เพื่อไทยในบทฝ่ายค้าน อาการน่าเป็นห่วง


เพิ่มเพื่อน    

      จบจากศึกแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาไปแล้ว โดยมี ดาวเด่น-ดาวดับ เกิดขึ้นกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็นซีกรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-สมาชิกวุฒิสภา เพราะทั้ง ส.ส.และรัฐมนตรีหลายคน ทำการบ้านกันมาพอใช้ได้ ทั้งเรื่องเนื้อหา-ข้อมูล-ภาพประกอบการอภิปราย ตลอดจนการวางตัว แสดงท่าทางประกอบการอภิปรายในห้องประชุมรัฐสภา โดยเฉพาะพวก ส.ส.หน้าใหม่ ป้ายแดง เพิ่งเข้าสภาฯ ครั้งแรก

      แต่ก็มีหลายคนที่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย บางคนก็เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว แต่รอบนี้ นอกจากไม่สามารถแจ้งเกิดได้แล้ว ยังเป็น ดาวดับ เอาเสียด้วย เพราะเนื้อหาข้อมูลการอภิปรายนอกจากไม่มีอะไรใหม่ อภิปรายไม่เข้าประเด็นเรื่องนโยบายรัฐบาลแล้ว ยังขุดเอาเรื่องเก่า ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรี-รัฐบาลมาอภิปราย แถมยังแสดงท่าทางในห้องประชุมแบบขาดวุฒิภาวะ ใช้กิริยาท่าทางไม่เหมาะสม

      อย่างคนที่ถูกพูดถึงมากคนหนึ่งก็เช่น ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งศึกแถลงนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมา เห็นได้จากเนื้อหาการอภิปรายของยุทธพงศ์ นอกจากไม่ถูกพูดถึงขยายความแล้ว กิริยาท่าทางของยุทธพงศ์ ที่เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีมาแล้ว ยังสอบไม่ผ่าน เพราะก่อนที่จะเกิดการปะทะคารมกับกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ตัว ยุทธพงศ์ก็ใช้คำพูดไม่เหมาะสมหลายครั้งในห้องประชุม เช่น เวลามีการประท้วงจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เป็นสิทธิของ ส.ส.รัฐบาลที่สามารถทำได้ แต่คำประท้วงจะฟังขึ้นหรือไม่ ประธานในที่ประชุมจะพิจารณาเอง รวมถึงประชาชนที่ติดตามการถ่ายทอด แต่ตัวยุทธพงศ์กลับพูดจาส่อเสียด-ประชดประชัน เช่น ไม่ได้พูดถึงกลุ่มสามมิตร จะประท้วงทำไม หรือเสียดสีคนที่ประท้วงว่าเป็นพวกประกอบสิบบาท หรือกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีภารกิจต้องออกจากห้องประชุมชั่วคราวเพื่อไปพบประธานคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่ยุทธพงศ์กลับพูดกลางรัฐสภาว่า นายกฯ อย่าหนีการประชุม จนสุดท้ายเลยเกิดการปะทะคารมกับกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ที่ประท้วง และบอกว่า ผู้อภิปรายดูถูกเหยียดหยามสมาชิก หากผมจะพูดบ้างว่าผู้อภิปรายเป็น ส.ส.ขี้ข้าโจร จากนั้นยุทธพงศ์ก็ตอบโต้ว่า ขอให้ถอน ผมขี้ข้าโจรที่ไหน มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน ไม่เหมือนท่านเลียรองเท้าทหารมา

      เหตุการณ์ทั้งหมด สุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินเองว่า ฝ่ายไหน-สมาชิกรัฐสภาคนใด ทำหน้าที่ในการอภิปรายได้ดี สอบผ่าน โดยพิจารณาจากผลงานของสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนเป็นหลัก

      อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนได้เห็นตลอดการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภาสองวันสองคืนก็คือ บทบาทของ พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำหลักฝ่ายค้านที่มี ส.ส.ในสภาฯ ร่วม 136 คน

      อันพบว่าตลอดการประชุมสองวันที่ผ่านมาดังกล่าว กับเวทีการแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญในฐานะฝ่ายค้าน เวทีแรกๆ ของพรรคเพื่อไทย ที่คนจับตามอง แต่พบว่า ส.ส.เพื่อไทยที่ลุกขึ้นอภิปรายหลายคน ไม่สามารถสร้างการจดจำ เสียงชื่นชมจากประชาชนได้เลย ทั้งในเรื่องเนื้อหาการอภิปราย-ข้อมูลการอภิปราย โดยปรากฏว่า ส.ส.ฝ่ายค้านที่คนให้คะแนนสอบผ่าน ส่วนใหญ่ จะเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้งที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทั้งหมด เป็น ส.ส.หน้าใหม่ทั้งพรรค ต่างจากเพื่อไทย ที่หลายคนในพรรคเป็น ส.ส.กันมาแล้ว บางคนร่วมกว่ายี่สิบปี แต่การทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาฯ ของเพื่อไทย กลับถูก  ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทำคะแนนได้ดีกว่า ชนิดให้คะแนนกันแล้ว ทิ้งห่างพรรคเพื่อไทยไปหลายช่วงตัว

      เพราะแม้แต่พวก ส.ส.เพื่อไทย ที่พรรคคาดหวังว่าจะผลักดันให้ขึ้นมาเป็นดาวสภาฯ หลายคนก็เห็นชัดว่า เนื้อหา-ข้อมูล ตลอดจนลีลาการอภิปราย สอบตกกันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นงานหินของเพื่อไทยไม่น้อย กับการรับบทบาทฝ่ายค้านต่อจากนี้ ที่จะต้องพัฒนา-ติวเข้ม ส.ส.ในพรรคให้เป็น ส.ส.คุณภาพให้หนักกว่านี้หลายเท่า

      จุดอ่อนของเพื่อไทยในการรับบทบาทฝ่ายค้าน ที่เห็นชัดก็คือ ตัว ส.ส.เพื่อไทยที่มีอยู่ในสภาฯ ปัจจุบันหลายคน หรือเกือบทั้งพรรคก็ว่าได้ ยังขาด ส.ส.-ขุนพลในสภา ที่มีความเชี่ยวชาญ มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือในการอภิปรายนำเสนอข้อมูลเชิงเศรษฐกิจ ทั้งเศรษฐกิจภายในประเทศและเศรษฐกิจโลก ตลอดจนการอภิปรายนำเสนอข้อมูลเชิงมหภาค ในภาพกว้าง-การนำเสนอความเห็นในเรื่องการให้ประเทศไทยเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านต่างๆ เช่น สังคมดิจิตอล-การรับมือกับสภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจโลก-ข้อคิดเห็นเรื่องสังคมดิจิตอล เป็นต้น

      จะเห็นได้ว่าตลอดการแถลงนโยบายที่ผ่านมา แทบไม่มี ส.ส.เพื่อไทยคนใดในสภาฯ ที่จะสามารถลุกขึ้นอภิปรายนำเสนอข้อมูลในเชิงคุณภาพเรื่องเศรษฐกิจ ที่ต้องเป็นคนที่พูดแล้วมีการทำการบ้านมาอย่างดี นำเสนอได้อย่างน่าเชื่อถือ น่ารับฟัง 

      ตรงนี้คือจุดอ่อนที่เห็นชัดของพรรคเพื่อไทยในยามนี้ ที่ยังมีภาพลักษณ์เป็นพรรคการเมืองที่มีแต่ ส.ส.ตกรุ่น ก้าวไม่ทันกับภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป คนเพื่อไทยยังจมปลัก เป็นนักการเมืองตกรุ่น เพราะยังอยู่กับวิธีการเล่นการเมืองแบบเดิมๆ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ต้องการเห็นการเมืองใหม่ๆ อันเป็นภูมิทัศน์ที่เพื่อไทยตามไม่ทัน แม้แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเองอย่างอนาคตใหม่

       จุดอ่อนดังกล่าวจึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่แกนนำเพื่อไทยต้องแก้ไขให้ได้โดยเร็ว เพราะหากยังทำได้แค่อย่างที่เห็นในเวทีแถลงนโยบายรัฐบาล หลายคนต่างบอกว่า อาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"