30ก.ค.62-ความคืบหน้ากรณีข่าว นางสุภาพ ดีบุญมี ณ ชุมแพ ได้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนหลังลูกสาวเข้ารับการรักษาที่รพ.เอกชนแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น พบว่ามีกระดูกสันหลังคด โดยมีภาพเอ็กซเรย์จากทีมแพทย์มายืนยัน พร้อมระบุสาเหตุที่คาดการณ์ว่าอาจเกิดจากการที่ลูกสาวแบกเป้นักเรียน มีน้ำหนักมากไปเรียนเป็นเวลานาน วันที่ 30 ก.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รร.ชุมแพศึกษา อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ด.ญ.ปารย์ทอง ดีบุญมี ณ ชุมแพ หรือน้องโทนี่ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3โรงเรียนชุมแพศึกษา พร้อมมารดา นางสุภาพ ดีบุญมี ณ ชุมพล ได้เข้าพบนายวิไลศักดิ์ วรรณศรี ผอ.รร.ชุมแพศึกษา เพื่อรายงานอาการป่วยของบุตรสาวพร้อมกับนำภาพเอ็กซเรย์ผลตรวจทางการแพทย์มายืนยัน โดยมีนายอดิศักดิ์ มุงชู ผอ.สพม.25 , นพ.ธวัชชัย กฤษณะประการกิจ ผู้ช่วย ผอ.รพซชุมแพ มาร่วมรับฟัง ขณะเดียวกัน รร.ชุมแพศึกษา ได้มอบกระเป๋านักเรียนแบบล้อลากให้กับน้องโทนี่ เพื่อใส่หนังสือและไม่กระทบกับอาการป่วยดังกล่าว
นายวิไลศักดิ์ กล่าวว่า รร.ได้ทำความเข้าใจกับนักเรียนเกี่ยวกับปัญหาน้ำหนักของกระเป๋าของนักเรียน รวมทั้งแนะนำวิธีการใช้กระเป๋าที่เหมาะสม การจัดวางสิ่งของให้น้ำหนักกระจายตัว การสะพายที่ต้องกระชับแนบหลังไม่ห้อยต่ำ การเดินที่ต้องเดินตัวตรงไม่เอนตัวไปข้างหน้า และใช้สายสะพายไหล่ทั้งสองข้างอย่างสมดุล
" น้ำหนักกระเป๋าไม่ควรเกินร้อยละ 15 ของน้ำหนักตัวนักเรียน การนำสมุดและหนังสือกลับบ้านเฉพาะเท่าที่จำเป็นและต้องที่ใช้ในการทบทวนเท่านั้น สำหรับรายวิชาที่ใช้บ่อยอาจนำฝากครูประจำวิชาหรือครูที่ปรึกษา การจัดทำที่เก็บ หรือ LOCKERไว้ในห้องเรียน ขณะเดียวกันครูที่ปรึกษา จะต้องร่วมกับผู้ปกครองในการกำกับดูแลให้นักเรียนจัดตารางเรียนมาเรียนเท่าที่จำเป็นในแต่ละวันเท่านั้น"นายวิไลศักดิ์ กล่าวและว่า ได้มอบหมายให้ครูที่ปรึกษาสำรวจและตรวจคัดกรองนักเรียนที่อาจมีปัญหาด้านสุขภาพ จนไม่สามารถสะพายกระเป๋าได้เพื่อกำหนดหาแนวทางป้องกันและแก้ไขต่อไป
ขณะที่นางสุภาพ ดีบุญมี ณ ชุมแพ ผู้ปกครองของน้องโทนี่ กล่าวว่า ขอบคุณโรงเรียนฯ ที่มอบกระเป๋าลากให้ ยส่วนตัวคาดว่าจะช่วยให้อาการกระดูกสันหลังคดงอของน้องโทนี่ไม่รุนแรงมากไปกว่านี้ สำหรับการรักษาแพทย์ได้นัดให้มาพบเพื่อตรวจติดตามอาการป่วยอีกครั้งในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะกับการพบแพทย์เฉพาะทาง จึงจะทราบแผนการรักษาเกี่ยวกับกระดูกที่คดงอต่อไป
ที่รพ. ขอนแก่นราม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นพ.กิตติพงษ์ วิทยาไพโรจน์ ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์(โรคกระดูกสันหลัง) รพ.ขอนแก่น รามกล่าวว่า คนในครอบครัวน้องโทนี่เชื่อว่า อาการกระดูกสันหลังของน้องคด เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการสะพายกระเป๋านักเรียนที่หนักเกินไป เป็นระยะเวลานานนั้น แต่ในการเจ็บปวดที่หลังหรือไหล่อาจจะเกิดจากผลข้างเคียงที่กล้ามเนื้อในร่างกายของผู้ป่วยไม่ปกติ อันมีผลมาจาก กระดูกสันหลังน้องไม่ปกติ ส่วนอาการกระดูกสันหลังน้องคดงอนั้นยังไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดจากพันธุกรรมหรือภาวะอื่นๆซึ่งยังคงต้องรอผลการตรวจจากทีมแพทย์เฉพาะทางอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด อย่างไรก็ดีภาวะกระดูกสันหลังคดงอ สามารถเกิดขึ้นได้กับประชาชนโดยทั่วไปแต่ไม่มากนัก และโดยส่วนใหญ่มักจะพบในผู้หญิง ช่วงประถมศึกษาตอนปลายและช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น
" การสะพายสิ่งของหนักนั้น มีผลกับการเกิดกระดูกสันหลังคดได้หรือไม่ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะเกิดอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อมากกว่า ซึ่งก็อยากให้ประชาชนทุกคนได้มีการดูแลรักษาร่างกายตัวเองหรือคนในครอบครัว ทุกคนควรจะสังเกตสรีระร่างกายของคนใกล้ชิดว่าไหล่หรือซี่โครงมีความผิดปกติหรือไม่ การเดิน การนั่ง หลังยังตรงหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะสังเกต หากพบความผิดปกติก็ให้เข้าพบแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาได้ ซึ่งในส่วนของน้องโทนี่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ตรวจร่างกายน้อง จึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ากระดูกหลังคดเกิดจากสาเหตุใด โดยแนวทางการรักษามีเพียงอย่างเดียวคือการผ่าตัด"
ขณะที่ ผศ.นพ.ชัชวาล ศาลติพิพัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โรคกระดูกสันหลังคด ปัจจุบันไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ เป็นโรคในกลุ่มอีโดฟาติก ที่ระบุสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ จากการวิเคราะห์พบว่ามักเกิดกับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นหญิงวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยมีงานวิจัยจากต่างประเทศระบุว่า เป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมรูปแบบหนึ่งที่ถ่ายทอดจากยายสู่แม่จากแม่สู่ลูก โดยการเอาโครโมโซม เอายีนจากผู้ที่เป็นไปตรวจพบว่าเป็นกลุ่มคล้ายๆกัน ซึ่งน่าจะเป็นยีนกลุ่มนี้ที่ทำให้หลังคดได้
"ปัจจุบันไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนผู้ป่วยเท่าใด แต่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ามาขอรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัญหาหลักอีกปัญหาหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เพราะหากเป็นแล้ว แล้วเลยวัยที่จะสามารถทำการรักษาได้จะต้องเข้ารับการผ่าตัดนำเหล็กเข้าไปดามอย่างเดียว แต่หากทราบว่าเป็นตั้งแต่จำนวนองศาที่คดงอไม่มาก อาจรักษาด้วยวิธีใส่เสื้อช่วยพยุงให้ดีขึ้นแทนการผ่าตัด จึงขอแนะนำว่าให้ผู้ปกครองหมั่นสังเกตรูปร่างของบุตรหลานตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที"
ผศ.นพ.ชัชวาล กล่าวต่ออีกว่า สำหรับโรคกระดูกสันหลังคดในวัยรุ่นหญิง หากเป็นแล้วยังได้รับสิ่งกระตุ้นให้เป็นหนักขึ้นเช่น หิ้วประเป๋าที่หนักเป็นเวลานานๆ และเป็นประจำ จะเป็นการกระตุ้นให้กระดูกคดงอมากยิ่งขึ้น สำหรับแนวทางการรักษาจะประเมินจากมุมคดงอของกระดูกว่าหากเป็นไม่มากและอยู่ในวัยเจริญเติบโตอยู่ จะรักษาด้วยการช่วยพยุง เช่น สวมเสื้อพยุง หลีกเลี่ยงการยกของหนัก แต่หากพบว่ามีมุมมากกว่า 40 องศา อาจจะต้องได้รับการผ่าตัด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |