ร้อนระอุ! กันมา 2 วันกับการฟังแถลงนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ถูกใจหรือไม่ถูกใจอย่างไร ก็ว่ากันไป
แต่วันนี้ขออนุญาตขีดเส้นใต้พักเรื่องการเมืองร้อนๆ เอาไว้ก่อน มาว่ากันที่เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนบ้าง
โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ที่เมื่อ 3-4 วันก่อนเห็นข่าวว่า "กทม." เตรียมเพิ่มโทษปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า
จาก 1,000 บาท ขึ้นเป็น 2,000 บาท
ตามข้อมูล รองผู้ว่าฯ กทม. "สกลธี ภัททิยกุล" บอกกับคณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต กำชับให้ทุกสำนักงานเขตกวดขันการจอด หรือขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างเข้มงวด "แม้ปัจจุบัน กทม.จะกำหนดอัตราโทษการจับปรับผู้กระทำผิดขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าเป็นจำนวน 1,000 บาท ซึ่งถือเป็นโทษที่ค่อนข้างสูง แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนอยู่จำนวนไม่น้อย จึงมีนโยบายเพิ่มโทษปรับผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าเป็นจำนวน 2,000 บาท"
เริ่มจับปรับอัตราใหม่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป!!!
นอกจากนี้ กทม.ยังเปิดรับฟังเสียงสะท้อนจากสังคม เกี่ยวกับความเหมาะสมของการกำหนดโทษในอัตราที่สูงขึ้นนี้ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป รวมทั้งมอบหมายสำนักเทศกิจ ประสานงานสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล จัดทำแอปพลิเคชันตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิด
หากพบว่าทำผิดซ้ำซาก ให้ดำเนินการลงโทษสูงสุดทันที โดยมิให้มีการลดหย่อนอย่างเด็ดขาด!!!
ครับ...ยกมือเห็นด้วยกับ กทม. หากอยากจะแก้ไขปัญหารถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ที่เดินตามท้องถนน ก็ต้องจริงจังและต่อเนื่อง
อย่าทำเป็นไฟไหม้ฟาง!!!
เพราะเท่าที่เห็นตัวเลขสถิติการจับปรับผู้กระทำผิดขับขี่รถบนทางเท้า ระหว่างวันที่ 9 ก.ค.61 - 21 ก.ค.62 จับกุมไปได้ทั้งสิ้นถึง 20,659 ราย ตักเตือน 4,197 ราย ดำเนินคดี 14,678 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,784 ราย ปรับเป็นเงินกว่า 11,179,500 บาท
แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย ไม่ได้เกรงกลัวการเสียค่าปรับ การขยับเพิ่มค่าปรับ เพิ่มบทลงโทษ จึงเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ดี
แต่ถ้าจะให้ดีเพิ่มขึ้น การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องเข้มข้นตามไปด้วย เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ ต้องทำงานหนัก ต้องลงไปตรวจจับการกระทำผิดตามถนนหนทางต่างๆ
จริงอยู่ทางเท้าในกรุงเทพฯ มีทั่วทุกท้องถนน แต่ก็คงไม่ต้องถึงกับไปเฝ้าไปดูทุกทางเท้า เลือกจุดที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์กระทำผิดบ่อยๆ กำลังเจ้าหน้าที่ก็น่าจะเพียงพอ
ที่สำคัญควรใช้อุปกรณ์ในการตรวจจับเพิ่ม อย่างกล้องวงจรปิดถ่ายภาพผู้กระทำผิดแล้วส่งใบสั่งไปที่บ้านเหมือนอย่างตำรวจจราจรก็น่าจะได้ผลเพิ่มขึ้น
"รองผู้ว่าฯ สกลธี" น่าจะลองไปพิจารณาดูก็ดี.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |