โบ อยู่ในทุกวันนี้...
----------------------------------------------------------------
แม้จะถูกวิพากษ์ วิจารณ์ ถึงการโตทางเศรษฐกิจ ว่ายังโตกันในแบบ รวยกระจุก-จนกระจาย แต่ถ้าดูจากลักษณะอาการของ ป๋าดัน เที่ยวนี้ ก็ดูจะเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับบรรดาชาวรากหญ้า รากฝอย ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ผลงานที่อาจถือว่าพอ เตะตา อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ก็เช่น การ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ของกระทรวงการคลัง ที่ต้องถือว่าทำได้ ไม่เลว อยู่พอสมควร แต่จะยกระดับไปถึงขั้น พอใช้, ดีพอใช้ ดีทุกๆ วัน ไม่ใช่เฉพาะแต่ ดีวันจันทร์ หรือไม่ ประการใด อันนั้น...คงต้องดูกันยาวๆ ว่าระหว่างความเป็น นักการตลาด กับ นักเศรษฐกิจ มันจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันหรือไม่...
----------------------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากเมื่อไหร่ที่ เศรษฐกิจโลก มันดันไม่ได้เป็นไปตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ ผู้ถนัดในการคาดการณ์ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า และใช้เวลาอีก 6 เดือนต่อมา ในการให้คำอธิบายว่าเหตุใดแนวโน้มเศรษฐกิจจึงไม่ได้เป็นไปตามที่ตัวเองคาดการณ์เอาไว้ หรือพูดง่ายๆ ว่า...ดันเป็นไปแบบที่งูดินทางเศรษฐกิจอย่าง บิ๊กจิ๋ว ทำนายเอาไว้ล่วงหน้า ว่าอาจจะแย่หนักขึ้นไปใหญ่ อันนี้..ต้องเรียกว่าถึงจะสุขุม-เยือกเย็น-ไม่บ่นมากซักปานใด แต่คงต้อง ผมพอแล้ว อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้โดยเด็ดขาด!!!
----------------------------------------------------------------
และเอาเข้าจริงๆ แล้ว...โอกาสจะเป็นไปตามที่ บิ๊กจิ๋ว ท่านคาดการณ์ ทำนาย ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาซะเลย เพราะแม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมันจะขยับเขยื้อน เคลื่อนไหว ดูโตๆ ของมันขึ้นมามั่ง แต่ในแง่ อัตราเสี่ยง หรือ ปัจจัยผันแปร ที่อาจทำให้มันกลับลงไปเอาหัวมุดดิน หรือมุดลงไปในชักโครก ก็มีอยู่ด้วยกันมิใช่น้อย โดยเฉพาะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การทอง ทั้งหลาย ท่านกำลังมองเขม้นไปยัง เสถียรภาพทางการเงิน ของระบบโลก ซึ่งเต็มไปด้วย ฟองสบู่ จำนวนไม่น้อยซุกซ่อนอยู่ในเส้นเลือดทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะฟองสบู่ใน ตลาดตราสารหนี้ ที่อาจแตกดังโพละขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ รวมทั้ง เสถียรภาพทางการเมือง ของระบบโลก ที่ออกไปทางง่อนแง่น ง่อกๆ แง่กๆ เต็มที ชนิดแทบไม่รู้ว่า คิมน้อย กับ ทรัมป์บ้า ใครจะบ้ากว่าใครกัน และใครจะ นอนละเมอเข้าสู่สงคราม แบบตัวเองก็ไม่รู้เนื้อ รู้ตัว ไปจนถึงสงครามในตะวันออกกลาง ที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งไปถึง 300 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเอาง่ายๆ ถ้าหาก สองพี่เบิ้มใหญ่ อย่างซาอุฯ และอิหร่าน พร้อมที่จะเลิกเป็น อีแอบ หันมาใส่แบบสว่างจิตกันไปเลย ฯลฯลฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ...ที่ต้องคิดๆ กันเอาไว้ก่อนล่วงหน้า อย่าเอาแต่ ดัน กันลูกเดียว เพราะยิ่งดันเจ็บ ดันแรง ยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเศรษฐกิจโลกมันไม่ได้เป็นใจซะอย่าง ยังไงๆ คงหนีไม่พ้นต้อง ผมพอแล้ว กันจนได้นั่นแล...
--------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Fritz R.S. Dressler (อีกครั้ง)... Predicting the future is easy. It’s trying to figure what’s going in now that’s hard.- การคาดคะเนอนาคตนั้นง่าย...แต่การพยายามไตร่ตรองว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นขณะนี้นี่สิ...ยากเอามากๆ...
-----------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |