ตระหนักในประโยชน์ชาติ


เพิ่มเพื่อน    


    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2562 ทรงขอบใจคำอำนวยพร ทรงขอให้ชาวไทยตระหนักในประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมทรงตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีน-ญวน เฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราชเจ้า "นายกฯ" นำพสกนิกรจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล "ปชช." เปล่งเสียงทรงพระเจริญ
    เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2562 เวลา 11.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ   เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ เทียบรถยนต์พระที่นั่งที่กำแพงแก้วพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2562  
    การนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงรอเฝ้าฯ รับเสด็จ
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ครุยมหาจักรี  สายสะพายนพรัตนราชวราภรณ์ สายสร้อยจุลจอมเกล้า ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
    ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ความว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้ลุอุดมมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์มีความปีติปราโมทย์เป็นล้นพ้น ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลในมหาสมาคมอันยิ่งใหญ่นี้ 
    นับแต่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงตอบรับคำกราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย ได้ทรงยึดมั่นพระราชปณิธานที่จะทรงสืบสานรักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของสมเด็จพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดจนความดีความเจริญทั้งปวงของชาติ พระราชปณิธานนี้ได้รับการยืนยันมั่นคงเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่มหาชน เมื่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงประกาศพระปฐมบรมราชโองการในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” พระปฐมบรมราชโองการที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันหนักแน่นแน่วแน่นี้ ยังความปลื้มปีติแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าและประชาชนชาวไทย ทำให้บังเกิดความอุ่นใจ และมั่นใจที่จะประกอบกิจการงานสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนและประเทศชาติ ทั้งร่วมกับสืบสานรักษาความดีความเจริญทั้งปวงของชาติให้ดำรงคงอยู่โดยตลอดต่อเนื่อง และพัฒนาต่อยอดให้ยิ่งดียิ่งเจริญขึ้น โดยมีใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเป็นหลักชัยและเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาสามัคคี  ในมหามงคลสมัยภิเษกนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จึงขอพระราชทานตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายพระพรชัยมงคลด้วยใจจงรักภักดี  ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและเทวาติเทพน้อยใหญ่ซึ่งรักษาสยามรัฐสีมาราไชยสวรรค์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลบำรุงพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมสำราญ ทรงสมบูรณ์ด้วยพระบุญญาธิการ และพระพลานามัย มีพระราชประสงค์จำนงใดจงสัมฤทธิผล เจริญพระชนมสุขสิริสวัสดิ์ เสด็จดำรงในมไหศูรยสมบัติยิ่งยืนนาน เป็นที่พึ่งอันเกษมไพศาลของปวงประชาชาวไทยสืบไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”
ตระหนักในประโยชน์ชาติ
    จากนั้น นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล ตามลำดับ 
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ ความว่า "ข้าพเจ้ามีความปีติชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง  ที่ท่านทั้งหลายพร้อมเพรียงกันมาให้พรในวันเกิด ขอขอบพระทัยและขอบใจในคำอำนวยพรอันเปี่ยมไปด้วยความหวังดีและไมตรีจิต ขอทุกท่านจงได้รับพรอันเปี่ยมด้วยความหวังดีและไมตรีจิต ขอทุกท่านจงได้รับพรและไมตรีจากใจจริงของข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน ชาติบ้านเมืองจะมีความเจริญมั่นคงได้ก็ด้วยนานาสถาบันอันเป็นหลักของประเทศ ตลอดจนชาวไทยทุกหมู่เหล่า  มีความสำนึกตระหนักในประโยชน์ของประเทศชาติแล้วพร้อมใจกันสร้างสรรค์ประโยชน์นั้นให้บังเกิดงอกงาม ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นผู้แทนสถาบันต่างๆ ของประเทศและประชาชนชาวไทยทุกคน จึงชอบที่จะระลึกถึงความสำคัญในข้อนี้ แล้วตั้งใจประพฤติปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบให้ดีที่สุด ด้วยความปรารถนาอย่างเดียวกันที่จะให้งานทุกอย่างสำเร็จเป็นความดี ความเจริญทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม ประเทศชาติของเราก็จะสามารถดำรงรักษาความเป็นปรกติมั่นคง พร้อมทั้งพัฒนาให้ก้าวหน้าไป และบรรลุถึงความวัฒนาผาสุกได้โดยสวัสดี ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้มีความสุขความเจริญทุกเมื่อทั่วกัน” 
    จบแล้ว มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านปิดพระวิสูตรเจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมเช่นเวลาเสด็จออก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
    ต่อมาเวลา 17.14 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขหน้าพระอุโบสถ ทรงตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนและญวน บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ
     ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ แล้วทรงจุดธูปเทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ เสด็จลงมุขหน้าพระอุโบสถ พระราชทานสังคหวัตถุแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน จำนวน 68 คน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง ที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระนามสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชอุปัธยาจารย์ และสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร พระราชธรรมวาจาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า จบแล้ว
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปถวายพระสุพรรณบัฏบนพานแว่นฟ้ากลีบบัวประดับมุก และพัดยศหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระสงฆ์ 10 รูปเจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะเจ้าคณะรอง จบแล้ว   ทรงประเคนสุพรรณบัฏ หิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตรเครื่องประกอบสมณศักดิ์แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาแล้ว ทรงประเคนสัญญาบัตรพัดยศ ผ้าไตรแด่พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ถวายอนุโมทนา
     สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก เจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา นิมนต์พระสงฆ์ 68 รูป ซึ่งจะเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเข้านั่งอาสนะในพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปเทวรูปเทวดานพเคราะห์ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีลแล้ว พระสงฆ์ 68 รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ระหว่างพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร  ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเทเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
ผู้แทนพระองค์ปล่อยโค
    วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการประธานองคมนตรี ผู้แทนพระองค์ ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลปล่อยโค นกและปลา เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2562 ณ ท่าวาสุกรี
    ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ฯ ปล่อยโคพระราชทานจำนวน 1 คู่ ปล่อยนกเขาชวาจำนวน 68 ตัว จากนั้นไปยังศาลาท่าน้ำ ไปยังบริเวณโป๊ะท่าน้ำ ปล่อยปลาและเต่าส่วนพระองค์ลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ปลาดุก 68 ตัว เต่า 68 ตัว สำหรับเต่าจะเชิญไปปล่อยในที่เหมาะสมต่อไป จากนั้นผู้แทนพระองค์ฯ ตัดริบบิ้นตู้ปลา ปล่อยปลาในตู้ที่กรมประมงจัดถวายลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว, ปลาตะเพียนทอง, ปลายี่สกไทย, ปลาแก้มช้ำ, ปลาสร้อยขาว, ปลากระแห, ปลาชะโอน, ปลาโพงและปลาบึก จากนั้นเดินทางกลับ
    การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์พระราชทานโคที่ทรงไถ่ชีวิตให้กรมปศุสัตว์นำไปดำเนินการตามโครงการโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ โดยกรมปศุสัตว์พิจารณาคัดเลือกเกษตรกรที่จะรับไถ่ชีวิตโคพระราชทานจำนวน 1 รายคือ นางทองหลาย ศรีแก้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 13 ตำบลบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เพื่อรับมอบโคไถ่ชีวิตพระราชทานนำไปเลี้ยงเพิ่มผลผลิตตามโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 ก.ค.2562 ความว่า “อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว  อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอตั้งกัลยาณจิตร่วมกับปวงชนชาวไทย สำแดงความปีติโสมนัส และขอถวายพระพรชัยมงคล 
    บัดนี้ สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงรับพระบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณีทุกประการ พร้อมทั้งพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการที่จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ดุจเดียวกับที่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ได้ทรงปฏิญาณพระองค์เป็นแนวทางดำเนินพระราชจริยาสืบมาทุกรัชสมัย 
    อันว่าพระราชธรรมสำหรับพระมหากษัตริย์นั้น มี 10 ประการเรียกว่า ‘ทศพิธราชธรรม’ ประกอบด้วยการให้, การสังวรระวังกายวาจาให้เป็นปรกติ, การบริจาคเพื่อบรรเทาความโลภ, ความซื่อตรง, ความอ่อนโยน, การกำจัดความเกียจคร้านและความชั่ว, ความไม่มักโกรธ, ความไม่เบียดเบียน, ความอดทนและการดำรงความยุติธรรม
    เมื่อใดพระมหากษัตริย์ทรงดำรงทศพิธราชธรรมให้บริบูรณ์ด้วยดีในพระองค์ เมื่อนั้นพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท และราษฎรย่อมสวามิภักดิ์ พร้อมพลีกำลังกายกำลังความคิดสนองพระเดชพระคุณโดยความซื่อสัตย์สุจริตและกตัญญูปรากฏพระปีติโสมนัสมาสู่ดวงพระราชหฤทัย ในขณะเดียวกัน ประชาชนทุกคนก็พึงทำความแยบคายในใจให้ถ้วนถี่ว่า ทศพิธราชธรรมนี้หาได้เป็นพระราชปฏิบัติสำหรับพระมหากษัตริย์แต่ฝ่ายเดียวไม่ ด้วยเหตุที่ความรุ่งเรืองของชาติบ้านเมือง จำเป็นต้องอาศัยกำลังพสกนิกรทุกหมู่เหล่าช่วยกันทำหน้าที่ตามฐานะของตนๆ เพื่อสนองพระบรมราโชบาย จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ได้สมพระราชปรารถนา เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้อาศัยใต้พระบรมโพธิสมภาร จึงพึงศึกษาและน้อมนำธรรมะทั้ง 10 ประการข้างต้น มาเป็นวิถีการดำรงตนโดยทั่วหน้ากัน 
    ณ อุดมสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา อาตมภาพขออัญเชิญนิพนธคาถาแห่งสุขาภิยาจนคาถา มากล่าวอ้างเป็นสัจจวาจาว่า มาตา  ปิตา จอตฺรชํ, นิจฺจํ  รกฺขนฺติ  ปุตฺตกํ, เอวํ  ธมฺเมนราชาโน,  ปชํ รกฺขนฺตุ  สพฺพทาฯ
    ความว่า ‘มารดาและบิดาย่อมถนอมบุตรน้อยอันบังเกิดในตนเป็นนิตย์ฉันใด พระราชาจงทรงรักษาประชาราษฎร์โดยชอบในกาลทั้งปวงฉันนั้น’
    ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจานี้ ขอประชาราษฎร์ทั้งปวง จงสมัครสมานสามัคคี ประพฤติปฏิบัติตนเป็นเสมือนลูกที่ดีพร้อมเพรียงกัน ทำนุบำรุงชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้วัฒนาสถาพร เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นในอันที่จะทรงรักษาประชาราษฎร์โดยชอบดุจดั่งบิดรมารดา จักได้ทรงปลอดโปร่งพระราชหฤทัย ทรงบริบูรณ์ด้วยพระกำลัง ที่จะทรงยังราชอาณาจักรไทยให้ร่มเย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบารมีสืบไป 
    ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และพระราชกุศลธรรมจริยา จงอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญหลักชัยแห่งราชอาณาจักรไทย ตราบจิรัฏฐิติกาลเทอญ.”
    วันเดียวกัน ที่บริเวณท้องสนามหลวง เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2562 พร้อมด้วยองคมนตรีและภริยา ประธานองค์กรอิสระ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรี (ครม.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการตุลาการ ผู้ว่าฯ กทม. เครือข่ายภาคเอกชนและประชาชนกว่า 2,000 คนเข้าร่วม โดยมีสมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ 10 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้น สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ พระสงฆ์และสามเณร จำนวน 568 รูป รับบิณฑบาต 
    เวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ที่เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง โดยมีข้าราชการ พลเรือน ทการ ตำรวจ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมด้วย โดยนายกฯ กล่าวถวายราชสักการะว่า ปวงข้าพระพุทธเจ้า ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชหฤทัยอันมุ่งมั่น ที่จะสร้างความผาสุกร่มเย็นแก่อาณาประชาราษฎร์ และสร้างสิริสวัสดิ์พิพัฒนไพบูลย์แก่ประเทศชาติ ทรงส่งเสริมให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรัก สามัคคี มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และตั้งมั่นบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม อีกทั้งทรงเป็นต้นแบบและเป็นพลังใจใหญ่หลวงให้ปวงข้าพระพุทธเจ้า ยึดมั่นในการปฏิบัติราชการอย่างเต็มกำลังสติปัญญา ด้วยความถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน 
    "ในศุภมหามงคลสมัยนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอตั้งจิตอธิษฐาน อัญเชิญอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลไปทั่วทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์สิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ทุกประการดั่งตั้งพระราชหฤทัย สถิตเป็นมิ่งขวัญ ปกเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน" 
    จากนั้น นายกฯ นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณว่า  "จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามพระยุคลบาท มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์ต่อแผ่นดินและดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรม คำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางในพระบรมราโชวาทต่อไป"
เปล่งเสียงทรงพระเจริญ
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคู่สมรส เดินทางไปยังอาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ภายในพระบรมมหาราชวัง เพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยมีคณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ ประธานศาลฎีกา ประธานสภานิติบัญญัติฯ ข้าราชการระดับสูง ผู้บริหารองค์กรอิสระ นักการเมือง ตลอดจนเอกอัครราชทูตและผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ร่วมลงนามถวายพระพร 
    ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีข้าราชการ นักธุรกิจ และคณะบุคลากรจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในศาลาสหทัยสมาคม 
    โดยสำนักพระราชวังได้จัดเต็นท์และโต๊ะ ณ บริเวณสนามหญ้าด้านข้างศาลาลูกขุน ในพระบรมมหาราชวัง สำหรับบริการให้ประชาชนลงนามถวายพระพรชัยมงคล ตั้งแต่เวลา  09.00 น. ถึง 17.00 น. โดยมีประชาชนสวมใส่เสื้อเหลืองทยอยลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง
    น.ส.แพรดาว จุติจริยวัตร ชาวกรุงเทพฯ อายุ 38 ปี พร้อมด้วยเพื่อน เดินทางมาจากบ้านพักย่านบางกะปิ กล่าวว่า ตนเป็นจิตอาสา และมาเฝ้าฯ รับเสด็จเพื่อชื่นชมพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 10 เป็นประจำ วันนี้มาลงนามถวายพระพรแต่เช้าตรู่เหมือนเช่นทุกปี ด้วยรักและเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์ รู้สึกอบอุ่น มีประชาชนมาร่วมลงนามคับคั่งด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จะขอทำหน้าที่ของตนเอง และปฏิบัติงานจิตอาสาสืบสานแนวพระราชดำริอย่างเต็มที่ และช่วงเย็นจะร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรที่ท้องสนามหลวง ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบกำแพงพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนสวมเสื้อเหลืองจำนวนมาก พร้อมถือธงชาติไทยและธงตราสัญลักษณ์ วปร. มาจับจองพื้นที่เฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม้อากาศจะร้อน แต่ไม่ย่อท้อ เพื่อชื่นชมพระบารมีและถวายพระพรชัยเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.2562 
    ช่วงค่ำ เวลา 19.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล ณ เวทีท้องสนามหลวง รวมทั้งมีการแสดงอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) แปรอักษรเฉลิมพระเกียรติ ที่บริเวณสนามฟุตบอลภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
    ที่โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ รอง ผบ.ทอ. เป็นประธานในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 ก.ค.2562 โดยจัดให้มีพิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้สดถวายราชสักการะ การกล่าวคำถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์จำนวน 68 รูป พิธีลงนามถวายพระพร และพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 4 ตัว
    นอกจากนี้ กองทัพอากาศ โดยกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ทำการยิงสลุตหลวง 21 นัด ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 
    เช่นเดียวกับกองทัพเรือ โดยฐานทัพเรือกรุงเทพ ทำการยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 ก.ค.2562 ณ ป้อมวิชัยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม กองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 
    ที่กองทัพบก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. เป็นประธานทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 68 รูป ก่อนลงนามถวายพระพร รวมถึงพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และพิธีไถ่ชีวิตกระบือ รวมทั้งยังจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล โดยภายในงานยังจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติกษัตริย์นักการทหาร ที่ทรงพระอัจฉริยภาพด้านการทหารเป็นที่ประจักษ์ ตลอดจนแสดงพระราชประวัติ รวมทั้งพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ 
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ  ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล และพิธีตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 68 รูป จากนั้นได้ทำพิธีถวายราชสักการะ ถวายพระพรชัยมงคล และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1
    ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายนุรักษ์ มาประณีต  ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล และถวายสัตย์ปฏิญาณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 ก.ค.2562  เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นพระราชสักการะ อีกทั้งยังเป็นการสนองพระราโชบายตามแนวพระราชดำริในโครงการจิตอาสาพระราชทาน "เราทำความดี ด้วยหัวใจ" ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่า มีความสามัคคี ร่วมมือ  ร่วมใจ ประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวม โดยมีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการและลูกจ้างสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างพร้อมเพรียง 
    สำหรับกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”  ทางประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตลอดจนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ข้าราชการและลูกจ้าง ได้ร่วมกันทำความสะอาดและทาสีรั้วใหม่บริเวณศาลรัฐธรรมนูญ อาคารบ้านเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"