มีข่าวมาระยะหนึ่งแล้วว่าจีนได้สร้างระบบที่เรียกว่า "เครดิตทางสังคม" หรือ Social Credit System เพื่อให้คะแนนประชาชนคนจีนตามความประพฤติทางสังคม
คนจีนชอบหรือไม่ชอบไม่อาจจะทำโพลที่นั่นได้ เพราะเขาปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ที่ไม่มีสิทธิ์ถามความเห็นที่อาจจะแย้งกับผู้มีอำนาจ
แต่ถ้าศึกษารายละเอียดของระบบนี้แล้ว จะพบว่ามีทั้งน่าเลื่อมใสและน่าหวาดหวั่นไปพร้อมๆ กัน อยู่ที่ว่าคุณมองว่าการให้ "คะแนนความประพฤติ" ที่มีรัฐเป็นคนวางกลไกควบคุมและกำหนดกติกานั้น เป็นการส่งเสริมการอยู่ร่วมกัน หรือเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลเป็น Big Brother ที่สามารถกำหนดชะตากรรมของคุณได้ทุกย่างก้าวของชีวิต
เพราะภายใต้ระบบ "เครดิตสังคม" นั้น รัฐบาลสามารถ "ให้คุณให้โทษ" ทุกคนได้ "คะแนน" ที่คุณได้หรือเสียไปด้วยความประพฤติประจำวันของคุณ
ระบบนี้เป็นอย่างไร?
วันก่อนผมอ่านคำอธิบายจากเว็บไซต์ "จีนศึกษา" ที่ทำให้เข้าใจแนวคิดนี้ได้ดี จึงขออนุญาตนำมาเล่าต่ออย่างนี้ครับ
1.สำนักงานคณะรัฐมนตรีจีนเผยแพร่เอกสาร "ความเห็นชี้นำการเร่งผลักดันการสร้างระบบเครดิตทางสังคม และการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลแบบใหม่ที่ถือเครดิตเป็นพื้นฐาน" โดยระบุว่าต้องจัดตั้งกลไกใหญ่นี้และปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับการกำกับดูแล ปรับปรุงระเบียบตลาดให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในการประกอบธุรกิจให้ดีขึ้น และผลักดันการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง เนื่องจากเมื่อย่างเข้าสู่เดือนกรกฎาคมของปี หน่วยงานต่างๆ ของจีน เช่น กลุ่มสังคม กองทุน หน่วยงานราชการ กลุ่มชุมชนในพื้นที่ระดับล่างจะเข้าสู่ "สถานภาพ" ใหม่ ด้วยการใช้ทะเบียนที่ระบุถึงรหัสเครดิตทางสังคม การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าจีนเข้าสู่การใช้ระบบ "รหัสเครดิตทางสังคม" แบบเดียวกันทั่วประเทศในเบื้องต้นแล้ว
2.การแจก "รหัสเครดิตทางสังคม" ทั่วประเทศ เท่ากับเป็นการแจก "หมายเลขสถานภาพ หรือ หมายเลขบัตรประชาชน" ที่เป็นระบบเดียวกันให้แก่นิติบุคคลหรือหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสร้างความโปร่งใสทางเครดิตมากขึ้น ทุกภาคส่วนของสังคมจีนเห็นว่าจะมีส่วนกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จากภาคการตลาด และเป็นหลักประกันการกำกับดูแลและการบริการจากภาครัฐ รวมถึงกลไกการกระตุ้นการรักษาเครดิตทางสังคม และลงโทษผู้ทำผิดหลักเครดิตทางสังคมในเบื้องต้น ตลอดจนการสร้างเมืองนำร่องระบบเครดิตทางสังคม
นอกจากนี้ยังจะเร่งเดินหน้าบัญญัติกฎหมายและมาตรฐานเกี่ยวกับเครดิตทางสังคมให้สมบูรณ์ขึ้นในเร็ววัน ซึ่งล่าสุด สำนักงานการบินพลเรือนจีน ประกาศบัญชีรายชื่อผู้ไร้ความน่าเชื่อถือทางสังคมที่มีโทษร้ายแรง ไม่อนุญาตให้โดยสารสายการบินพลเรือน จำนวน 86 ราย ซึ่งประกาศในเว็บไซต์ทางการของสำนักงานการบินพลเรือนจีนและเว็บไซต์เครดิตไชน่า (creditchina.gov.cn) ในประกาศระบุว่า ผู้ไร้ความน่าเชื่อถือดังกล่าวจะถูกห้ามโดยสารเครื่องบินพลเรือนเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป เนื่องจากผู้ไร้ความน่าเชื่อถือดังกล่าวกระทำผิดกฎหมาย กฎข้อบังคับทางการปกครองที่เกี่ยวข้องในท่าอากาศยาน หรือกิจการการบินพลเรือนจนถูกหน่วยงานรักษาความสงบดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายการปกครอง เป็นต้น
3.ข้อสังเกต การดำเนินการของระบบเครดิตทางสังคมดังกล่าว รัฐบาลจีนได้ขอความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น China Rapid Finance, Tencent เจ้าของ WeChat ที่มีผู้ใช้กว่า 850 ล้านคน , Alibaba เจ้าของ Alipay ซึ่งมี Fin Tech Platform ที่ออกแบบมาไม่เพียงแต่เป็นช่องทางการทำธุรกรรมการเงิน แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลลักษณะการจับจ่ายต่างๆ รวมถึงการคำนวณ tax อีกด้วย ทั้งนี้ คะแนนความน่าเชื่อถือของประชากรมีตั้งแต่ 350-950 คะแนน โดยแบ่งออกเป็นการให้คะแนนตามกิจกรรมต่างๆ เช่น การ shopping หรือความสัมพันธ์กับผู้อื่น ฟังดูน่ากลัว แต่ดูเหมือนว่าประชากรจีนไม่ได้ต่อต้านระบบนี้เท่าไหร่นัก เพราะหากคุณมีคะแนนตั้งแต่ 600 คะแนนเป็นต้นไป ก็จะมีโอกาสในการขอสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ได้สูงถึง 5,000 หยวน (ประมาณ 25,000 บาท) หรือถ้ามีคะแนนสูงถึง 650 ก็จะสามารถเช่ารถได้โดยไม่ต้องมีค่ามัดจำ และความพิเศษสูงขึ้นเรื่อยๆ หากคะแนนสูงถึง 700 ก็จะสมัครไปเที่ยวสิงคโปร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง และหากคะแนนสูงไปถึง 750 คะแนน ก็จะได้ Fast Track ในการขอวีซ่ายุโรป เป็นต้น
สรุปได้ว่า ทุกวันนี้ระบบการให้รางวัลและลงโทษทางสังคมในจีนกำลังขยายขอบเขตการใช้มากขึ้น ข้อมูลเมื่อปลายเดือน พ.ค.ปีที่แล้ว ศาลต่างๆ ทั่วประเทศได้ประกาศชื่อผู้ถูกดำเนินคดีไร้ความน่าเชื่อถือทางสังคมจำนวน 10,890,000 คน
ขั้นต่อไป จีนจะผลักดันการพัฒนาระบบเครดิตทางสังคมด้วยการเร่งจัดตั้งกลไกกำกับดูแลแบบใหม่ พัฒนาระบบเครดิตในเขตปริมณฑลสำคัญ และปรับกลไกการให้รางวัลและลงโทษผ่านเครดิตทางสังคมของทั้งสังคมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เขาบอกว่าเป้าหมายสำคัญของระบบนี้คือ การสร้างเสริมให้พลเมืองของประเทศเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีระเบียบวินัย จะได้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสงบสุข
แต่อีกด้านหนึ่งที่รัฐบาลจีนไม่ได้บอกก็คือว่า ระบบนี้สามารถเก็บข้อมูลของประชาชนทุกคนในทุก ๆ เรื่องโดยที่เจ้าตัวไม่จำเป็นต้องอนุญาตเลย
สังคมจีนวันนี้ไม่มีคำว่า "สิทธิส่วนบุคคล" เหลืออยู่เลย!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |