1 ส.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีกลุ่มมาเฟียเรียกเก็บผลประโยชน์จากผู้ค้าบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนที่ใหญ่ที่สุด โดยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม(ตม.ฯ) เปิดเป็นจุดผ่อนปรนการค้า จำนวน 4 จุด ตามคำสั่งจังหวัดนครพนมประกอบด้วย 1.จุดผ่อนปรนอำเภอบ้านแพง ตั้งอยู่ที่ท่าเทียบเรือบ้านแพง บ้านโพธิ์ไทร หมู่ที่ 2 ต.ไผ่ล้อม 2.จุดผ่อนปรนอำเภอท่าอุเทน ตั้งอยู่ถนนเลียบแม่น้ำโขง หน้าที่ทำการด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอท่าอุเทน (เดิม) ต.ท่าอุเทน
3.จุดผ่อนปรนบ้านหนาดท่า ตั้งอยู่ที่ท่าน้ำบ้านหนาดท่า ต.บ้านกลาง อ.เมือง และ 4.จุดผ่อนปรนอำเภอธาตุพนม ตั้งอยู่ที่ถนนริมเขื่อนหลังสำนักงานเทศบาลตำบลธาตุพนม ตรงข้ามกับบ้านด่าน เมืองหนองบก แขวงคำม่วน และบ้านปากเซบั้งไฟ เมืองไซยบุรี แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เปิดทำการตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. ของวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี
โดย ตม.นครพนม อนุญาตให้ประชาชนชาวลาวเข้ามาซื้อ-ขายสินค้าอุปโภคบริโภค ในลักษณะเช้ามา - เย็นกลับ แต่ไม่อนุญาตให้ประชาชนชาวไทยเดินทางออกไปยังฝั่ง สปป.ลาว และมีหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ได้แก่ ตม. , ศุลกากร , ตชด. , นรข. , ปศุสัตว์, ส ภ.ธาตุพนม และฝ่ายปกครอง เป็นหน่วยร่วมปฏิบัติในการควบคุมไม่ให้ประชาชนลาว ที่เข้ามายังจุดผ่อนปรนหลบหนีออกไปนอกเขตจุดผ่อนปรน
ปรากฏว่าต่อมามีกลุ่มคนมีสีตั้งตนเป็นมาเฟียเรียกเก็บผลประโยชน์จากประชาชนชาวลาวที่นำสินค้ามาจำหน่ายตามวันดังกล่าว เป็นปัญหาหมักหมมมาเป็นเวลานานหลายปีจนขบวนการคนมีสีเหิมเกริม เข้าไปพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายหลายประเภท แต่ไม่มีใครกล้าโวยวาย เพราะกลุ่มมาเฟียอ้างมีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ทั้งในจังหวัดและส่วนกลาง การกระทำต่างๆในจุดผ่อนปรนการค้าไทย-ลาว อ.ธาตุพนม ของคนกลุ่มนี้ สร้างความอึดอัดใจแก่หน่วยงานอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง
จนกระทั่งวันที่ 18 กรกฎาคม มีแรงงานชาวลาว รวม 7 คน แยกเป็นชาย 3 คน หญิง 4 คน อายุระหว่าง 13 – 18 ปี ได้หลบหนีเข้าเมือง โดยอาศัยช่องทางตลาดจุดผ่อนปรน เพื่อจะไปทำงานในสวนผลไม้ โดยมีคนไทยเครือข่ายคนมีสีพาหลบหนีออกจากพื้นที่ต้องห้าม นำตัวไปขังไว้ในห้องน้ำของบ้านพักขบวนการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม เพื่อรอรถมารับไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่เด็กชาวลาวทั้ง 7 คน ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า จึงพังประตูห้องน้ำ พากันออกมาขอข้าวชาวบ้านกิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ภายหลังมีการสืบสวนสอบสวนในเชิงลึก พบว่าอาจจะมีผู้ใหญ่ในพื้นที่รู้เห็น และเพื่อให้คณะทำงานได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ อธิบดีกรมการปกครอง จึงได้มีคำสั่งย้ายด่วน นายชัยวัฒน์ ชัยเวทย์พิสิฐ นายอำเภอธาตุพนม ให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยให้มีผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 หากผลการสอบสวนไม่พบว่ามีส่วนรู้เห็น ก็จะมีคำสั่งให้ย้ายกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายอำเภอธาตุพนมดังเดิม พร้อมแต่งตั้งนายสุพจน์ ผิวดำ ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภอธาตุพนมไปพลางก่อน
ในการสืบสวนเชิงลึกมีบุคคลที่ใกล้ชิดกับนายอำเภอธาตุพนม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดูแลผลประโยชน์ในตลาดนัดไทย-ลาวแห่งนี้ ดังนั้น พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.เพชรวิชัย จันทะคาม อายุ 56 ปี รอง สว.สส. สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการยาเสพติด อ.ธาตุพนม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม มีผลตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อมา หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ประชุมหารือเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาตามนโยบายของนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯนครพนม เกี่ยวกับมาตรการดูแลการเข้า-ออก รวมถึงระบบขนส่งสินค้า บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม เพื่อป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมาย ทั้งแรงงานเถื่อน ลักลอบนำเข้าส่ง-ออก สิ่งผิดกฎหมาย ยาเสพติด และป้องกันการฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนมเป็นแกนหลัก ซึ่ง พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม ได้วางแนวทางร่วมกับทุกภาคส่วน ในการจัดระเบียบ สรุปให้มีการเข้า-ออก ขนย้ายสิ่งของเพียงจุดเดียว และมีตรวจสอบการเข้า-ออกผู้ใช้บริการทุกราย
ผกก.ตม.นครพนม เสนอให้ยกเลิกระบบเก่าที่ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวในการเข้า-ออก ซึ่งระบบดังกล่าวไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าประชาชนชาวลาวที่ข้ามมานั้น ได้ข้ามฝั่งกลับไปหรือไม่ จึงกลายเป็นช่องว่างให้กลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดี ใช้ในการลักลอบขนส่งแรงงานเถื่อน ซึ่ง พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.ฯ แถลงต่อที่ประชุมว่าจะนำระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาแทนระบบเดิมที่ล้าสมัย ชาวลาวที่ข้ามมาหลังลงจากเรือแล้วจะถูกให้เข้าในช่องทางที่กำหนด แล้วนำไปบันทึกประวัติลงในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะออกบัตรผ่านแดนที่มีบาร์โค้ด โดยสามารถตรวจสอบได้ว่าในแต่ละวันมีชาวลาวข้ามมากี่คน และกลับตามที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งบัตรดังกล่าวสามารถใช้ได้ตลอด ข้ามมาก็ยิงบาร์โค้ดเข้า เมื่อออกก็ยิงบาร์โค้ดออก
พ.ต.อ.แดนไพร เปิดเผยว่าได้นำระบบใหม่ไปเสนอต่อ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ซึ่งท่านเห็นด้วยและสั่งให้ดำเนินการทันที ดังนั้นในวันที่ 1 ส.ค.นี้ พี่น้องชาวลาวที่ข้ามมาอาจจะไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เพราะต้องจัดทำบัตรผ่านแดนประจำตัว หลังจากนี้ไปก็จะข้ามไป-มาได้รวดเร็วกว่าเดิม ซึ่งได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวแก่เจ้าแขวงทราบแล้ว ทางเจ้าแขวงก็เห็นดีพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง
นอกจากนี้ พ.ต.อ.แดนไพร ยังได้เสนอต่อจังหวัดนครพนม เพื่อขอขยายอาคารที่ทำการ เพื่อใช้ในการตรวจสอบสิ่งของต้องห้าม โดยจะมีหน่วยพยาบาล ปศุสัตว์ และป่าไม้ มาร่วมปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดนครพนมเป็นอย่างดี
สำหรับผลการสืบสวนสอบสวน ขบวนการคนมีสีก็คืบหน้าไปมาก โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพเข้าไปสอบปากคำเด็กชาวลาวทั้ง 7 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่สังคมสังเคราะห์จังหวัดปทุมธานี และนครราชสีมา ส่วนมาเฟียที่เป็นข้าราชการนั้น แหล่งข่าวแจ้งว่าเตรียมโยกย้ายทรัพย์สินไปให้กับบุคคลใกล้ชิด เพื่อเลี่ยงการถูกยึดทรัพย์ ขณะที่การสืบสวนยังคงเดินหน้าว่าขบวนการนี้โยงใยกับกลุ่มผิดกฎหมายอะไรบ้าง เบื้องต้นเข้าไปพัวพันแทบทุกเครือข่าย ซึ่งจะมีการถอนรากถอนโคนในเร็ววัน ส่วนบรรดาเมียน้อยของข้าราชการรายนี้ ยังคงไม่ลดละที่จะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ในจุดผ่อนปรน ด้วยการปล่อยข่าวลืออ้างว่าสามีตนเองมีผู้ใหญ่คุ้มครอง
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในการประชุมของหน่วยงานความมั่นคงที่ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้คุ้นเคยกับข้าราชการบางคน แอบโทรศัพท์รายงานผลการประชุมให้ทราบอยู่เป็นระยะๆ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |