คดีที่ 4 คนสนิทเจ๊แดงขอศาลฎีกา ขยายเวลายื่นคำคัดค้านคดีปกปิดทรัพย์สิน


เพิ่มเพื่อน    

แฟ้มภาพ

1 ส.ค.62 - ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายประทีป ดุลพินิจธรรมา ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา และองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน สำนวนคดีหมายเลขดำ อม.9/2562 นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยกรณีกล่าวหา นายเกษม นิมมลรัตน์ อายุ 55 ปี อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนสนิทของเจ๊แดง-นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จากการพ้นตำแหน่งสุดท้ายรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 32 , 33 , 34 , 119 

กรณีสืบเนื่องจาก ป.ป.ช.มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2560 ชี้มูลความผิด นายเกษม อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ในสมัยพ้นจากตำแหน่ง รองนายก อบจ.เชียงใหม่ และเลขานุการ นายก อบจ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2559 รวม 5 กรณี ประกอบด้วยทรัพย์สินรายการหุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กว่า 20 ล้านหุ้น , ที่ดิน 7 แปลง มูลค่า 14 ล้านเศษ ,  สิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง และรถยนต์ 2 ในชื่อนายเกษม กับทรัพย์สินที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 1 ล้านบาท และเงินลงทุน ในชื่อนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรส 

โดยคดีนี้ถือเป็นคดีที่ 4 แล้วที่ ป.ป.ช. ได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยความผิดของนายเกษม หลังจากที่คดีแรก ศาลตัดสินลงโทษจำคุกไปแล้วเมื่อปี 2560 

วันนี้ นายเกษม ผู้คัดค้าน เดินทางมาศาล พร้อมขอคัดค้านคำร้องของ ป.ป.ช. ผู้ร้อง โดยขอขยายเวลายื่นคำคัดค้านออกไป 30 วัน

องค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาประสงค์คัดค้าน ป.ป.ช. ผู้ร้อง และขอขยายเวลายื่นคำคัดค้านออกไป 30 วัน เนื่องจากมีข้อเท็จจริงและเอกสารจำนวนมากอยู่ระหว่างตรวจสอบ เมื่อสอบถาม ป.ป.ช. ผู้ร้องไม่คัดค้าน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหายื่นคำคัดค้านภายในวันที่ 30 ส.ค. 2562 และให้เลื่อนสอบคำให้การไปวันที่ 13 พ.ย.นี้ เวลา 14.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีแรกที่นายเกษม ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน และมีทรัพย์เพิ่มขึ้นผิดปกตินั้น วันที่ 16 มี.ค. 2560 ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาลงโทษอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 119 จำคุก 6 กระทงๆ ละ 2 เดือน รวมเวลาทั้งสิ้น 12 เดือนโดยไม่รอลงอาญา เพราะศาลเห็นว่าพฤติการณ์แห่งคดีนั้นเป็นเรื่องร้ายแรง พร้อมสั่งห้ามนายเกษมดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดในพรรคการเมือง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช.ฯ มาตรา 34 วรรคสอง เป็นเวลา 5 ปีนับจากวันที่ 5 ต.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันที่นายเกษมพ้นจากรองนายกอบจ.เชียงใหม่ ตำแหน่งสุดท้ายด้วย

จากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน รวม 6 กรณีที่พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.เชียงใหม่ และเมื่อพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว 1 ปี , กรณีเข้ารับตำแหน่ง-พ้นตำแหน่ง-พ้นตำแหน่ง ส.ส.เชียงใหม่มาแล้ว 1 ปี , กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายก อบจ.เชียงใหม่ โดยแสดงเงินกู้ยืมของนางดวงสุดา คู่สมรส ที่กู้ยืมจากนางบุญทอง สุภารังษี มารดาของนายเกษม จำนวน 72 ล้านบาทอันเป็นเท็จ , ปกปิดเงินที่ได้จากการขายหุ้นบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) (WIN) ในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่า 26,193,205 บาท , ปกปิดเงินลงทุนในบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON) มูลค่า 74,205,972 บาทของ "นางดวงสุดา" คู่สมรส ที่ให้มารดานายเกษม ถือครองแทน

คดีที่ 2 ส่วนของแพ่งเรื่องให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ที่ศาลฎีกาฯ ก็มีคำพิพากษาในปี 2560 เช่นกันให้ทรัพย์สิน จำนวน 168,453,245 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตามที่อัยการสูงสุด เป็นผู้ร้อง จากเหตุที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดวันที่ 13 พ.ค. 2559 ว่านายเกษมมีทรัพย์เพิ่มขึ้นผิดปกติ 168,453,245 บาท สมัยดำรงตำแหน่ง ส.ส.เชียงใหม่ และที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ด้วย โดยผลของคดีแรกนี้ถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ไปแล้ว

ส่วนคดีที่ 3 ส่วนแพ่งที่อัยการสูงสุด ขอให้ทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่า มีเพิ่มขึ้นผิดปกติในสมัยพ้นจากตำแหน่ง รองนายก อบจ.เชียงใหม่ และเลขานุการ อบจ.เชียงใหม่ หุ้นกว่า 21 ล้านหุ้น ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินไปแล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"