ประท้วงฮ่องกงวนซ้ำวรจรเดิม ตำรวจปะทะกลุ่มคนชุดดำ


เพิ่มเพื่อน    

ฮ่องกงตกอยู่ในวังวนวงจรอุบาทว์ของการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ ผู้ชุมนุมรวมตัวท้าทายคำสั่งห้ามของทางการอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนแตกขบวนหลายทิศทางหลอกล่อตำรวจ แต่โดนแก๊สน้ำตาและการรักษาการณ์หนาแน่นไม่ให้เข้าใกล้สำนักงานผู้แทนจีนที่เคยโดนละเลงกำแพงเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่แล้ว

ภาพ AFP

    ชาวฮ่องกงชุมนุมประท้วงติดต่อกันตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันเสาร์ ผู้ประท้วงนัดชุมนุมต่อต้านกลุ่มอันธพาลอั้งยี่ที่ใช้ความรุนแรงโจมตีผู้ประท้วงที่เขตหยุ่นหลงเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีคนบาดเจ็บ 45 ราย การชุมนุมโดยท้าทายคำสั่งห้ามนี้จบลงด้วยความวุ่นวายเมื่อตำรวจปราบจลาจลเข้าสลายฝูงชน ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม ชาวฮ่องกงนัดมาชุมนุมกันอีกครั้งที่สวนสาธารณะใจกลางย่านธุรกิจของฮ่องกง ก่อนที่ฝูงชนจะล้นออกไปตามถนนสายต่างๆ โดยรอบ ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงชุดดำกระจายกำลังกันไปหลายทิศทางและเริ่มปิดกั้นถนนสายหลักๆ

    ผู้ประท้วงหลายพันคนพากันเคลื่อนขบวนไปทางทิศตะวันออก มุ่งสู่เขตคอสเวย์เบย์ที่เป็นย่านชอปปิง ผู้ประท้วงอีกกลุ่มที่ขนาดใหญ่พอกันมุ่งสู่ทิศตะวันตก ไปยังสำนักงานผู้แทนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ประท้วงกลุ่มหลังนี้เผชิญกับตำรวจปราบจลาจลหลายร้อยนายที่วางกำลังขัดขวางไม่ให้ขบวนเคลื่อนไปยังอาคารนี้ได้ ตำรวจยังได้วางสิ่งกีดขวางที่ภายในบรรจุน้ำเป็นปราการอย่างแข็งแรง ส่วนด้านหน้าสำนักงาน มีกรอบพลาสติกครอบตราประจำชาติที่อยู่เหนือประตู

    ในย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นใกล้กัน ตำรวจยิงกระสุนแก๊สน้ำตาหลายนัดและกระสุนยางขับไล่ผู้ประท้วง ในขณะที่ผู้ประท้วงซึ่งสวมหมวกนิรภัย หน้ากากกันแก๊ส และเสื้อเกราะ ตอบโต้ด้วยก้อนอิฐ ไข่ และสิ่งของต่างๆ โดยใช้ร่มและโล่ดัดแปลงเป็นที่กำบัง หลายใช้ไม้ตีเกราะโลหะให้เกิดเสียงดัง

    สำนักงานผู้แทนจีนแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณะระบายความโกรธแค้นของชาวฮ่องกง ที่มองว่ารัฐบาลปักกิ่งเข้าควบคุมเขตปกครองตนเองแห่งนี้มากขึ้น ทั้งที่เคยให้คำมั่นว่าจะยึดหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" เมื่อครั้งได้รับมอบเกาะนี้คืนจากอังกฤษเมื่อปี 2540

    การประท้วงในฮ่องกงเกิดต่อเนื่องมานานกว่า 2 เดือน โดยมีนักเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตยเป็นหัวขบวนในการต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้จีน การประท้วงซึ่งเคยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1 ล้านคน มักเริ่มต้นอย่างสงบแต่จบลงด้วยการปะทะกับตำรวจ นอกจากปาไข่และพ่นสีใส่กำแพงสำนักงานผู้แทนจีนเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผู้ประท้วงยังเคยบุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินภายในห้องประชุมอาคารสภานิติบัญญัติ

    รัฐบาลปักกิ่งกล่าวเตือนภายหลังเหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค. ว่าจีนจะไม่อดทนกับพฤติกรรมเช่นนี้อีก แต่ถึงขณะนี้จีนยังคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลฮ่องกงภายใต้การบริหารของแคร์รี แลม รับมือสถานการณ์เอง

    ฟ่ง ลัค ผู้ประท้วงรายหนึ่งซึ่งสวมชุดสไปเดอร์แมนให้เข้ากับชุดของลูกชายวัย 6 ขวบ กล่าวว่า เขามาร่วมการชุมนุมประท้วงทุกครั้ง แต่ไม่เคยสวมหน้ากากมาก่อน "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด พวกที่อยู่ในอำนาจต่างหากที่ทำผิด ถึงจุดนี้ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากแคร์รี แลม ต้องลาออก เพราะเธอบริหารไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด"

    ดูเหมือนว่าการชุมนุมในครั้งนี้มีความเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงมีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน นักเคลื่อนไหวกล่าวกันว่า พวกเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ด้วยการกระจายขบวนไปยังทิศทางต่างๆ โดยหวังแยกกำลังของตำรวจ

    คลอเดีย โม ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยกล่าวกับเอเอฟพีว่า ตอนนี้ฮ่องกงติดอยู่ใน "วงจรอุบาทว์" ที่การเดินขบวนอย่างสงบไม่ได้รับความสนใจจากรัฐบาล จบลงด้วยความรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงหัวแข็งกร้าวกลุ่มเล็กๆ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"