ถึงกับตลกไม่ออกเลยทีเดียว สำหรับ โน้ต เชิญยิ้ม ที่มีเพจหนึ่งกล่าวหา "แตงกวา" ลูกสาวคนเดียวของตนเองว่ามีลูกแล้ว ทำเอาเจ้าตัวปรี๊ดแตกโพสต์ข้อความระบายผ่านทางอินสตาแกรมกันเลยทีเดียว ล่าสุด โน้ต เชิญยิ้ม พร้อมภรรยาและลูกสาว ได้เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ถึงประเด็นดังกล่าว
ตอนนี้เรื่องฟ้องเพจกุข่าวมั่วไปถึงไหนแล้ว?
โน้ต เชิญยิ้ม : จริงๆ ผมเป็นมนุษย์พ่อคนนึงแล้วผมก็ทำหน้าที่พ่อ ใครก็แล้วแต่ไม่มีสิทธิ์มารังแกลูกผม เรามีหน้าที่คอยปกป้อง ส่วนดำเนินคดีเราแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ดแล้ว ลงบันทึกประจำวันไว้ ส่วนผลของคดี หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับเพจนี้ขั้นตอนมันมีอยู่ แต่ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ไม่ได้คอขาดบาดตายอะไร แต่คนที่ทำผิดต้องได้รับโทษที่คุณทำ เพราะคุณกำลังนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
เขาออกมาขอโทษแล้ว เราจะมีการยอมความไหม?
โน้ต เชิญยิ้ม : ทั้งส่งข้อความมาขอโทษ ทั้งให้คนที่คิดว่ามาพูดกับเราแล้วเราจะหยุดได้ แต่เราก็พูดไปว่าคนเราต่อให้รักกันขนาดไหน แต่บางเรื่องก็ขอกันไม่ได้นะ เขากำลังล้อเล่นกับความรู้สึก ความรู้สึกบางอย่างเรามองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ซึ่งเขาก็ขอโทษ ลบข้อความออกแล้ว ส่งขอความมาขอโทษ แล้วมีปลอมเป็นนักข่าวช่อง31 ถามว่าคดีเป็นยังไง ผมอยากไปพบ อย่างโน้น อย่างนี้ คุยไปคุยมาผมรู้แล้วว่าไม่ใช่ เสียดายเราไม่ได้อัดไว้ตอนคุยโทรศัพท์
จะดำเนินการขั้นสูงสุด?
โน้ต เชิญยิ้ม : ถามว่ามันน่าจะต้องทำไหม ตามขั้นตอนมันต้องทำ คือที่เขาบอกว่าอาโน๊ตอยู่ที่ไหนผมจะไปกราบขอโทษ ก็มาสิมากราบ มาขอโทษ เรื่องแบบนั้นไม่เป็นไร ทำไมผมต้องไปแจ้งความไว้ก่อน ตำรวจบอกดีแล้วมันจะได้ไม่หมดอายุความ ถึงแม้คุณจะลบแล้ว แต่เรียกว่าการทำผิดสำเร็จแล้ว ผมมีลูกสาวคนเดียว เขารังแกขนาดนี้เรื่องไม่ขึ้นเป็นไปไม่ได้ ผมทำหน้าที่พ่อเท่านั้นเอง อีกอย่างเพจนี้เล่นเฉพาะลูกตลกเยอะมาก ลูกหม่ำ ลูกเท่ง โดนหมด ลูกเท่งหาว่าใช้เงินวันละเป็นหมื่นลูกหม่ำใช้เงินวันละเป็นแสน ผมเถียงแทนได้เลย ลูกเท่งเขาดูแลตลาดเท่ง เถิดเทิง อยู่นครนายก เขาก็มีเงินเดือนตรงนั้น ลูกหม่ำ ผมเคยโพสต์ว่าพวกเขาผิดตรงไหนที่เกิดเป็นลูกตลก พวกเราเป็นตลกลำบากมาก เมื่อเราพอมีบ้าง เราไม่อยากให้ลูกสัมผัสตรงนั้นเลยแค่นั้นเอง เราไม่ได้สปอยลูกนะ ใครเคยยืนดูเขากินก๋วยเตี๋ยวเหมือนผมไหม แล้วผมภาวนาว่าคุณกินอย่าหมดเลย เพราะถ้าคุณลุกไปผมจะกิน หิวมากตังก็ไม่มี แล้วในเมื่อเรามีตังซื้อก๋วยเตี๋ยวเองได้เราอยากให้ลูกเราเป็นอย่างนั้นหรอ ไม่มีทาง ผมไม่ยอม ผมเป็นคนบ้านนอก เป็นคนจริง ผมกัดไม่เลิก
กับข่าวที่เกิดขึ้น...
แตงกวา : ตอนแรกหนูเป็นคนไม่ค่อยเสพข่าวโซเชียล คือหนูจะมีกรุ๊ปครอบครัว คุยกับครอบครัวอยู่แล้ว แล้วแม่ก็จะมีเพื่อนส่งมาว่าเขียนถึงหนูแบบนี้นะ หนูก็อ้าว...แล้วคนจะเข้าใจผิดหนูไปถึงไหน มาหาว่าหนูมีลูก ทั้งๆที่หนูยังไม่มี ไม่มีสามีเลยด้วยซ้ำ พอหนูเข้าไปดูในเพจ 500-600 กว่าแชร์ แล้วคอมเมนต์เป็นพันด่าทั้งนั้นเลย หนูก็รู้สึกไม่ดี แล้วก็เสียใจ อย่างเช่นเนื้อข่าวบอกว่าเรื่องใช้เงินของลูกตลก แต่เนื้อหาที่เขียนถึงหนูมันเกี่ยวกับหนูมีลูก ไม่เกี่ยวกับหัวข้อข่าวเลย มันทำให้หนูเสียความรู้สึกแล้วเสียใจ จนหนูไปคุยกับป๊าว่าเราจะทำยังไงดี คือแบบนี้ไม่ได้หนูเสียความรู้สึกมาก
โน้ต เชิญยิ้ม : เขาเข้ามาเสียงสั่นป๊าหนูมีลูกแล้วหรอ แล้วผัวหนูล่ะ โอ้โห...คนเป็นพ่อ ทำไมถึงเป็นขั้นนี้ ซึ่งมันไม่ถูก
พี่ต้อย (ภรรยา) : พอรู้ก็ตกใจ เอาอีกแล้วหรอพวกลูกตลก แล้วทำไมมันมาหนักที่ลูกเรา แล้วเราก็มีความรู้สึกเสียใจ เพราะลูกอยู่เฉยๆ แล้วทำไมข่าวที่ไม่เป็นความจริงมันเข้ามา
แตงกวา : ตอนนี้ดีขึ้น หนูพยายามที่จะเลี่ยงมัน พยายามหาอะไรทำให้หนูไม่คิดก็ดีขึ้นกว่าตอนแรกเยอะเลย
พี่ต้อย : ช่วงนี้ไม่มีแล้วค่ะ แต่ก่อนหน้านี้มีสงสารลูก เขาไม่สบาย เขาป่วย
ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า สิ่งนี้ก็เลยยิ่งตอกย้ำให้คุณพ่อกับคุณแม่ห่วงขึ้นไปอีก?
โน้ต เชิญยิ้ม : ลูกผมผมไม่บอกให้รู้เลยว่าเขาเป็นโรคนี้ เรารักษา ดูแลกันมา พยายามทำให้ลูกเราสมบูรณ์ให้ได้ อยู่ๆมีเรื่องราวแบบนี้ บางคนอาจจะบอกว่ามันโพสต์แค่นี้เรื่องเล็กๆ ไม่เสียหาย แต่รูรั่วเร็กๆ ทำให้เรือสำเภาใหญ่ๆจมได้นะ ถ้าเราไม่อุด ไม่รักษามัน ผมรู้สึกไม่ใช่เรื่องเล็กนะ พอเขาพูดว่าก็เขาไม่รู้ว่าลูกมึงป่วย ถ้าเขารู้เขาคงไม่เขียน คือรู้ไม่รู้ก็ไม่สมควรทำแบบนี้ ผมตั้งแต่รู้ว่าลูกเป็น ไปหาหมอ เอายามากินถ้าลูกยังไม่ปิดไฟห้องนอน บางทีผมกลับมาจากทำงานก็ดึก บางทีแอบฟัง กลัวลูกจะทำร้ายตัวเอง เพราะโรคนี้ยิ่งรู้ยิ่งเข้าไปศึกษามันน่ากลัว แต่จริงๆ มันไม่ได้เป็นโรคที่น่ากลัว คนอยู่ใกล้ตัวเท่านั้นที่จะช่วยเรื่องนี้ได้
อธิบายโรคนี้ให้ฟังหน่อย?
แตงกวา : คนที่เป็นโรคซึมเศร้า มันไม่ใช่แค่ซึมแล้วเศร้าถึงจะเป็นได้ แต่มันจะมีอาการพ่วงหลายๆ อย่างด้วย อย่างเช่นคิดสั้น ทำร้ายร่างกาย อารมณ์แปรปรวน อย่างไปหาหมอเขาก็ให้เราทำแบบสอบถามว่าเราตรงข้อไหนบ้าง แล้วส่วนใหญ่ที่หนูทำคือตรงเกือบทุกข้อเลย คุณหมอวินิฉัยว่า หนูเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง ก็คือการคิดสั้นบ่อยๆ การทำร้ายร่างกายตัวเอง
นี่คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้เลย?
