แม้จะเข้าสู่วัยหลัก 7 แล้ว แต่ภารกิจการงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย จึงทำให้ไลฟ์สไตล์ของ อ.ณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริมกิจกรรมทางกาย จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นตัวอย่างการหันมาดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวเป็นโต้โผในการวิ่งจอมบึงมาราธอน ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการจัดงานวิ่งออกกำลังกายมาถึงจนปัจจุบันนี้ ตลอดจนการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ อย่างการเลือกกินอาหารที่ปลอดสารพิษ การลงมือปลูกผักสวนครัวปลอดภัยรับประทานเอง ก็ถือเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และทำให้เจ้าตัวได้ขยับเขยื้อนร่างกาย

(อ.ณรงค์ เทียมเมฆ)

      อ.ณรงค์ ในวัย 73 ปี บอกว่า การดูแลสุขภาพของตัวเองเริ่มจาก การเลือกรับประทานอาหารที่พอเหมาะพอดี และการกินในแต่ละครั้งนั้นจะต้องไม่มากจนเกินไป ที่สำคัญต้องคำนึงอยู่เสมอว่าอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้นควรต้องปลอดสารพิษ และที่บ้านก็จะปลูกทั้งผักสวนครัวได้รับประทานเอง รวมถึงผลไม้ “ตระกูลมะ” ที่ดีต่อสุขภาพช่วยย่อยและป้องกันโรคหวัดได้ค่อนข้างดี

      “นอกจากการเลือกรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว อาหารที่ดีต่อสุขภาพจะต้องปลอดจากสารเคมีด้วย ส่วนตัวผมปลูกผักและผลไม้รับประทานเองที่บ้าน ทุกวันนี้สวนหน้าบ้านจึงเต็มไปด้วยผักผลไม้ตระกูลมะ เช่น มะละกอ, มะม่วง, มะพร้าว, มะขาวหวาน, มะขาวเปรี้ยว, มะอึ๊ก (สำหรับตำน้ำพริก) กะเพราะแดง, กะเพราเขียว, ตำลึง, กระถิน โดยเฉพาะผักกระถินที่สามารถนำไปทำเป็นเมนูชุบไข่ ที่ถือว่าเป็นเมนูปลอดสารเคมีสำหรับตัวเองและครอบครัว ส่วนเนื้อสัตว์ก็จะประทานสัตว์ใหญ่ที่ย่อยยากน้อยที่สุด นานๆ จะกินเนื้อหมูและเนื้อวัวสักครั้ง แต่จะเลือกกินปลาเป็นประจำ ส่วนการปรุงอาหารก็จะเลี่ยงรับประทานหวาน เค็ม แต่เน้นปรุงให้จืดที่สุด

      ส่วนการขยับเขยื้อนร่างกายนั้น อ.ณรงค์ เน้นยำว่า การเอกเซอร์ไซส์ที่เรียกว่า “การมีกิจกรรมทางกาย” ถือเป็นการออกกำลังกายของตัวเอง เพราะถ้าพูดถึงการออกกำลังกาย ทุกคนจะต้องโฟกัสไปที่ชนิดของกีฬา เช่น การเล่น โยคะ การเต้นแอโรบิก การว่ายน้ำ เป็นต้น ที่สำคัญหากมีเวลาว่าง เจ้าตัวก็จะสลับออกไปวิ่งเพื่อสุขภาพอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 วัน อีกเช่นกัน ซึ่งเป็นการวิ่งกับภาคีเครือข่ายที่จัดงานวิ่งทุกวันอาทิตย์ ภายในระยะทาง 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางมาตรฐาน ที่งานนี้เจ้าบอกว่านอกจากได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้ทำงานที่ช่วยส่งเสริมการวิ่งเพื่อสุขภาพภายใต้บทบาทหน้าที่จาก “สสส.” อีกด้วย

