'บิ๊กตู่' ประเดิมคุมงาน 'ตำรวจ' พิสูจน์แต่งตั้ง 'นายพล' สีกากี


เพิ่มเพื่อน    

             ชัดเจนแจ่มแจ้งไม่ต้องคาดเดาว่าใคร? จะคุมงาน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ใช่ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลเหมือนเดิมหรือไม่

                แม้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยังไม่ได้แบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานด้านใด กำกับงานส่วนใหญ่บ้าง

                แต่เท่าที่ฟังคำชี้แจงของ "บิ๊กตู่" ในระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาล ช่วงวันที่ 25-26 ก.ค.ที่ผ่านมา ช่วงหนึ่งที่ "คำนูณ สิทธิสมาน" สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายนโยบายรัฐบาลขาดหายเรื่องการปฏิรูปตำรวจไป เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจง

                "การปฏิรูปตำรวจ จากนี้เป็นต้นไปจะเป็นผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจะดำเนินการปฏิรูปตำรวจให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วนด้วย ทั้งเรื่องการปฏิรูปองค์กร บุคลากร วิธีการปฏิบัติงาน ที่มาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นต้นทางระบบยุติธรรมซึ่งมาจากตำรวจ อัยการ และศาล โดยทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกัน เพราะปฏิรูปตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอ เป็นเรื่องที่ต้องหารือดำเนินการได้โดยเร็ว

                ผมยืนยันว่าผมจะทำทุกอย่างให้ทำดีที่สุด ให้ตำรวจได้รับความไว้วางใจให้มากที่สุด ประชาชนมีความรู้สึกอุ่นใจ ไม่อย่างนั้นความขัดแย้งก็เกิดขึ้นสูงมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำถูกหรือผิดเจ้าหน้าที่ก็มักเป็นจำเลยเสมอ ก็ต้องทำให้เกิดความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย”

                ทุกเนื้อหา ทุกถ้อยคำ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนี้ไป "บิ๊กตู่" จะกำกับงาน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เอง ไม่มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดมาดูแลงาน "ตำรวจ" แทนเหมือนที่ผ่านมา

                ซึ่งจริงๆ แล้วการจัดตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2541 ที่เปลี่ยนจากกรมตำรวจ ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย มาเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี

                การเข้ามาคุมงาน "ตำรวจ" อย่างเต็มตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นครั้งแรก เพราะตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มอบให้ "บิ๊กป้อม" คุม "ตำรวจ" ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจทุกระดับ หลายคนต่างข้องใจ หลายคนต่างสงสัยถึงความโปร่งใส ถึงความชอบธรรม ถึงมาตรฐานการแต่งตั้งเป็นไปตามหลักการ เป็นไปตามระเบียบจริงหรือไม่

                เพราะภาพสะท้อนจากการแต่งตั้งหลายครั้งเกิดความผิดพลาด เกิดความบกพร่อง เกิดอย่างต่อเนื่อง ขนาดคำสั่งแต่งตั้งประกาศออกมาแล้วก็มีคำสั่งถอนตามมาจนเกิดความวุ่นวาย เกิดความระส่ำ ทำ "สีกากี" ไม่เป็นอันทำงาน

                เมื่อ "นายกฯ บิ๊กตู่" โดดลงมาคุม "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ด้วยตัวเอง "สีกากี" ต่างก็หวังว่าอะไรต่างๆ จะดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ถือเป็นขวัญกำลังใจในการทุ่มเททำงานของตำรวจน้อยใหญ่ที่ไร้เส้นสาย จะได้ลืมตาอ้าปากเติบโตในหน้าที่การงานบ้าง

                โดยงานแรกที่จะพิสูจน์การทำงานของ "พล.อ.ประยุทธ์" ในการคุมตำรวจเองว่าดีขึ้นจากเดิมหรือไม่ คือการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ "นายพล" หรือการแต่งตั้งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ลงมาถึงผู้บังคับการ (ผบก.) ยศ พล.ต.อ.-พล.ต.ต. วาระประจำปี 2562 จะเป็นการพิสูจน์ผลงานที่ดีที่สุด เนื่องจากจากกฎ ตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. กำหนดให้การแต่งตั้งระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. วาระประจำปี จะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค.ของทุกปี

                ปีนี้ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบก.ทั่วประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีตำแหน่งว่างจากเกษียณอายุราชการทั้งสิ้น 102 ตำแหน่ง รวมกับที่ขยับตำแหน่งสูงขึ้นอีก 55 ตำแหน่ง และการโยกระนาบเดียวกันอีกจำนวนหนึ่ง การแต่งตั้ง "นายพล" ครั้งนี้ก็น่าจะมีเฉียดๆ

                200 ตำแหน่ง!!!

                แบ่งเป็นระดับ "รอง ผบ.ตร." และ "ที่ปรึกษาพิเศษ  ตร." ยศ พล.ต.อ. ว่าง 7 ตำแหน่ง จากผู้ที่เกษียณอายุราชการ มี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดุสิต สังขะเมฆะ พล.ต.อ.เดชา บุตรน้ำเพชร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สอาดพรรค พล.ต.อ.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.

                ระดับ "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ยศ พล.ต.ท. เกษียณอายุราชการ 1 ราย คือ พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ

                ระดับ "ผู้บัญชาการ" หรือรอง ผบช. เกษียณอายุราชการ 13 นาย มี พล.ต.ท.สัญชัย สุนทรบุระ ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.ต.ท.สาโรช นิ่มเจริญ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจสอบภายใน พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.นพศักดิ์ ภูวัฒนเศรษฐ นายแพทย์ (สบ.8)โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.ประหยัชว์ บุญศรี จเรตำรวจ พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ

                พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ท.สุรพล พินิจชอบ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.อัตชัย ดวงอัมพร ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษาสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งพล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และ พล.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา อดีตจเรตำรวจ  ที่ลาออกไปเป็น ส.ว.ก่อนหน้านี้

                นอกจากนี้มีระดับรองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) เกษียณอายุรากชาร 34 นาย ระดับผู้บังคับการ (ผบก.)เกษียณฯ 47 นาย

                การแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" ครั้งนี้ จะเป็นการพิสูจน์ผลงาน "บิ๊กตู่" ในการประเดิมคุม "ตำรวจ" ครั้งแรกแบบเต็มตัว จะเป็นที่พึ่งให้เหล่า "สีกากี" ได้หรือไม่ เพราะแม้ระดับรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. จะขยับกันตามลำดับอาวุโส ที่มีกฎ ก.ตร.กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดแล้ว

                ไฮไลต์สำคัญน่าจะอยู่ที่ระดับ "ผบช." และ "ผบก." ซึ่งถือเป็นระดับ "หัวหน้าหน่วย" การเลือกคนจะเหมาะสมกับงานหรือไม่ รวมทั้งคนทำงานจะได้รับการแต่งตั้งบ้างหรือเปล่า หรือพวกเด็กเส้นเด็กสายจะยังคงเป็นใหญ่ ยังคงได้ดีเหมือนเดิม

                เป็นสิ่งที่ "สีกากี" กำลังรอพิสูจน์ผลงาน "นายกฯ บิ๊กตู่".

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"