ไม่ว่าเทคโนโลยีจะปรับเปลี่ยนการนำเสนอข่าวสารและความจริงแค่ไหน คนข่าวก็ต้องแสวงหาความจริงของสังคมด้วยการสัมผัสกับชาวบ้าน พ่อค้าแม่ขาย และคนเดินถนนทั่วไป เพื่อจับชีพจรของชีวิตแห่งความเป็นจริง
วันก่อนผมไปทำรายงานพิเศษที่กาญจนบุรี ก็ต้องแวะไปพูดคุยซักถาม แลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้คนที่ตลาดสดเทศบาลเมืองกาญจน์
ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับพ่อค้าแม่ค้าและคอการเมืองในร้านโชห่วย ถามไถ่ยอดขายสินค้าและอาหารการกินรวมถึงหนังสือพิมพ์ (ที่ตกต่ำต่อเนื่องเพราะเหตุหลายปัจจัย) และถกแถลงการบ้านการเมืองอย่างคึกคัก!
ถ้านักการเมืองและผู้บริหารประเทศมาฟังเสียงเจ้าของประเทศตัวเล็กๆ ที่จิตใจบริสุทธิ์และยิ่งใหญ่เองจะต้องสะอึกไปหลายตลบ
เพราะประเด็นสำคัญคือ พ่อค้าและแม่ค้าเกือบทุกคนบ่นว่ายอดขายตกต่ำมาตลอด และมีแนวโน้มจะแย่ลงต่อเนื่องไปอีก
ผมเดินตลาดหลายจังหวัดในช่วงหลังได้รับคำร้องเรียนในทำนองเดียวกัน
บางคนบอกว่ายอดขายตก 30-50% แต่ที่ยังขายของในตลาดอยู่เพราะทำอย่างนี้มานาน ทำอย่างอื่นไม่เป็น ไม่รู้จะไปทำอะไร
แม่ค้าอีกบางคนบอกว่าต้นทุนสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าที่รับมาแพงขึ้น แต่ไม่สามารถจะขึ้นราคาขายได้เพราะจะยิ่งทำให้รายได้หดหายไปอีก
ข้อเท็จจริงที่น่าจะต้องมีการสำรวจอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะทำโดยรัฐบาลหรือเอกชน หรือหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมหรือสถาบันวิจัย ก็คือการหาคำตอบให้ได้อย่างชัดเจนว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดยอดขายร่วงลงอย่างมากมายเช่นนี้
สาเหตุหนึ่งอันชัดเจนที่ทำให้อำนาจซื้อของประชาชนหดตัวลง เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เงินทองที่เคยหมุนเวียนหายไป ผู้คนต้องประหยัดขึ้น
สาเหตุที่สองน่าจะมาจากการที่คนเข้าซื้อข้าวของประจำวันจากตลาดสดน้อยลง หันไปซื้อในห้างใหญ่ที่ราคาไม่ได้แพงกว่าเท่าไหร่นัก
อีกทั้งเมื่อห้างใหญ่ซื้อมาด้วยราคาขายส่งจำนวนมาก ได้เฉลี่ยต่อหน่วยถูกกว่าก็กลายเป็นคู่แข่งของตลาดสดไปทันที
อีกประเด็นหนึ่งที่ควรจะหาข้อมูลให้รอบด้านคือ ปริมาณการซื้อขายออนไลน์มีมากขึ้นกว่าเดิมอย่างไร และมีสัดส่วนที่ปรับเปลี่ยนไปเช่นไร
เมื่อมีระบบการส่งถึงบ้านสะดวกขึ้น คนไทยจำนวนไม่น้อยก็เริ่มจะสั่งของผ่านระบบออนไลน์ แม้กระทั่งอาหารการกินก็สั่งผ่านมือถือได้ นั่นย่อมมีผลกระทบต่อยอดขายในตลาดสดได้
ข้อมูลเหล่านี้ยังมีไม่มากพอที่จะสามารถเห็นภาพได้ชัดเจน แม้ว่าจะมีแนวโน้มไปเช่นนั้น
ดังนั้น รัฐบาลเองก็ควรจะต้องสำรวจข้อมูลเหล่านี้ เพื่อประกอบการพิจารณาช่วยเหลือชาวบ้านทั่วไปที่ยังทำมาหากินกับระบบตลาดสดทั่วประเทศ
ตลาดสดยังเป็นแหล่งซื้อขายของกินของใช้ที่สำคัญของชุมชนทั้งหลายทั่วประเทศ
อีกทั้งตลาดสดยังเป็นที่พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดของประชาชน
ผมเดินตลาดสดก็เพื่อฟังความเห็นของคนหลายๆ อาชีพ ทั้งคนขายและคนซื้อ ทั้งคนที่มีความคิดความอ่านที่สะท้อนถึงความรู้สึกของชาวบ้านอย่างแท้จริง
ดังนั้น รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องจะต้องพยายามหาข้อมูลเพื่อประเมินภาพที่แท้จริงให้ถูกต้อง และหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพื่อช่วยให้คนระดับชาวบ้านอยู่รอดจากปัญหาที่มากับความเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตของผู้คน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดสดก็ถูก "ป่วน" หรือ disrupt เพราะวิถีชีวิตของคนต้องเปลี่ยนตามแนวโน้มใหม่
แต่ขณะเดียวกันตลาดสดก็เป็นกลไกแห่งชีวิตประจำวันของคนในเมืองและชนบทที่สำคัญ เพราะเป็นแหล่งพบปะแลกเปลี่ยนความเห็นความเป็นไปที่ธรรมชาติและอบอุ่นเสมอ
ผมมักจะได้ยินได้ฟังความคิดความเห็นของคนไทยที่หลากหลาย ซึ่งสะท้อนถึงความจริงและความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาได้ดีที่สุดจากการเดินตลาดสดในจังหวัดต่างๆ นี่แหละ
อยากรู้การเมือง อยากจับชีพจรเศรษฐกิจ อยากได้ข้อมูลลึกๆ เกี่ยวกับชุมชนนั้นๆ ต้องเดินตลาดสดเท่านั้น!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |