"แก้วสรร" การันตี "อุตตม" ไม่มีความผิดคดีปล่อยกู้กรุงไทย กลับเป็นผู้แฉว่ามีผู้ใหญ่ในที่ประชุมคนหนึ่งบอกว่า "ซูเปอร์บอส" เป็นคนสั่ง รอดูศาลจะชี้ว่าเป็น "ทักษิณ" หรือไม่ ด้าน "ธนกร" เหยียบหน้า "โอ๊ค" นิ่มๆ แค่ไปพิสูจน์ตัวในศาลก็พอ อย่าท้าสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วเดี๋ยวจะยิ่งแย่ เพราะคนคิดทำร้ายประเทศล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เผยแพร่บทความเรื่อง "มลทินทุจริตเงินกู้กรุงไทยของรัฐมนตรีคลัง" ผ่าน www.thaipost.net มีเนื้อหาระบุว่า เป็นเรื่องจริง คตส.ไม่พบหลักฐานว่านายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกระทำผิดคดีคณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย อนุมัติสินเชื่อ 9 พันล้านให้กับบริษัทในเครือกฤษดามหานครจริง
"การปล่อยเงินกู้ครั้งนี้ผิดสามจุดด้วยกัน คือบอกวงเงินรีไฟแนนซ์เป็นเท็จ เงินที่ต้องใช้ซื้อหนี้จากธนาคารกรุงเทพ เพื่อเอาที่ดินแปลงใหญ่รอบสุวรรณภูมิที่ติดจำนองมาลงทุนพัฒนาเป็นมหานครนั้น ยอดจริงมันแค่ 4 พันล้านบาทเท่านั้น แต่กลับยื่นคำขอกู้และได้เงินเกินไปกว่า 3 พันล้าน ตรงนี้มันหมกเม็ดไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องมาตั้งแต่แรก ในข้อมูลการประชุมของคณะกรรมการบริหารก็ไม่ปรากฏความจริงนี้เลย แล้วคุณอุตตมจะผิดได้อย่างไรเมื่อไม่ได้รู้เห็นด้วย"
สำหรับประเด็นที่นายอุตตมระบุว่าตนเองเป็นกรรมการคนนอก ที่เป็นเพียงกรรมการบริหารประเภทอิสระมาประชุมตามนัดหมายเท่านั้น ไม่รู้เห็นด้วยนั้น นายแก้วสรรระบุว่า "เรามองอย่างนั้น หลักฐานมันทำให้เชื่อว่ากรรมการบริหาร 3 คน ที่เป็นประธานบริหาร, เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และรองฝ่ายตรวจสอบ 3 คนนั้น เป็นผู้มีอำนาจแท้จริงในธนาคาร แล้วสั่งการลงมายังข้างล่าง ทั้งขาเข้าขาออก จนทำงานผิดระเบียบกันหมด"
อดีตกรรมการ คตส.เผยว่า ศาลอาญาแผนกคดีนักการเมืองท่านก็เชื่ออย่างนี้เหมือนกัน ถึงได้ลงโทษทั้งคนกรุงไทย บนยอดสุด 3 คน และคนข้างล่างอีก 22 คน ส่วนนายอุตตมและกรรมการอิสระอีกคนหนึ่งเป็นแค่คนนอกทั้งสองคนที่มิได้รู้เห็นด้วย ทั้ง คตส., ป.ป.ช.และอัยการจึงเห็นตรงกันว่ามิได้กระทำผิด
นายแก้วสรรยังยืนยันว่านายอุตตมไม่ผิดมาตั้งแต่แรก และกลับเป็นพยานปากสำคัญที่กล้าระบุว่า งานนี้มีผู้ใหญ่ในที่ประชุมคนหนึ่งบอกว่า "ซูเปอร์บอส" สั่ง
"ก็ต้องรอดูกันครับว่า ศาลท่านจะเห็นว่าซูเปอร์บอสคือคุณทักษิณใช่หรือไม่ ส่วนคุณอุตตมนั้น ผมเห็นว่าเขาเคลียร์ได้หมดแล้ว" นายแก้วสรรระบุ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณได้โพสต์เฟซบุ๊กท้าทายนายอุตตมว่า เรื่องดังกล่าวผ่านกระบวนการยุติธรรมมาหมดแล้วว่านายอุตตมไม่ได้กระทำผิด และนายอุตตมได้ชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภาไปแล้วอย่างชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ สังคมก็รับทราบ จึงไม่จำเป็นต้องไปสาบานวัดพระแก้ว เพราะการสาบานไม่ใช่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง
เขากล่าวว่าความจริงต้องพิสูจน์ด้วยเหตุและผลมากกว่า นายพานท้องแท้สามารถพิสูจน์ตัวในศาล กระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับนายพานทองแท้ ถ้าไม่ผิดคือไม่ผิด อย่าไปเที่ยวสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วเลย เดี๋ยวจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาใครที่ทำร้ายหรือคิดร้ายกับประเทศล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น นายพานทองแท้น่าจะทราบดี
ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก "Watana Muangsook" ว่า นายอุตตมอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย ที่อนุมัติสินเชื่อจำนวน 9,900 ล้านบาทให้แก่บริษัทในเครือกฤษดามหานคร เป็นเหตุให้ คตส.และ ป.ป.ช.มีมติไม่ฟ้องคดีอาญากับคุณอุตตม ทั้งที่นายอุตตมมิได้แสดงหลักฐานใดให้เห็นว่าได้คัดค้าน แต่กลับปล่อยให้มติดังกล่าวผ่านไปโดยมิได้ดำเนินการใดๆ ตามที่กฎหมายบริษัทมหาชนดังกล่าวกำหนดให้ต้องทำเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย ซึ่งหากนายอุตตมมีความกล้าหาญทางจริยธรรมและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ สินเชื่อรายนี้จะไม่ผ่านการอนุมัติและธนาคารจะไม่ได้รับความเสียหาย
"สิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้ต่อสู้ในสภาคือ การทำหน้าที่ของผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งนอกจากจะทำให้เห็นคุณสมบัติของคุณอุตตมว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญแล้ว ยังทำให้เห็นถึงมาตรฐานการทำงานของ คตส.และ ป.ป.ช. ที่เลือกปฏิบัติจนกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของเผด็จการดังเช่นกรณีนาฬิกาเพื่อน ที่สำคัญคือทำให้ประชาชนได้เห็นถึงการเป็นรัฐบาลที่ไม่เคยหัวประชาชน เหิมเกริมถึงขนาดกล้าตัดถ้อยคำที่ต้องปฏิญาณตนว่าจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญออกไป คงคิดว่ากองทัพกับอาวุธที่ซื้อมาจะกดหัวประชาชนได้" จำเลยคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรกล่าว
ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุว่า น่าแปลกใจว่าไม่เคยมีรัฐบาลไหนเลยที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะปราบโกงอย่างไร นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 เป็นต้นมา ทุกรัฐบาลตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาล้วนแถลงเพียงคำสวยหรูว่า จะส่งเสริมการบริหารราชการด้วยหลักธรรมาภิบาล จะสนับสนุนให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งผิวเผิน จับต้องไม่ได้ ไร้ทิศทาง
"การที่พลเอกประยุทธ์แถลงต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลมีนโยบายหลักและนโยบายเร่งด่วนประการใดบ้างที่จะใช้ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอร์รัปชัน จึงเป็นแบบอย่างของการแสดงวิสัยทัศน์ที่จะถูกจารึก รวมทั้งติดตามตรวจสอบโดยประชาชน สื่อมวลชน และพรรคการเมืองฝ่ายค้านต่อไป" เลขาฯ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |