สื่ออเมริกันอ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐหลายรายว่า ฮัมซา บินลาดิน ลูกชายคนที่ 15 ของอุซามะห์ บินลาดิน ที่ถูกวางตัวสืบทอดตำแหน่งของบิดา โดนฆ่าตายแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

แฟ้มภาพ ฮัมซา บินลาดิน / FEDERATION FOR DEFENSE OF DEMOCRACIES / AFP

    รายงานของเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม อ้างแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ 3 ราย ที่ยืนยันว่า ฮัมซา บินลาดิน ลูกชายของอุซามะห์ บินลาดิน อดีตผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ โดนฆ่าตายแล้ว แต่ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเขาตายเมื่อใดและอย่างไร รายงานของนิวยอร์กไทมส์ในเวลาต่อมาอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 ราย ยืนยันว่าฮัมซาโดนฆ่าตายระหว่างปฏิบัติการที่สหรัฐเกี่ยวข้องด้วยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

    ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวพยายามสอบถามประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับข่าวของเอ็นบีซีนิวส์ แต่ผู้นำสหรัฐกล่าวตอบว่า เขาไม่ต้องการให้ทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้

    เอเอฟพีกล่าวว่า รายงานข่าวของทั้งเอ็นบีซีและไทมส์ชี้ว่า ฮัมซาโดนฆ่าตายก่อนที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจะประกาศตั้งค่าหัวนำจับเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ 1 ล้านดอลลาร์

    คำประกาศของกระทรวงการต่างประเทศเวลานั้นกล่าวว่า ฮัมซาเป็นลูกคนที่ 15 จากลูกทั้งหมด 20 คน ของอุซามะห์ บินลาดิน เขาเกิดจากภรรยาคนที่ 3 และเชื่อว่ามีอายุประมาณ 30 ปี ได้รับการฟูมฟักให้เป็นผู้นำเครือข่ายอัลกออิดะห์

     ข้อมูลจากสถาบันบรูกกิงส์กล่าวว่า ฮัมซาอยู่ข้างกายพ่อของเขาในอัฟกานิสถานก่อนการก่อวินาศกรรมที่สหรัฐ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 และภายหลังสหรัฐนำกองกำลังพันธมิตรรุกรานอัฟกานิสถาน เขาก็ติดตามพ่อของเขาหนีไปอยู่ปากีสถานด้วย เช่นเดียวกับแกนนำอาวุโสของอัลกออิดะห์ส่วนใหญ่

    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ชายหนุ่มซึ่งบางครั้งเขาถูกเรียกขานว่า "มกุฎราชกุมารแห่งญิฮาด" เคยส่งสารผ่านข้อความเสียงและวิดีโอเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนโจมตีสหรัฐและประเทศอื่นๆ เพื่อล้างแค้นที่สหรัฐสังหารพ่อของเขาที่เมืองแอบบอตตาบัดของปากีสถานเมื่อเดือนพฤษภาคม 2554

    ปฏิบัติการของหน่วยซีลสหรัฐครั้งนั้นสามารถยึดเอกสารจากบ้านที่บินลาดินใช้ซ่อนตัว ซึ่งบ่งบอกว่าฮัมซากำลังได้รับการบ่มเพาะให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำอัลกออิดะห์ สหรัฐยังพบวิดีโอการแต่งงานระหว่างฮัมซากับลูกสาวของสมาชิกระดับอาวุโสของอัลกออิดะห์ โดยเชื่อว่างานจัดที่อิหร่าน

    ฮัมซาถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำผู้ก่อการร้ายโลกเมื่อปี 2560 โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวถึงเขาว่ามีโอกาสขึ้นเป็นผู้นำอัลกออิดะห์ ซึ่งขณะนั้นมีอัยมาน อัลซอวาฮิรี เป็นผู้นำ เดือนมีนาคมปีนี้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังได้ประกาศเพิกถอนสัญชาติของเขาด้วย.