ปอกหมดเปลือก‘อภิสิทธิ์’จากนักการเมืองสู่'ทาสแมว'


เพิ่มเพื่อน    

 

          เปิดชีวิต อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับความฝันอยากเป็นนายกตั้งแต่วัยเด็ก จนปัจจุบันผันตัวจากการเมืองมาเป็นทาสแมว ผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

          "มีความชอบเรื่องการเมืองและตั้งใจว่าอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เด็กๆ คือเราอยากทำงานการเมือง เราก็ไม่รู้หรอกว่าทำจริงแล้วทำได้ไหม แต่ตั้งใจจะทำงานการเมืองตั้งแต่เด็กจริงๆ ตัดสินใจเรื่องการเรียนก็คิดถึงว่ากลับมาอยากจะทำงานการเมือง กลับมาก็เป็นอาจารย์อยู่ ปี 2 ปี ตอนเข้าไปสมัครเป็นอาจารย์ก็บอกเขาว่ามีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผมลาออกไปสมัตร ส.ส. นะ

          ที่พิธีกรถาม ตอน 11 ขวบ เพื่อนสนิทของผมคือนายกอังกฤษคนใหม่ บอริส จอห์นสัน ถามว่าคิดไหมว่าคนนึงเป็นอดีตนายกเมืองไทย อีกคนจะเป็นนายกอังกฤษ คือผมไม่รู้เขาคิดหรือเปล่า แต่บอริสเขาเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้ว เพื่อนๆชื่นชอบ เขาก็เป็นหัวหน้านักเรียนค่อนข้างที่จะโดดเด่น ผมก็รู้จักกับเขาน่าจะตั้งแต่ไฮสคูล ก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เคมบริดจ์ จะประมาณ พ.ย.-ธ.ค. พอสอบเสร็จแล้ว กว่าจะไปเข้าเรียนจะเป็น ก.ย. ต.ค. มีเวลาว่างอยู่ 9-10 เดือน เขาก็ไปออสเตรเลียอาจจะไปเที่ยวด้วย สอนหนังสือเด็กด้วย เขาก็แวะเมืองไทยมาพักบ้านผมอยู่สองอาทิตย์ แล้วก็กลับออกซ์ฟอร์ด แต่ตอนกลับไปก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เขาจะอยู่กับเด็กที่เล่นการเมืองพรรคอนุรักษ์นิยม ผมจะอยู่กันคนละฝ่าย เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่

          ในหน้าที่การงานผมเคยเจอเขาตอนเป็นายกเทศบาลลอนดอน ซัก 2 ปีที่แล้ว ตอนเขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเขาก็มาที่ไทยก็นัดเจอกัน เราก็แซวเขาว่าจะเป็นนายกหรือเปล่า เขาก็บอกว่าเดี๋ยวได้เป็นละ เพราะเขาช้ากว่าผมไป 10 ปี แล้วเขาก็ได้เป็นจริงๆ หลังจากการออกจาก ส.ส. และ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ชีวิตเปลี่ยนยังไงเหรอ ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ จริงๆผมก็ตกงานตั้งแต่ปฎิวัติแล้ว ไม่ต้องไปประชุมแล้ว ผมก็อยากจะพัก ทำการเมืองมาตั้งแต่อายุ 27 ถึงตอนนี้ 27-28 ปี ก็ไม่ได้หยุดเพราะงานการเมืองมันไม่ได้หยุดอยู่แล้ว ก็ถือโอกาสพักผ่อน

 

 

          นอกจากเลี้ยงแมวแล้ว ก็มีงานค้างอยู่บ้าง เช่นรับงานบรรยาย มีงานสังคมที่เรายังต้องไปอยู่ ถ้าอยู่บ้านก็อ่านหนังสือ ติดตามข่าว ฟังเพลง มีแฮชแท็กพี่มาร์คทาสแมว ที่จริงมันไม่ใช่ทาสแมวนะ มันเป็นทาสของทาสแมว เริ่มจากลูกสาวผมเขาเลี้ยงแมวอยู่สองตัว ซื้อมาอีกตัวเป็นสามตัว ผมนี่เฉยๆ ไม่ได้ชอบแมว แต่เขามีบ้านแยกอยู่นะ พอเขาไปเรียนต่างประเทศเขาก็ฝากให้ช่วยดู ระหว่างที่เขาไปเรียนมันก็ออกลูก ออกหลานมาเป็น 26 ตัว พันธ์สก๊อตติช โฟลด์ ที่มารับดูแลแมวเพราะลูกสั่ง เลยเป็นทาสของทาสแมวอีกที ก็เล่นกับเขา ส่วนใหญ่เล่นก็ให้ขนมให้อาหาร แต่ละตัวจะนิสัยไม่เหมือนกัน บางตัวเขาก็มาหาเรา แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเอง ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันเรื่องอาหาร ตอนนี้วิธีในการหาความสุขให้กับตัวเองคืออยู่กับครอบครัว ได้พักผ่อนก็มีความสุขแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเพิ่งพาครอบครัวไปเที่ยวบาหลี ไม่ได้เที่ยวต่างประเทศด้วยกันนานแล้ว

          เรื่องคู่จิ้นกับไอติม จริงๆก็หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ด้วยกัน เพราะเขาก็ตัดสินใจเข้ามาสู่การเมืองก็ไม่ได้มาเกี่ยวอะไรกับผม เข้ามาที่พรรคก็มีคนบอกว่าหน้าตาก็คล้ายๆกัน วิธีการพูดจาก็คล้ายกัน เขาก็กังวลเพราะเขาก็อยากเป็นตัวของตัวเอง เพราะเขาก็คิดว่าไม่ได้จะมาทำอะไรเหมือนผม ในที่สุดก็ต้องไปหาเสียงด้วยกันบ้างท การแนะนำ ไม่มีเลยครับ เขาเก่งกว่านะ เรียนหนังสือก็เก่งกว่าผม เรียนรู้อะไรเร็วมาก เขาอาจจะไม่เคยทราบที่มาที่ไปเรื่องนั้น เรื่องนี้ เขาก็จะถามผม เป็นมายังไง ผมคิดยังไง เขาก็เชื่อบ้าง ไม่เชื่อบ้าง ภูมิใจไหมก็ดีใจนะ เป็นหลานแหละ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจสูงครับ"

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"