การฝึกผจญมาร! แถลงนโยบาย2วัน34ชม.‘หมอพรทิพย์’ชี้ละครน้ำเน่า


เพิ่มเพื่อน    

  แถลงนโยบาย 2 วัน 34 ชั่วโมง "บิ๊กตู่" ขอโทษหากพูดไม่เหมาะสม ยันมีสติปัญญา คิดมาแล้วว่าต้องทำนโยบายอย่างไร ขอให้มั่นใจพาประเทศดำเนินไปอย่างมั่นคงในศตวรรษที่ 21 "สมศักดิ์" ซูฮก!เจ๋งนั่งฟังตลอด ตอบเองหมด "หมอพรทิพย์" สับแหลก มีแต่เกมหลอกด่า ลองของประธาน กลายเป็นการฝึกผจญมาร 

    เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อภิปรายปิดการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า เป็นโอกาสแรกที่ได้ทำความคุ้นเคย ทำความรู้จักกับสมาชิกรัฐสภา บางทีอาจจะไม่ชอบกัน เกลียดกัน อาจจะยังไม่รู้จิตใจกัน สิ่งสำคัญคือเรื่องการเคารพซึ่งกันและกัน อะไรที่พูดไม่เหมาะสมตนขอโทษ 
    "เราอาจจะปรับตัวเข้าหากันเล็กน้อย จากนี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะเบาะแว้งกันอีกต่อไป ส่วนการบริหารราชการแผ่นดิน หลายคนอาจมองว่าเป็นนโยบายที่เลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ แต่ยืนยันว่าผมมีสติปัญญาคิดมาแล้วว่าจะทำงานกันอย่างไร นี่คือกรอบนโยบายกว้างๆ เป็นการเขียนไว้เพื่อนำไปสู่แผนปฏิบัติการ"
    นายกฯ กล่าวว่า ใครจะพูดอะไรต้องเรียนรู้การบริหารราชการแผ่นดิน ต้องรู้ระเบียบกฎหมาย ส่วนเรื่องงบประมาณในการทำนโยบายต่างๆ นั้น ก็มาจากงบประมาณแผ่นดิน งบเงินกู้ ซึ่งแนวทางรัฐบาลจะลงทุน 1 ใน 3 เท่านั้น เอกชนจะเป็นผู้รับความเสี่ยง ส่วนรัฐบาลจะอำนวยความสะดวก ซึ่งไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะไปกำหนดวงเงินงบประมาณตรงนี้เพื่อทำแผนนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
        พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณประธานและสมาชิกรัฐสภา ที่อภิปรายให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ ความเห็นและข้อแนะนำต่างๆ จะนำไปแก้ปัญหาให้ประชาชนทุกด้าน และจะนำไปพิจารณาเพิ่มเติม ขับเคลื่อนนโยบายต่อไป ขั้นตอนต่อจากนี้ เดือน ส.ค. รัฐบาลจะประชุมชี้แจงส่วนราชการเพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งต้องแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยรัฐบาลจะกำหนดกรอบเวลา เป้าหมาย ตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับสถานการณ์ของสังคม 
    "ผมขอให้ความมั่นใจต่อสมาชิกรัฐสภาและประชาชนว่า รัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของผม จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่ได้ให้สัญญาไว้ว่าจะทำเพื่อประชาชนทั้งประเทศ โดยคำนึงหลักนิติรัฐ นิติธรรม สุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส รักษาวินัยการเงินการคลัง เพื่อนำประเทศไทยดำเนินไปอย่างมั่นคงในศตวรรษที่ 21" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
        จากนั้น นายชวนได้กล่าวก่อนปิดการประชุมว่าการประชุมตั้งแต่วันที่ 25-26 จนย่างเข้าวันที่ 27 ก.ค. ก็เห็นใจสมาชิกที่ไม่ได้อภิปราย ตนถึงบอกว่าต้องควบคุมเวลากันให้ดี หากเพื่อนคนแรกๆ อภิปรายมาก คนท้ายก็จะไม่ได้อภิปราย ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกฯ คณะรัฐบาล สมาชิกรัฐสภา ที่ให้ความร่วมมือ และได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 03.33 น. ทั้งนี้ การประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 25-27 ก.ค. ใช้เวลาทั้งหมด 34 ชม.
