“ศักดิ์สยาม”เล็งออกกฎใหม่ขับเลนขวา80 กมต่อชม.ระวังโดนจับ


เพิ่มเพื่อน    

1 ส.ค.62-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมเปิดเผยว่าจากนโยบายแก้กฎกระทรวงคมนาคมเพื่อขยายอัตราจำกัดความเร็วบนถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ เป็นห้ามเกิน 120 กม./ชม. นั้นยืนยันว่าจะไม่ทำให้ยอดอุบัตเหตุเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนนมักจะเกิดจากความประมาทหรือการขับขี่ขณะเมาสุราแต่ไม่ใช่เรื่องความเร็วของยานพาหนะ 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าสำหรับแนวทางการบังคับใช้มาตรการความเร็วบนท้องถนนใหม่นี้ จะมีการบังคับใช้ความเร็วพื้นฐานในบางช่องจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยแบ่งเป็น ช่องซ้ายสุดสำหรับยานพาหนะที่ขับช้าเช่นรถบรรทุกและรถยนต์ทั่วไป ส่วนช่องจราจรถัดมาคือช่องที่บังคับใช้ความเร็วปานกลางรวมถึงเป็นช่องจราจรที่ให้รถขับช้าไว้แซงกัน ส่วน 2 ช่องจราจรด้านขวาสุดนั้นจะกำหนดความเร็วในการขับขี่ห้ามต่ำกว่า 80 กม. และห้ามเกิน 120 กม. หรือความเร็วระหว่าง 80-120 กม. เท่านั้น อย่างไรก็ตามจะตามสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามความเร็วที่กำหนดใน 2 ช่องจราจรขวาสุดนั้นจะต้องมีโทษตักเตือนไปจนถึงโทษปรับตามกฎหมายหากมีการทำผิดซ้ำซ้อน เป็นการลดปริมาณรถขับช้าที่ชอบแช่ช่องจราจรขวาสุดอีกด้วย 

นายศักดิ์สยามกล่าวต่อว่ามาตรการดังกล่าวนั้นกระทรวงคมนาคมมองว่าสามารถใช้ได้กับถนนทั่วประเทศที่มีช่องจราจร 4 เลนส์ โดยครอบคลุมเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น ส่วนด้านรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะยังบังคับใช้กฎหมายความเร็วเท่าเดิมคือ 80-90 กม. ให้สอดคล้องกับมาตรการ GPS ตรวจจับความเร็วของกรมการขนส่งทางบก 

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมจะสั่งการให้เตรียมความพร้อมถนน 4 ช่องจราจรทั่วประเทศ โดยเฉพาะการจัดทําทางเลี่ยงหรือช่องรอเลี้ยวบริเวณทางแยกและจุดกลับรถ (Pocket Lane) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในกรณีรถขับช้าช่องทางซ้ายจะต้องกลับรถซึ่งต้องขับชิดขวา ควบคู่ไปกับการเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยบนท้องถนน อาทิ เนินชะลอความเร็วขนาดเล็ก(Rumble Strip) และ เครื่องหมายลดความเร็ว (Optical Speed Bar : OSB) เป็นต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"