"แหวน ณัฏฐธิดา" พยานคดี 6 ศพวัดปทุมฯ สุดช้ำ! ขอ "ศรีสุวรรณ" ร้องต่อนายกฯ ช่วยทวงความเป็นธรรม หลังถูกทีมทนายเสื้อแดงลอยแพ พร้อมทวงเงินที่เปิดบัญชีบริจาคให้สู้คดีร่วม 1 ล้านบาท แต่กลับโดนบ่ายเบี่ยง หนำซ้ำท้าให้ไปฟ้องศาล  ย้อนคำสัมภาษณ์ "วิญญัติ" ครั้งเปิดบัญชีรับบริจาคว่าเอาไว้ซะดิบดี "บัญชีเงินกองทุนเพื่อประกันตัวณัฏฐธิดา มีวังปลา" แต่สุดท้ายบอกไม่ใช่เงินของแหวน เป็นของกองทุนไว้ประกันตัวและบางส่วนส่งคืนให้ผู้บริจาคแล้ว

    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ณัฏฐธิดา (แหวน) มีวังปลา ซึ่งถือว่าเป็นพยานปากสำคัญในคดี 6 ศพวัดปทุมวนาราม เมื่อปี 2553 เพราะขณะนั้นเป็นพยาบาลอาสาของโรงพยาบาลวชิระ ซึ่งอยู่ในเต็นท์เดียวกับผู้เสียชีวิต แต่ต่อมาถูกเครือข่ายเสื้อแดงที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานผู้ก่อเหตุให้ไปปาระเบิดลานจอดรถศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อค่ำวันที่ 7 มี.ค.2558 ก่อนศาลทหารจะให้ประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดีเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2560 แต่ในวันเดียวกับที่ศาลทหารให้ประกันตัว ตำรวจกองปราบปรามได้รอจับกุมอยู่ด้านหน้าเรือนจำ ก่อนแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 แล้วอายัดตัวคุมขังต่อทันทีก่อนจะได้ประกันตัวอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา
    นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ในการต่อสู้คดีของ น.ส.ณัฏฐธิดานั้น ในตอนต้นได้รับความช่วยเหลือทางสำนวนคดีจากกลุ่มของทนายเสื้อแดงเป็นอย่างดี แต่ในการขอประกันตัวต่อศาลเพื่อออกมาสู้คดีนั้น ศาลตั้งเงินประกันทั้งสองคดีเป็นเงิน 900,000 บาท แต่น.ส.ณัฏฐธิดาไม่มีหลักทรัพย์หรือเงินประกันตัว จึงได้ขอระดมทุนจากประชาชนทั่วประเทศ โดยให้โอนเข้าบัญชีของกลุ่มทนายความเสื้อแดง ขณะที่ น.ส.ณัฏฐธิดายังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งได้เงินบริจาคมากว่า 978,057 บาท
    "ในการไปศาลเพื่อต่อสู้คดีแต่ละครั้งนั้น แหวนต้องถูกผู้พิพากษาศาลทหารเรียกไปตำหนิหน้าบัลลังก์บ่อยครั้ง เนื่องจากทนายและหรือนายประกันไม่ยอมมาศาลเพื่อเซ็นเอกสารสำคัญให้ศาลเลย ซึ่งศาลได้อะลุ่มอล่วยให้มาโดยตลอด ซึ่งหากทนายหรือนายประกันทำเยี่ยงนี้ ศาลแจ้งว่าอาจสั่งให้ถอนการประกันตัวแหวนได้ ด้วยเหตุดังกล่าวแหวนจึงตัดสินใจบากหน้าไปหากู้ยืมเงินมาประกันตนใหม่ จำนวน 1,000,000 บาท พร้อมถอนทีมทนายเสื้อแดงออกทั้งหมด เนื่องด้วยความคิดเห็นไม่ตรงกันในรูปแบบการสู้คดี และเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการต่อสู้คดีในอนาคต เพราะเล็งเห็นแล้วว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกเพิกเฉยจากทีมทนายกลุ่มเสื้อแดง" นายศรีสุวรรณระบุ
    เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น น.ส.ณัฏฐธิดาได้พยายามทวงถามเอกสารทางคดีและเอกสารที่เคยฝากไว้กับทนายหลักคืน เมื่อครั้งถูกคุมขังเป็นเวลา 3 ปี 5 เดือน 18 วัน และทวงคืนเงินระดมทุนประกันตัวจำนวน 900,000 บาท ที่ประชาชนทั่วประเทศได้โอนมาเข้าบัญชีทีมทนายเพื่อมาช่วยแหวน แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเพิกเฉยมาโดยตลอด กลับถูกนายประกันท้าให้ไปแจ้งความหากอยากได้เงินคืน น.ส.ณัฏฐธิดาจึงได้ไปแจ้งความต่อ สน.ดอนเมือง และไปร้องเป็นคดีมารยาทต่อสภาทนายความไว้ แต่การดำเนินการของสภาทนายความยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด 
    "น.ส.ณัฏฐธิดาเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงได้มาร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมฯ เพื่อให้เป็นธุระในการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อสั่งการไปยังกระทรวงยุติธรรมและสภาทนายความ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อแหวนต่อไป" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าว และว่า โดยสมาคมและแหวนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อนายกรัฐมนตรีในวันพุธที่ 31 ก.ค.2562 เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล (ตึก ก.พ.ร.เดิม) ถ.พิษณุโลก กทม.
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย     น.ส.ณัฏฐธิดาได้โพสต์คลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของทีมทนายความนายบัญญัติ ชาติมนตรี ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว  ซึ่งยืนยันว่ามีตั้งกองทุนขอรับบริจาคระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเธอจริง โดยมีการโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือเป็นยอด 998,000 บาท ซึ่งขณะนั้นเป็นยอดที่ยังไม่ปิดรับบริจาค 
    เรื่องการเปิดบัญชีเพื่อขอรับบริจาคนั้น นายวิญญัติเคยให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ประชาไท เมื่อเดือนเมษายน 2561 ช่วงหนึ่งระบุว่า  "...ด้วยข้อจำกัดเรื่องที่เธอเป็นคนตัวคนเดียว ญาติพี่น้องก็มีฐานะไม่ดีนัก เงินที่เคยใช้ยื่นประกันตัวเธอเราก็ได้นำไปใช้ประกันตัวนักโทษการเมืองรายอื่นไปแล้ว ทาง สกสส.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการรับบริจาคต่อสาธารณะในกรณีนี้ โดยประเมินว่าทั้งสองคดีต้องใช้วงเงินประกันรวมประมาณ 900,000 บาท คดีแรกจำนวน 400,000 บาท (คดีก่อการร้าย) คดีที่ 2 จำนวน 500,000 บาท (คดี 112)"
    ทั้งนี้ ในบทสัมภาษณ์ของนายมนตรียังประกอบด้วยภาพถ่ายหน้าสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งระบุว่าเป็น "บัญชีเงินกองทุนเพื่อประกันตัวณัฏฐธิดา มีวังปลา"  ในชื่อของ นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง ซึ่งเคยเป็นทนายความของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และนายศุภวัส ทักษิณ เป็นทีมทนายของนายกฤษณ์ บุดดีจีน สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.เพชรบูรณ์ ที่โพสต์แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ปลอม 
    นายวิญญัติให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงเงินบริจาคว่า  เงิน 9 แสนบาท เป็นกองทุนในการให้ประกันตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเงินของแหวนหรือจำเลยคนใด ส่วนที่เกิน 9 แสน เราก็เตรียมไว้มอบให้แหวนใช้ชีวิตหลังออกมาจากคุก หรือเป็นค่าดำเนินการในส่วนของ สกสส.เอง ซึ่งเราบอกอยู่แล้วว่าเราจะมอบให้ ก็มีส่วนหนึ่งที่เรามอบให้ อีกส่วนหนึ่งแหวนก็บอกว่ามอบให้เราเหมือนกัน เพื่อที่จะทำงานช่วยเหลือคนอื่นต่อไป เราก็รับไว้ เงิน 9 แสนบาทก็ยังอยู่ในศาล ตั้งแต่แหวนได้รับอิสรภาพ ไม่มีกรณีที่ทนายจะต้องถอน ถ้าเราถอนแหวนก็จะถูกถอนประกันและต้องติดคุก ซึ่งไม่มีทนายความคนไหนทำ
    "เราอนุมานว่าแหวนอาจจะอยากได้เงินมาใช้หรืออยากได้เงินก้อนนั้นก็เป็นไปได้ คดีเราก็ทำไป ว่าความตลอด พอเปลี่ยนหลักประกัน ศาลก็เรียกนายประกันซึ่งเป็นทีมทนายความของผมไปรับเงินคืน ศาลไม่รับเงินสองก้อนอยู่แล้ว พอเรารับมาเราก็เห็นว่าเงินก้อนนี้ไม่ใช่ของแหวนอยู่แล้ว และเราไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่าเราเก็บเงินไว้ใช้ ทั้งที่เรามีสิทธิเก็บไว้ใช้ได้ เพราะเป็นเงินกองทุนสำหรับช่วยเหลือหลายๆ คนในคดีทางการเมือง แต่เราไม่เก็บ ผู้ที่เป็นนายประกัน เขาก็เลยประกาศทางเฟซบุ๊ก สกสส. ว่าเราจะคืนเงิน 9 แสนบาทให้กับคนที่ให้ยืมเงิน เพราะตอนบริจาคบางคนบอกไม่ได้ให้ขาด เป็นจำนวนเงินหลักหมื่นหลักแสน หลังจากนั้นเราก็ทยอยคืนให้กับคนที่แจ้งความประสงค์จะขอรับคืนเป็นจำนวนมากแล้ว บางส่วนที่ไม่ขอรับคืน เราก็เก็บไว้ช่วยเหลือคดีอื่นต่อไป"
    นายวิญญัติกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ รับเรื่องของแหวนเราไม่ว่ากัน แต่ฝากว่านายศรีสุวรรณเป็นนักกฎหมาย ต้องฟังความทั้งสองฝ่ายหรือทุกฝ่ายให้เรียบร้อย การจะช่วยใครอย่าทำให้ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาเสียหาย เราไม่ติดใจที่นายศรีสุวรรณออกมาช่วย แต่อยากให้รู้ความจริงเป็นอย่างไร นายศรีสุวรรณตรวจสอบที่ศาลได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับทนายความที่เป็นเจ้าของบัญชีบริจาคทั้งสองคน (นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง กับนายศุภวัส ทักษิณ)  นายวิญญัติกล่าวว่า คุยกันอยู่แล้ว ทั้งสองคนช่วยเหลือคดีกับตนมาตั้งแต่ปี 2558 ดูแลช่วยเหลือคดีหลายคน แหวนถูกอายัดตัวก็ตามไปช่วย ดังนั้นถูกกล่าวหาอย่างนี้เขาก็เสียใจ รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลย 
    นายวิญญัติกล่าวถึงกรณีที่แหวนโพสต์เรื่องเอกสารในคดีว่า ที่อ้างว่าเอกสารอยู่กับตน มีสูติบัตรของลูก 2 คน อันนั้นไม่มี  มีแค่สำเนา อยู่ในสำนวนศาลตอนขอประกันตัว มีจดหมายที่เขียนออกมาจากเรือนจำ 4-5 ฉบับ เป็นจดหมายส่วนตัวที่ตนได้รับจากแหวนเพียงแค่นั้น ส่วนเอกสารสำคัญในคดีที่อ้าง เราไม่รู้ แต่ถ้าอยากจะได้อะไรก็บอกได้ ยินดีจะนำเอกสารที่มีให้อยู่แล้ว.