ซูฮก"บิ๊กตู่"สุดยอด
    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า เห็นความเปลี่ยนแปลงจากการนำเสนอจากการแถลงนโยบายจากรัฐบาลก่อนๆ ตนเคยเป็นรัฐมนตรีมา 13 ครั้ง ปกตินายกฯ จะอ่านเอกสารที่เตรียมมา แล้วมีการซักถามกัน ซึ่งที่ผ่านๆ มานายกฯ จะไม่ค่อยอยู่ในห้องประชุม อาจจะมีการตอบคำถามเล็กน้อยแล้วออกไป จากนั้นจะกลับมาขอบคุณสมาชิกรัฐสภา 
    แต่ พล.อ.ประยุทธ์นั้นอยู่ในห้องรับฟังการอภิปรายตลอด อาจมีหายไปรับแขกของบ้านเมืองบ้างแต่ไม่นานก็กลับมา แล้วท่านตอบฝ่ายซักถาม จนรัฐมนตรีบางกระทรวงไม่ต้องตอบเลย เพราะนายกฯช่วยตอบได้หมด แสดงให้เห็นว่านโยบายที่รัฐบาลเขียนมาคนที่เข้าใจมากที่สุดคือนายกฯ ดังนั้นการติดตามผลงานของรัฐบาลน่าจะออกมาได้ตามแผนที่เขียนเอาไว้ และเมื่อผลงานรัฐบาลออกมาดี จะเป็นเกราะที่คุ้มครองรัฐบาลให้อยู่ได้นาน ซึ่งอาจจะครบวาระ แต่ต้องดูต่อไปว่าจะเป็นไปตามที่ตนคิดไว้หรือไม่
    “หากประชาชนฟังการแถลงนโยบาย จะเห็นนายกฯ อยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา อารมณ์บางครั้งไม่เครียด อาจดูเหมือนหนักแต่ไม่หนัก หากพูดหรือแสดงอะไรผิดไปก็ขอโทษทันที ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรมากมาย อย่ามองเพียงการแสดงออก ขอยืนยันตรงนี้ว่านายกฯ และรัฐมนตรีทุกคนมีความตั้งใจทำงาน เพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน” นายสมศักดิ์กล่าว
    นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องขอขอบคุณพรรคฝ่ายค้าน สมาชิกรัฐสภา ที่อภิปราย เสนอแนะนโยบายอย่างเต็มที่ แม้ว่ามีบางช่วงบรรยากาศตึงเครียดบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชี้แจงฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ทุกนโยบายก็ตอบโจทย์ของประเทศ สามารถสร้างความอยู่ดีกินดีให้ชาวบ้านได้อย่างแน่นอน จากนี้ไปรัฐบาลก็จะเร่งดำเนินนโยบายทันทีเพื่อพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง
    นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาว่า กระบวนการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญครบถ้วนแล้ว หลังจากนี้จะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่ แต่จากการอภิปรายสองวันที่ผ่านมา สิ่งที่ต้องยอมรับคือมีข้อเสนอแนะดีๆ หลายข้อที่รัฐบาลจะได้นำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนต่อไป ซึ่งสมาชิกหลายคนก็พูดเสนอแนะที่ดี รัฐบาลก็ต้องยอมรับ และนำไปสู่การดำเนินโครงการหรือทำแผนงานที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและประเทศชาติต่อไป   
       แม้การอภิปรายฝ่ายค้านจะนอกประเด็นไปบ้าง ก็เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป เพราะสภาต้องรับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว และรัฐบาลกับสภาก็ต้องอยู่ร่วมกัน เหมือนปลากับน้ำที่ต้องอยู่ด้วยกัน และในระบอบประชาธิปไตยรัฐบาลกับรัฐสภาก็ต้องอยู่ด้วยกัน ดังนั้นก็ต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล" รมช.มหาดไทยกล่าว
"บิ๊กตู่"เจ๋งกว่า"หนูไม่รู้"
    ขณะที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของส่วนรวม เป็นเรื่องของประเทศชาติที่ทุกคนต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ แต่บางครั้งการทำงานตามระบบอย่างที่นายกฯ พูดก็ไม่ง่ายเหมือนที่คิด โดยคิดอย่างเดียว แต่ไม่คิดปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ได้แบบที่คิดก็ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่สมาชิกอภิปรายถือว่าเป็นความคิดเห็นที่หลากหลาย สามารถรับไปปฏิบัติได้ และเชื่อว่ารัฐบาลก็พร้อมรับไปปฏิบัติ
    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “warong dechgitvigrom” ระบุว่า “ผมเฝ้าติดตามถ่ายทอดสดการแถลงนโยบายของรัฐบาล ผมคิดว่านายกลุงตู่โอเลยครับ ทั้งจังหวะ ลีลา ลูกเล่นและความจริงใจ ยิ่งถ้ามีประสบการณ์มากขึ้น ผมคิดว่าฝ่ายค้านเล่นท่านยาก ที่สำคัญท่านให้เกียรติสภามาก มากกว่าอดีตนายกหญิงที่อ้างประชาธิปไตยหลายเท่า เพราะอดีตนายกหญิงมาสภาน้อยมาก แต่ท่านนอกจากมาแล้ว ยังกล้าต่อกรเอง ดังนั้นถ้ามาสภาได้ ขอให้ท่านมา เพราะถือว่าท่านให้เกียรติผู้แทนประชาชน จากนี้ไปรัฐบาลก็คงเริ่มทำงานได้ ที่สำคัญท่านอย่าให้มีการทุจริตนะครับ ถ้ามีถูกจับได้ รับรองพังแน่ ไม่ใช่แค่รัฐบาลพัง แต่ประเทศชาติจะพังด้วย ให้กำลังใจครับ
    ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว ก็ยังพบว่ามี ส.ว.ที่มาจากการสรรหาแต่งตั้งจาก คสช.หลายๆ คน ก็แสดงพฤติกรรม คำพูดที่ไม่เหมาะสมกับการอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย เช่นกล่าวว่า “ประเทศไทยจะเจริญได้กว่านี้ถ้าผู้ชายทุกคนเข้ารับการเกณฑ์ทหารเหมือนเกาหลีใต้ และถ้าหากบรรยากาศในรัฐสภายังวุ่นวาย ก็อาจต้องให้ทหารรัฐประหารนาน 20 ปี” หรือแม้กระทั่งคำว่า “ส.ส.ขี้ข้าโจร” หรือการแสดงอาการข่มขู่ จะใช้ความรุนแรงในสภา เป็นต้น 
    "ผมจึงอยากตั้งขอสังเกตว่า ภารกิจของ ส.ว.มีเป้าหมายในการทำงานเพื่อคนที่แต่งตั้งท่านมาเท่านั้นหรือไม่ หรือเพราะพวกท่านไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน จึงทำให้พวกท่านคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำงานเพื่อประชาชน ผมเลยอยากขอถามพวกท่าน ส.ว.ผู้ทรงเกียรติดังๆ ว่าคิดเช่นนั้นจริงหรือไม่" รองโฆษกพรรคเพื่อชาติกล่าว
    นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โจมตีส.ว. ว่าอย่าเลอะเทอะ เห็น ส.ว.คนหนึ่งเดินไปชี้หน้ากวักมือท้าตีท้าต่อย ส.ส.ฝ่ายค้านในสภา ใครตั้งมา อบรมกันหน่อย นี่ไม่ใช่เรือแป๊ะ ที่ยกมือตามกันมา 5 ปี ส.ส.ทำหน้าที่ ผิดถูกอย่างไรต้องรับผิดชอบทั้งทางการเมืองและกฎหมาย อย่ามาแสดงความดิบเถื่อนต่อหน้าประชาชน
    ขณะที่แพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา แสดงความเห็นว่า ประสบการณ์การประชุมสภาที่บอกว่าสมาชิกเป็นผู้ทรงเกียรติ แต่วัฒนธรรมและสิ่งที่พบไม่น่าเรียกว่าเป็นการกระทำที่ทรงเกียรติ บางฝ่ายนิยมการอภิปรายด้วยคำพูดส่อเสียดเบาๆ ไปจนส่อเสียดเหยียดหยามหนักหน่วง มีการเล่นเกมหลอกด่า มีการทดสอบอำนาจประธาน มีการให้ร้าย มีการด่าทั้งซึ่งหน้าและลับหลัง มีทั้งการด่าหรือส่อเสียดลับหลัง เบาหน่อยก็เรียกว่าแดก ศีลห้าข้อสี่น่าจะถูกละเมิดตลอดเวลา
          การถูกกำหนดให้ต้องนั่งฟังกลายเป็นการฝึกผจญมาร บวกกับความสามารถของประธานในการจัดการกับการไม่รักษาเกียรติของสมาชิก กลายเป็นแบบฝึกหัดผจญมารเพิ่มเติม ที่หนักสุดคงเป็นสภาวะอารมณ์ผู้นำที่ต่อกรกับคำพูดที่ทำลายเกียรติในการอภิปรายของฝ่ายค้าน นี่แค่ครั้งแรกที่ต้องประชุมร่วมสามฝ่ายคือ ส.ส. ส.ว.และรัฐบาล คำพูดที่ปกติจะได้ยินในละครทีวีเน่าๆ มีมาให้ต้องฝึกจิตให้นิ่งให้ละวาง สภาอันทรงเกียรติต้องอาศัยผู้ปฏิบัติงานที่มีเกียรติ ที่รักษาเกียรติ ที่ให้เกียรติผู้อื่น ที่ให้เกียรติสถานที่ แต่ที่พบดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นเลย.


 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"