จังหวัดขอนแก่น มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ ประเพณี วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างโรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ร้านอาหาร และแหล่งช็อปปิ้ง  

ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) และจังหวัดขอนแก่น ผนึกกำลังผลักดันให้ขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าโครงการ “ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น”  เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความ MICE City ภายใต้โครงการ Khon Kaen NEW BIZ ปี 2561 เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น พร้อมทั้งกระจายรายได้ลงสู่ระดับชุมชนท้องถิ่นตามนโยบายรัฐบาล   

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดขอนแก่นได้รับการจัดให้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ด้วยศักยภาพของจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งในแง่ของการเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่ เป็นศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน  การคมนาคม และเป็นศูนย์กลางตามกลยุทธ์การพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อการประชุมและนิทรรศการ ในฐานะเป็น MICE City 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยว การจัดประชุม สัมมนา และนิทรรศการ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ มีการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ 
นอกจากนี้ จังหวัดขอนแก่นยังมีแผนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมืองขอนแก่น และกำลังดำเนินการขยายสนามบินขอนแก่นให้เป็นสนามบินนานาชาติ เพื่อรองรับเที่ยวบินและจำนวนนักท่องเที่ยวตลอดจนนักเดินทางกลุ่ม MICE ที่จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
ดังนั้น ในส่วนของ ททท.จึงผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ตามแผนวิสาหกิจ ททท. พ.ศ.2560- 2564 ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดรอง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน และในปี 2561 ททท.ยังคงดำเนินการผลักดันจังหวัดขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะก้าวขึ้นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักแล้วก็ตาม เพื่อให้ขอนแก่นเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน โดยกำหนดเป้าหมายจำนวนผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว (Visitor) ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคนต่อปี 
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ  “ประชุม..เที่ยว เรื่องเดียวกัน ที่ขอนแก่น” ภายใต้โครงการ Khon Kaen New Biz ปี 2561 เป็นอีกโครงการที่เป็นความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) โดยเชื่อมโยงการจัดประชุมและการท่องเที่ยวมาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อดึงดูดให้นักเดินทางโดยเฉพาะกลุ่ม MICE ที่เดินทางเข้ามาจังหวัดขอนแก่น เพื่อการมาประชุม หรือสัมมนา และดูงาน มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเพิ่มเข้าไปด้วย และจังหวัดขอนแก่นก็ได้ชื่อว่าเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยว มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ งานเทศกาล ประเพณีต่างๆ ให้มาสัมผัสตลอดทั้งปี และยังมีความพร้อมทางด้านของที่พัก โรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง ที่สามารถรองรับการมาเยือนของนักเดินทางกลุ่ม MICE ได้อย่างครบครัน   นอกจากการท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อเพื่อไปท่องเที่ยวในจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย 
 “การเดินหน้าโครงการดังกล่าว นอกจากต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นตามเป้าหมาย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทางทีเส็บ ที่จะกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้ามาของการนักเดินทางกลุ่ม MICE ให้เพิ่มมากขึ้น ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองแห่ง MICE City ให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจุดหมายแห่งการจัดประชุมสัมมนาและงานแสดงสินค้า รวมถึงการท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญเป็นการช่วยกระตุ้นเม็ดเงินให้หมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นจากการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักเดินทางกลุ่ม MICE  ให้กระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดขอนแก่นด้วยนั่นเอง” ผู้ว่าการ ททท. กล่าว  
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า เราได้จัดทำแพ็กเกจสนับสนุนการจัดงาน MICE 2 ประเภท ได้แก่ แพ็กเกจสนับสนุนการประชุมและอินเซนทีฟ (Meetings & Incentives) ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการเดินทางข้ามจังหวัดและพักค้างคืนในจังหวัดขอนแก่น และแพ็กเกจสนับสนุนการประชุมวิชาการ (Conventions) คือเป็นการประชุมทางวิชาการ และพักค้างคืนในจังหวัดขอนแก่น เริ่มตั้งแต่มีนาคมถึงกันยายน 2561
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์กลางภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งในเรื่องการค้าการลงทุนและบริการ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นชุมทางคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน กว่า 32 เที่ยวบินต่อวัน เชื่อมโยงทั้ง ขอนแก่น-กรุงเทพฯ, ขอนแก่น-เชียงใหม่, ขอนแก่น-หาดใหญ่ และขอนแก่น-ภูเก็ต มีโรงแรมที่พักที่มีสามารถรองรับผู้มาเยือนกว่า 366 แห่ง หรือคิดเป็นห้องพักกว่า 10,068 ห้อง พรั่งพร้อมด้วยโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน และศูนย์แพทย์เฉพาะทางที่ได้มาตรฐาน มีสถานที่จัดกิจกรรมประชุมสัมมนา รวมทั้งการแสดงสินค้าขนาดใหญ่ และมุ่งสู่การเป็นมหานครแห่งอาเซียน ด้วยโครงการรถไฟรางคู่-ทางรถไฟสายใหม่ (บ้านไผ่-นครพนม), โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรางเบา (เฟส 1 สายเหนือ-ใต้) การดำเนินการพัฒนาจังหวัดสู่ Smart City จึงเชื่อแน่ว่าจังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมที่จะก้าวเขาสู่เมืองท่องเที่ยวหลักอย่างยั่งยืน เมื่อประกอบกับอัธยาศัยไมตรีของคนขอนแก่น อาหารการกิน ขนบประเพณีวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแหล่งศึกษาดูงานต่างๆ ก็จะทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดขอนแก่นเกิดความประทับใจและมีความรู้สึกคุ้มค่า 
“จังหวัดจึงได้มีแผนการพัฒนาปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมในการต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนและเป็นมาตรฐาน และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจอันจะก่อให้เกิดการจ้างงานและมีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่น ส่งผลดีต่อการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้น้อยลงได้” ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าว
    ขณะที่ นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมหาสารคาม) กล่าวเสริมว่า จังหวัดขอนแก่นมีแหล่งท่องเที่ยวและที่กินจำนวนมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ ขอยกตัวอย่างเริ่มที่วัดวาอารามที่สำคัญ อาทิ พระมหาธาตุแก่นนคร (พระธาตุ 9 ชั้น) ถนนกลางเมือง อำเภอเมืองฯ สถานที่บรรจุพระสารีริกธาตุ และรวบรวมคัมภีร์ทางพุทธศาสนา และเป็นหอชมวิวทิวทัศน์ตัวเมืองขอนแก่น, สิมและฮูปแต้มสินไซ วัดไชยศรี อำเภอเมืองฯ มีจิตรกรรมฝาผนัง (ฮูปแต้ม) เรื่องราวทางพุทธศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตของคนอีสาน และวรรณกรรมพื้นเมืองเรื่องสังข์สินไซที่งดงาม และ มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ ถนนบายพาสขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ตำบลพระลับ ห่างจากตัวเมือง 7 กิโลเมตร เป็นเจดีย์ที่แสดงศิลปะร่วมสมัยที่ผสมผสานกับศิลปะพื้นบ้านอีสานได้อย่างลงตัวและงดงาม      
    ทางด้านแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์อื่นๆ เช่น สะพานราชพฤกษ์วิถี อำเภอเมืองฯ สะพานแห่งใหม่ที่สร้างเป็นแลนด์มาร์คของบึงแก่นนคร สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดขอนแก่น โดยสะพานแห่งนี้มีความยาว 431 เมตร กว้าง 3 เมตร, ชุมชนท่องเที่ยวศิลาโฮมสเตย์  แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เช่น ทำขนมท้องถิ่น ขนมนมสาว และข้าวต้มมัด การทำธุงแมงมุม (ธุงอีสานที่ใช้ตกแต่งในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา) การทำดอกโน ฯลฯ, หมู่บ้านงูจงอาง บ้านโคกสง่า ตำบลทรายมูล อำเภอน้ำพอง เป็นสถานที่แสดงการชกมวยระหว่างคนกับงูจงอาง, จุดชมวิวหินช้างสี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำพอง เป็นกลุ่มหินใหญ่บนสันเขาป่าโสกแต้ ด้านข้างของหินมีรอยดินที่ช้างใช้ลำตัวสีก้อนหินติดอยู่ และ อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อำเภอภูผาม่าน มีเทือกเขาหินปูนที่มีหน้าผาตัดตรงดิ่งลงมาเป็นริ้วๆ คล้ายผ้าม่านผืนใหญ่ สภาพป่าของที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าดิบ  และป่าไม้เบญจพรรณ สภาพอากาศจะเย็นชื้นเกือบตลอดปี
    ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานขอนแก่น กล่าวต่อว่า  ส่วนเทศกาลประเพณีที่น่าสนใจในเร็วๆ นี้ที่ไม่ควรพลาด อาทิ เทศกาลอาหารทะเลขอนแก่น ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายน 2561, หมอลำคาร์นิวัล ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-2 เมษายน 2561, ประเพณีสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูน-เสียงแคน และถนนข้าวเหนียว  ระหว่างวันที่ 8-15 เมษายน 2561 บริเวณบึงแก่นนคร และถนนศรีจันทร์ (ถนนข้าวเหนียว) และงานวิสาขบูชาวัดทุ่งเศรษฐี วันที่ 29 พฤษภาคม 2561 เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยแหล่งอาหารการกิน หรืออาหารถิ่นในอำเภอเมืองฯ ที่เดินทางไปรับประทานได้ง่ายๆ อาทิ ร้านวนิดารสวิเศษ ถนนมิตรภาพ มีอาหารประเภทไก่ย่าง ส้มตำ ทอดปลาส้ม แกงอ่อม หมกปลาไร้ก้าง ฯลฯ, ไก่ย่างเขาสวนกวาง ถนนมะลิวัลย์ อาทิ ไก่ย่าง ส้มตำ ฯลฯ , ร้านประไพรโภชนา ถนนทางเข้าสนามบินขอนแก่น มีเมนูเด็ดคือ ปลาส้มทอด ผัดฉ่าปลาบึก แกงหวาย แกงผักหวาน ฯลฯ, ร้านปลาช่อนกระบอก ถนนพิมสุต เป็นอาหารทั่วไป อาทิ ปลาช่อนเผาใส่กระบอกไม้ไผ่ ฯลฯ,  ร้านพิชซ่าแอนด์เบค ถนนมะลิวัลย์ อาหารไทย เวียดนาม พิซซ่า ฯลฯ, ร้านสไมล์ ถนนรอบบึงหนองโคตร  อาหารไทย จีน ฯลฯ  และร้านสามย่านซีฟู้ด ถนนกลางเมือง อาหารไทย จีน ฯลฯ
“เมืองขอนแก่นเป็นมหานครแห่งการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มีทั้งที่กินและที่เที่ยวแบบครบถ้วน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน  โดยเฉพาะนักเดินทางกลุ่ม MICE ซึ่งนอกจากจะเดินทางมาทำงาน ยังถือโอกาสพักผ่อนท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กันอีกด้วย” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานขอนแก่นกล่าว
     สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานขอนแก่น (รับผิดชอบพื้นที่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม) โทร. 0-4322-7714-6และ www.facebook.com/TAT.KhonkaenOffice หรือ 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย.
                    สรณะ รายงาน