30 ก.ค.62 - นพ.เหวง โตจิราการ  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จำเลยที่ 7 ในคดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 ได้โพสต์ข้อความ ก่อนศาลจะอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ ว่า ประวัติศาสตร์เสี้ยวเล็กๆที่ต้องบันทึกไว้ กรณีหน้าบ้านสี่เสา ในค่ำคืนวันบุกสลายของกองกำลังรัฐบาลเผด็จการทหาร

ประมาณ19.30ทางตำรวจโทรมาที่ผม ขอมาพบเพื่อเจราจา ผมเรียนหารือพี่วีระซึ่งก็เห็นด้วย ผมจึงเรียนเชิญมาบนรถปราศรัย

เวลาประมาณ20.00.พล.ต.ต.นิพนธ์ภุมริทร์(ผมจำยศไม่ได้แม่นยำผิดพลาดขออภัย)พร้อมผู้ติดตามก็มา พวกเราเชิญให้ขึ้นมาบนรถเพื่อเจรจากัน ทางตำรวจต้องการให้เลิกการชุมนุมทันที ทางเราอธิบายว่าการถอนทันทีทำไม่ได้เพราะต้องปราศรัยชี้แจงอธิบายและผ่อนเบากระแสอารมณ์พลุ่งพล่านของประชาชนเสียก่อนซึ่งคงต้องใช้เวลาสัก2-3ชั่วโมง

ในที่สุดได้ข้อยุติในเวลาประมาณ20.30น.ว่า เราจะเคลื่อนกลับสนามหลวงประมาณ23.00น. ตัวแทนรัฐก็รับปากรับคำด้วยดี ทางเราจัดส่งลงจากรถเวทีผมจับตาดูตัวแทนรัฐเดินจากไป ยังไม่ทันพ้นสายตา กองกำลังฝ่ายรัฐก็พุ่งเข้ามายังรถปราศรัยโดยใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่ประชาชนเพื่อเบิกทาง แต่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเห็นการบุกที่มุ่งร้ายหมายขวัญดังกล่าว จึงป้องกันตัวเองโดยการผลักเจ้าหน้าที่ถอยกลับไปด้วยมือเปล่า

กองกำลังผสมตำรวจทหารบุกมาสี่ระลอกด้วยกัน ประชาชนก็ใช้มือเปล่าและสิ่งของใกล้ตัวที่พอจะหยิบฉวยได้ป้องกันตนเองผลักดันกองกำลังผสมถอยไปหลังระลอกที่สี่จากการสังเกตการณ์ของผู้อยู่บนเวทีและทางการข่าวทราบว่าทางรัฐจะเริ่มใช้อาวุธปืน ทางผู้ดูแลจึงเคลื่อนขบวนกลับสนามหลวงซึ่งก็ตกเวลาประมาณ23.00น.ตามที่ได้ตกลงไว้

ทีต้องบันทึกไว้เพื่อตอกย้ำว่า ได้ข้อตกลงเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ทำไมยังต้องใช้กำลังเข้ามาปราบปรามสลายการชุมนุมอีกด้วย การเคลื่อนไหวครั้งนั้น ทางฝ่ายผู้ชุมนุมเเป็นผู้เคลื่อนย้ายกลับสนามหลวงอย่างเป็นฝ่ายกระทำเองเพื่อความปลอดภัยของประชาชน"

สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 58 ให้จำ เป็นวลา 4 ปี 4 เดือน ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่  9 ม.ค. 60 แก้เป็นว่าจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน โดยคดีดังกล่าวศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในวันที่ 31 ก.ค.นี้.