โน้ต เชิญยิ้ม : ผมเพิ่งมาเข้าใจว่าโรคซึมเศร้าไม่ได้เป็นโรคเรียกร้องความสนใจ แต่เป็นโรคที่ให้คนรอบข้างเข้าใจอารมณ์ของเขา พอเรารู้ว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้า เราก็มอง เออ...ใช่ เรามองข้ามปัญหาของลูก เสียใจ นั่งร้องไห้ นี่เกือบเสียลูกไปแล้วเหรอ ลูกผู้หญิงคนเดียวที่เราอยากได้เขาเหลือเกิน เมื่อมีแล้วมาโดนทำร้าย โดนรังแกทางจิตใจจากบุคคลที่ไม่น่าจะทำแบบนี้ เขาทำเพื่ออะไร มันก็เลยไปโกรธทางนู้นรุนแรง
พี่ต้อย (ภรรยา) : รู้ครั้งแรกก็ตกใจ เพราะเราไม่คิดว่าลูกจะเป็น ตอนเด็กๆ ก็จะดุเขาบ่อย เขาดื้อ แล้วเถียงเรา ปิดประตูเข้าห้องอยู่คนเดียวบ่อยมาก เราก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เราเลี้ยงลูกไม่ถูกหรือไง เราทำให้เขาเสียใจหรอ บางเพจบอกว่าเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ
โน๊ต เชิญยิ้ม : หาว่าอยากดัง เกาะพ่อดัง เรียกร้องความสนใจจากสังคม มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะมาสร้างเรื่องอะไรแบบนี้ เพียงแต่อยากให้เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวของรอยยิ้ม แล้วคุณมารังแก มาเล่นกับความรู้สึกอย่างนี้ได้ยังไง
วินาทีที่รู้ว่าลูกไปหาหมอด้วยโรคซึมเศร้า...
โน้ต เชิญยิ้ม : สงสาร เหมือนอกจะแตก คือผมอ่านเยอะ ผมรู้สึกว่าเราเลี้ยงดูมาขนาดนี้แต่อยู่ๆมาเป็นโรคซึมเศร้า ประโยคแรกที่เข้ามาในหัวคือเราจะทำยังไง มันจะรักษาได้ไหม ใน 1-2 วันแรกผมเครียดมาก เครียดแบบไม่เคยเครียดแบบนี้มาก่อน จะทำยังไงกับลูก ชะเง้อดูที่ห้องลูก เราพยายามทำให้เขายิ้ม วันไหนที่เขายิ้มตอบเรา เราก็จะมีความสุข ผมบอกไม่ถูกผมรักลูกมาก ลูกคือแก้วตา ดวงใจ แล้วก่อนที่ผมจะรู้เขาเคยโพสต์ข้อความมาหาผมว่า “ที่หนูอยากมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เพราะผู้ชายคนนี้ เพราะป๊า รักป๊า” โอ้โห...จะร้องไห้ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เขาถึงส่งอันนี้มาให้ผม เหมือนเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่เลยถ้าไม่มีผม เรารู้สึกว่าใครไปทำอะไรลูก คุณแย่มาก คุณทำร้ายความรู้สึกของครอบครัวผมมาก คุณไม่น่าให้อภัย สังคมต้องช่วยกันลงโทษนะ คุณอย่าไปทำร้ายคนอื่นอีกเลย ขนาดผมเป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง ผมยังดูอ่อนแอไปเลย
หมอเตือนว่าอาจจะฆ่าตัวตายได้ แล้วแตงกวาก็เคยทำมาแล้ว?
แตงกวา : เอาเรื่องทำร้ายร่างกายก่อน ปกติหนูจะเป็นคนที่คิดเล็ก คิดน้อย มาตั้งนานแล้ว แต่เรื่องทำร้ายร่างกาย หนูเพิ่งเป็นตอนอยู่มหาวิทยาลัย เหมือนพอเครียดแล้วทำอะไรไม่ได้ก็จะทุบตัวเอง เวลาหนูเสียใจมากๆ หนูก็จะจิกผมเหทือนระบายไม่ไหวแล้ว พยายามจะร้องไห้ออกมา แต่ที่หนักคือหนูคิดฆ่าตัวตาย มันเคยมีเหตุการณ์ที่หนูเครียดเรื่องเรียนมากๆ แล้วตอนนั้นหนูอยู่ทำงานที่มหาวิทยาลัยดึก ช่วงนั้นเหมือนเรื่องเยอะมาก ทั้งเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว เครียด แล้วก็ยืนอยู่ตรงกระจกชั้น3 ของตึก ก็ยืนมองลงไป แต่เหมือนเพื่อนหนูรู้เขาก็เลยถามว่าคิดอะไรหรือเปล่าบอกได้นะ จริงๆ ในใจตอนนั้นหนูคิด แต่เพื่อนรู้ทันก็ดึงเราไปคุย แล้วมีอยู่ครั้งนึงเครียดมากๆ อยู่ในห้องก็เทยาจะกิน แต่ว่าขมเลยถุยออกมา เหมือนทำไม่สำเร็จสักที แต่ถามว่าคิดไหมคือคิดบ่อย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |