จากอนาคตเก่าถึงอนาคตใหม่


เพิ่มเพื่อน    

      ไหนๆ ก็อุตส่าห์นั่งฟังจนเหนื่อย...เปิดฉากสัปดาห์นี้ เลยคงต้องขออนุญาตกลับไปเก็บเอา ควันหลง ของฉากเหตุการณ์ การแถลงนโยบายของรัฐบาล เมื่อช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา มาว่ากล่าวเพิ่มเติมไว้อีกซักนิด โดยเฉพาะช่วงที่ต้องถือเป็น ช็อตเด็ด เป็น ไฮไลต์ ของการเริ่มเปิดฉาก เปิดม่านประชาธิปไตย ที่ไม่ถึงกับน่าเหนื่อย น่าทุเรศ เวทนา ไปด้วยกันซะทั้งหมด แต่ยังพอมีอะไรใหม่ๆ ให้น่าทึ่ง น่าประทับใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน...

                                                               ------------------------------------------------

      นั่นก็คือช็อตว่าด้วยการถกเถียง อภิปราย การลุกขึ้นมาโต้ตอบ ระหว่าง ส.ส.หนุ่ม ส.ส.ใหม่ระดับทั้งแท่ง ทั้งด้าม แห่งพรรค อนาคตใหม่ ผู้มีนามว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กับพลเอกวัยเกษียณ วัยชรา ที่ไม่ใช่ แก่แล้ว-แก่เลย แต่ได้แสดงออกถึงความเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ที่น่าเคารพ นับถือ มิใช่น้อย นั่นก็คือท่านรัฐมนตรีมหาดไทย อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งน่าจะมีส่วนส่งผลให้สีสัน บรรยากาศ ของการประชุมรัฐสภาคราวนี้ ยังพอหลงเหลือกลิ่นอายของการเป็นที่พบปะ เสวนา ของบรรดา สัตบุรุษ อยู่บ้าง ไม่ได้ถึงกับต้องกลายเป็นที่พบปะ ที่ปะทะ ของบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด กระซู่ และสมเสร็จ ไปด้วยกันทั้งหมด...

                                                               ------------------------------------------------

      คือคนหนุ่ม หรือคนรุ่นใหม่ อย่างคุณน้อง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้น...แทบไม่รู้เหมือนกันว่า ก่อนหน้านี้ท่านไปเก็บตัว ฟักตัว งำประกายไว้อย่างมิดชิด ณ ที่ไหน และแม้หลุดเข้ามาเป็น ส.ส.ในพรรคการเมืองที่ไม่ได้คิดจะ นับญาติ ไม่ได้สนใจลุง-ป้า-น้า-อา แต่โดยบุคลิกลักษณะ โดยแนวคิด วิธีคิด ตลอดไปจนพฤติกรรมและการแสดงออก ในระหว่างการอภิปรายเรื่องปัญหาการเกษตร เรื่องชีวิตของพี่น้องชาวนา-ชาวไร่ คงต้องยกให้ขึ้นชั้นระดับ ดาวรุ่ง ที่เจิดจรัสซะยิ่งไปกว่าระดับ ดาวสภาฯ คือไม่ใช่แค่เชี่ยวชาญ ชำนาญ แต่เฉพาะในเชิงโวหารเท่านั้น แต่ในเรื่องข้อมูล หลักคิด จุดยืนและทัศนคติ ต้องถือเป็นคนหนุ่ม หรือ คนรุ่นใหม่ ที่น่าหวัง และน่าสนใจ เอามากๆ...

                                                              -----------------------------------------------------

      อีกทั้งการที่ไม่ได้คิดจะประพฤติ ปฏิบัติ ตามแบบฉบับเดียวกันกับบรรดาคนรุ่นใหม่ ประเภทพวก กะปอม ทั้งหลาย ไม่ได้คิดจะเชือดเฉือน ส่อเสียด เสียดสี แจกกล้วย แจกผลไม้รวม ประทุษร้ายใครต่อใครโดยอาศัย วจีทุจริต ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่อาศัย ปิยวาจา และสัมมาวาจา ค่อยๆ ไล่ ค่อยๆ เรียง ทัศนะและแนวคิดของของท่านออกมาเป็นฉากๆ กระชับและรัดกุม ไม่ได้เพ้อเจ้อเหลวไหล แน่นไปด้วยข้อมูล และความรู้ลึก รู้จริง เลยส่งผลให้ ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ที่แม้ว่าจะเคยเป็นถึงพลเอกอัตราจอมพล เป็นอดีตผู้บัญทหารบก เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย และเป็น ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกับฝ่ายค้าน อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมาแสดงความทึ่ง ความประทับใจ ต่อ คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ อย่างชนิดจริงจัง จริงใจ บริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หลงเหลือร่องรอย ช่องว่างระหว่างวัย  หรือระหว่าง ไดโนเสาร์ กับ กะปอม เอาไว้เลยแม้แต่น้อย...

                                                                   ---------------------------------------------------

      และระหว่างที่ ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ฉบับของจริง-ของแท้ อย่าง พลเอก อนุพงษ์ ท่านได้แสดงออกถึงกับความชื่นชม ต่อข้อเสนอแนะต่างๆ ของคนรุ่นใหม่อย่างตรงไป-ตรงมา เด็กๆ อย่างคุณน้อง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ท่านก็ยังอุตส่าห์ยกมือขึ้นไหว้ แสดงความขอบคุณ แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์อีกด้วยต่างหาก ไม่ได้คิดจะเลิกนับญาติ เลิกนับถือลุง-ป้า-น้า-อา อย่างที่หัวหน้าพรรคของท่านเคยคิดจะประดิษฐ์ คิดค้น วัฒนธรรมองค์กร ชนิดนี้ขึ้นมา อันนี้...ก็เลยยิ่งน่าดีใจ น่าปลาบปลื้ม ยิ่งขึ้นไปใหญ่ เพราะสำหรับ สังคมไทย แล้ว...ไม่ว่าจะอนาคตเก่า หรืออนาคตใหม่ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ ย่อมถือเป็นสิ่งสำคัญ เป็นแก่น เป็นสาระ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ เป็นสิ่งที่ฝังลึกแนบแน่นอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า ค่านิยม-วัฒธรรม-ประเพณี อันเป็นตัวเชื่อมโยง อดีต-ปัจจุบัน-และอนาคต ไม่ให้เกิดรอยต่อ หรือเกิดความกลมกลืนกันไปเสมอๆ...

                                                                         --------------------------------------------------

      ดังนั้น...การที่พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ อย่าง พรรคอนาคตใหม่ ยังมีคนหนุ่ม นักการเมืองรุ่นหนุ่ม อย่างคุณน้อง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นส่วนหนึ่ง หรือส่วนสำคัญของพรรคการเมืองนี้ บรรดา ไดโนเสาร์ อย่างเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลาย ก็อย่าถึงกับต้องไปตั้งข้อรังเกียจ เดียดฉันท์ ใครต่อใครในพรรคการเมืองพรรคนี้อย่างไม่มีการจำแนกแยกแยะ ยิ่งถ้าได้ฟังคำแถลง คำอภิปราย ของตัวเลขาธิการพรรค อย่างอาจารย์ อองตวน ปิยบุตร ในคราวนี้ด้วยแล้ว อย่างน้อย...ก็คงต้องให้โอกาส ให้ที่ยืน กับบรรดา กะปอม ทั้งหลายเอาไว้มั่ง ให้เวลาสำหรับการเจริญเติบโตทาง วุฒิภาวะ การเคี่ยวกรำประสบการณ์ทางการเมือง แบบเดียวกับที่พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ท่านแสดงให้เห็นถึง ความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ฉบับของจริง-ของแท้เอาไว้แล้วนั่นแหละ...

                                                                        ----------------------------------------------------

      พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหาก ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ มีความเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ที่แท้จริง ไม่คิดเล็ก-คิดน้อย หรือคิดมาก และถ้าหากเด็กๆ ยังพอมีความรู้สึก สำนึก ถึงสิ่งที่สูงค่ายิ่งไปกว่าแนวคิด หรือทฤษฎี การเมือง ใดๆ นั่นก็คือ จิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ ซึ่งล้วนถูกหล่อหลอมขึ้นมาจาก วัฒนธรรม-ประเพณี ในลักษณะที่หลากหลาย แตกต่างกันไปตามแต่ละสภาพแวดล้อม โอกาสที่จะเกิด ช่องว่างระหว่างวัย หรือแม้แต่ ช่องว่างทางสังคม ไปจนกระทั่ง ช่องว่างทางชนชั้น ย่อมมีแต่ต้องลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ จนไม่ว่าอนาคตเก่า หรืออนาคตใหม่ ย่อมสามารถหลอมรวมกันกลายมาเป็น อนาคตประเทศไทย  น่าจะมีความเป็นไปได้สูงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                                                           --------------------------------------------------

      ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Confucius (อีกครั้ง)... Men’s natures are alike; it is their habits that carry them far apart. – ธรรมชาติของมนุษย์นั้นเหมือนกัน...อุปนิสัยใจคอของมนุษย์ต่างหาก ที่ทำให้เขาต้องแยกห่างออกจากกัน...

                                                                           -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"