      “การรักษาสุขภาพด้วยการมีกิจกรรมทางกายจะครอบคลุมไว้ทุกการเคลื่อนไหวที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การจอดรถยนต์ทิ้งไว้ที่บ้านและเดินไปทำงาน หากบ้านใกล้ที่ทำงาน หรือถ้าต้องไปซื้อของใกล้บ้านประมาณ 500 เมตร ก็แนะนำว่าให้เดินไปจะดีที่สุด หรือการเดินขึ้น-ลงบันไดชั้น 2 3 และ 4 และถ้ามีเวลาว่างขณะอยู่กับบ้าน เช่น หากดูทีวีก็แนะนำให้ยืนดูพร้อมกับยืนแกว่งแขนให้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อรายการทีวีที่รับชม นอกจากนี้ วันไหนที่ผมมีเวลาว่างก็ออกไปวิ่ง เพราะเป็นการเอกเซอร์ไซส์ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ชีพจรเต้นเป็นปกติ เลือดลมไหลเวียนสูบฉีดได้ดีขึ้น หัวใจทำงานเป็นปกติ ซึ่งการวิ่งของผมจะวิ่งในสนามที่ภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมการวิ่งทุกวันอาทิตย์ เนื่องจากหน้าที่การงานปัจจุบันที่สสส.นั้น ก็คือการส่งเสริมการวิ่งเพื่อสุขภาพ ที่สำคัญหลักการวิ่งของผมคือ ผมเน้นวิ่งเพื่อสุขภาพ ดังนั้นก็มักจะ “วิ่งช้าๆ วิ่งนานๆ วิ่งไกล” อีกทั้งการวิ่งที่ดีต้องมีการฝึกฝนอยู่สม่ำเสมอ”

        อ.ณรงค์ บอกอีกว่า จุดเริ่มต้นของการวิ่งนั้น เริ่มตั้งแต่ในวัยเด็ก เนื่องจากบ้านที่อยู่อาศัยจะมีทรายปกคลุมอยู่ทั่ว ดังนั้นเวลาที่เดินบนทรายจะค่อนข้างร้อน เลยต้องวิ่งเนื่องจากที่บ้านสมัยก่อนยังไม่มีรถยนต์ เรียกได้ว่าวิถีชีวิตสมัยก่อนนั้น คือการเดินและวิ่งเท่านั้น กระทั่งโตมาได้เรียนหนังสือ เล่นกีฬาตั้งแต่ระดับปฐมและมัธยมกระทั่งจบมหาวิทยาลัย ก็ได้ใช้การวิ่งเป็นทั้งกิจกรรมสันทนาการ และปัจจุบันก็มีกลุ่มออกกำลังกายจากการวิ่งเช่นเดียวกัน เพราะข้อดีของการเอกเซอร์ไซส์ดังกล่าวนั้นไม่ต้องปะทะกับผู้อื่น เช่น กีฬาฟุตบอล หรือไม่ต้องรอใครแบบกีฬาตีเทนนิส ที่ต้องเล่นเป็นทีม 2 คน เนื่องจากการวิ่งสามารถออกกำลังเพียงลำพังได้นั่นเอง

      ทว่าหากย้อนกลับไปเมื่อ 35 ปีก่อนหน้านี้ อ.ณรงค์ เริ่มทำงานที่เกี่ยวกับการวิ่งอย่างจริงจัง โดยการจัดวิ่งจอมบึงมาราธอน จ.ราชบุรี ที่ถือได้ว่าเป็นการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพนำร่องที่ทำต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นการสิ่งเสริมการออกกำลังเพื่อสุขภาพอย่างง่ายๆ ด้วย “การวิ่ง” นั่นเอง ประกอบกับช่วงอายุก่อน 60 ปีนั้น งานที่ทำคือการเป็นทั้งอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย โดยสอนในคณะครุศาสตร์ นอกจากนี้ก็มีงานด้านการบริหารอย่างการเป็นอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี แต่งานปัจจุบันที่ทำหลังเกษียณ คือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านส่งเสริมกิจกรรมทางกายของ “สสส.” ซึ่งทำงานมาประมาณ 17 ปี ที่เน้นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพเช่นกัน

      “งานที่ทำปัจจุบันก็ยังมีความเกี่ยวเนื่องกับการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพอยู่เช่นเคย เนื่องจากงานที่ สสส.นั้น ผมอยู่ที่นี่มา 17 ปี ตั้งแต่ สสส.เริ่มก่อตั้ง ซึ่งตอนแรกภารกิจนั้นคือการส่งเสริมการออกกำลังกาย แต่ปัจจุบันได้ทำควบคู่กับการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย นอกจากนี้ผมก็เป็นประธาน “มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังคปริณายก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จอมบึง” และเป็นกรรมการและรองประธาน “มูลนิธิวิทยา หมู่บ้านจอมบึง” ซึ่งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงที่ตั้งมา 36 ปี ด้วยการส่งเสริมเรื่องการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง”.