‘เปรมชัย’ดอดพบตำรวจ ‘ศรีวราห์’ฟุ้งคดีคืบ90%


เพิ่มเพื่อน    

ช่างบังเอิญ "เปรมชัย" ดอดรายงานตัวสภ.ทองผาภูมิก่อนกำหนด จ๊ะเอ๋! "ศรีวราห์" อย่างจัง   ต่างรับไหว้กันนอบน้อม รอง ผบ.ตร.ลั่นคดีฆ่าเสือดำคืบ 90% ช้าเพราะกรมอุทยานฯ ยังไม่ส่งผลการตรวจพิสูจน์ซากสัตว์ให้ ยังปักใจประเด็นซื้อซากจากชาวบ้าน ลั่นสอบสวนระมัดระวังไม่ปรักปรำให้ใครเสียหาย


    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มีนาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะนายตำรวจ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ลานจอด ฮ. เขื่อนวชิราลงกรณ (เขาแหลม) อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และเดินทางต่อโดยรถยนต์มาที่ สภ.ทองผาภูมิ โดยมี พล.ต.ต ทรงธรรม อัลภาชน์ รอง ผบช. 7 รักษาการ ผบก.ภ.จว. กาญจนบุรี, พ.ต.อ พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก. ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผกก.สภ. ทองผาภูมิ, พ.ต.ท.มนตรี แตงโต รอง ผกก.ป., ร.ต.อ. สุมิตร บุญยะนิจ รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี พร้อมข้าราชการตำรวจให้การต้อนรับ หลังจากนั้นคณะนายตำรวจได้เข้าห้องประชุม สภ.ทองผาภูมิ 
    พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้บรรยายสรุปผลของคดี โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้ซักถามในประเด็นต่างๆ รวมทั้งให้ข้อแนะนำในการทำสำนวนคดี เพื่อให้ครบถ้วนถูกต้องตามข้อกฎหมาย 
    พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อประชุมตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีนายเปรมชัยและพวกล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งตอนนี้มีข้อกล่าวหาอยู่ 9 ข้อ คดีเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด  
    เขากล่าวว่า การปฏิบัติของพนักงานสอบสวนให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบคำสั่งที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดี เช่น กรณีการรับคำร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายเปรมชัยกับพวก ที่ไม่ถูกต้องของพนักงานสอบสวน ในความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ. ศ.2557 ซึ่งได้มีการพิจารณาข้อบกพร่องของพนักงานสอบสวนไปส่วนหนึ่งแล้ว ตลอดจนกำชับพนักงานสอบสวนให้พิจารณาการร่วมนำชี้สถานที่เกิดเหตุที่อาจไม่ถูกต้องตรงความเป็นจริง และอาจจะนำพยานหลักฐานดังกล่าวเข้ารวมในสำนวนสอบสวนว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ 
    นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ยังได้สั่งการเร่งรัด และตรวจสอบสำนวนให้มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างรอบคอบเพื่อสรุปสำนวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และเสนอสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
    พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวย้ำว่า คดีนี้ทางตำรวจทำไปได้ถึง 90% แล้ว ที่ยังล่าช้ามาจากทางกรมอุทยานฯยังไม่ส่งผลการตรวจพิสูจน์ซากสัตว์มาให้ ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อกรมอุทยานฯ ส่วนเรื่องการสอบปากคำเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รอง ผบ.ตร.ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปสอบที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่เลย ไม่ต้องรอให้มาพบที่ สภ.ทองผาภูมิ ก็จะทำให้รวดเร็วขึ้น 
    รวมทั้งให้สอบปากคำกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ว่ามีบ้านเรือนผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุหรือไม่ เพื่อจะได้ชี้ชัดว่าไม่ได้ซื้อซากสัตว์ป่ามาจากบ้านใครหรือที่ไหน คดีนี้เคยพบเห็นทราบว่าศาลตัดสินโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา เพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ คดีนี้ไม่มีการล่าช้าแน่นอน เจ้าหน้าที่ทำไปตามพยานหลักฐาน
    สำหรับกรณีนี้ที่มีกระแสข่าวว่านายเปรมชัยจะมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ วันที่ 2 มี.ค.นั้น รอง ผบ.ตร.อ้างว่า ไม่ทราบ และไม่ได้รับข้อมูลว่าเขาจะมาหรือไม่มา แต่เรื่องนี้พนักงานสอบสวนนัดนายเปรมชัยมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันที่ 5  มีนาคมนี้ ถ้าหากไม่มาก็ให้พนักงานสอบสวนรายงานต่อศาล เพื่อขอความเห็นชอบจับกุมฐานขัดหมายเรียกต่อไป
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ยืนยัน 9 ข้อหาล่าสัตว์ป่ามีความผิดเกิดขึ้นชัดเจน ส่วนข้อหาอื่นที่ยังไม่ปรากฏชัด การสอบสอบสวนก็ระมัดระวัง ไม่ไปปรักปรำผู้ใดให้เกิดความเสียหาย
         ขณะเดียวกัน นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทยฯ อยู่เลขที่ 12/3ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยทีมทนายความ และนายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี, นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี, นายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหา เดินทางมาโดยรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 3 กค 1601กรุงเทพฯ และรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮน 3103 กรุงเทพมหานคร ไปยัง สภ.ทองผาภูมิ
       เมื่อคณะของนายเปรมชัยไปถึง สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำนายเปรมชัย กรรณสูต และนางนที เรียมแสน เข้าห้องพนักงานสอบสวนที่ชั้น 2 สภ.ทองผาภูมิ ส่วนนายธานี ทุมมาศ และนายยงค์ โดดเครือ เจ้าหน้าที่ได้นำไปห้องสอบสวนอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน โดยมีทีมพนักงานสอบสวนจาก บก.ภ.จว.กาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน
      หลังจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์เสร็จสิ้นการประชุมคณะนายตำรวจซึ่งใช้เวลาราว 1 ชม. จึงเดินมายังห้องสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ซึ่งอยู่ห่างราว 300 เมตร จากนั้นได้เดินขึ้นไปยังห้องที่นายเปรมชัยให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมีการพูดคุยกับนายเปรมชัยราว 5 นาทีก็ออกจากห้องเพื่อเดินทางกลับ
    ทั้งนี้ มีภาพการรับไหว้ระหว่าง พล.ต.อ.ศรีวราห์กับนายเปรมชัยเผยแพร่ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งต่างวิจารณ์กันว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์มีความนอบน้อมมากเกินไป แม้แต่นายตระกูล วินิจนัยภาค  อดีตอัยการสูงสุด ก็โพสต์ข้อความในทำนองแซวพล.ต.อ.ศรีวราห์เช่นกัน โดยระบุว่า คงเกรงหมวกจะหล่น เลยก้มมากเกินไป
      พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวก่อนจะเดินทางกลับว่า ได้พูดกับนายเปรมชัยเรื่องปืนและเรื่องงาช้างว่าต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งนายเปรมชัยก็รับทราบ ผู้ต้องหาวันนี้มาทั้ง 4 คน คำให้การสอดคล้องกับของผู้กล่าวหา ยืนยันการทำคดีไม่ได้ล่าช้า และไม่มีการตุกติกแน่นอน ในการรวบรวมพยานหลักฐานที่ตำรวจรับผิดชอบ ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว ที่เหลือเป็นส่วนอื่น ขณะนี้สำนวนคดีคืบหน้าไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันไม่ได้ล่าช้า คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องให้พนักงานอัยการได้ไม่เกินฝากขังครั้งที่ 4 หรือก่อนวันที่ 26 มี.ค.นี้
       ต่อมาเวลา 14.25 น. นายเปรมชัยพร้อมทีมทนายความได้เดินลงมาจากห้องพนักงานสอบสวน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแต่ทนายบอกว่านายเปรมชัยต้องรีบไปทานยาตรงเวลา จากนั้นได้ขึ้นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 3กค 1601 กรุงเทพฯ ออกจาก สภ.ทองผาภูมิไปทันที 
    ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปปป. กล่าวถึงกรณีที่สังคมวิจารณ์ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานของนายเปรมชัยอาจจะหลุดคดีว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เป็นความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนอย่างแรง ยืนยันคดีติดสินบนเจ้าพนักงานยังอยู่ ถึงแม้ว่าคลิปเสียงการสนทนาจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นนายเปรมชัย แต่พนักงานสอบสวนยังมีพยานหลักฐานอย่างอื่นอีก ซึ่งในวันที่ 8 มีนาคม จะมีการสอบปากคำ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และคนที่เกี่ยวข้องอีก 5 คน เพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวด้วย 
    พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างคดีหนึ่ง กรณีที่นายเปรมชัยถูกดำเนินคดี เป็นคดีที่ชี้ให้เห็นว่า แม้นายเปรมชัยจะเป็นผู้มีฐานะทางสังคม มีเงินมากและมีชื่อเสียง แต่เมื่อกระทำผิดกฎหมาย กฎหมายก็คือกฎหมาย ตำรวจก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เมื่อกระทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดและเด็ดขาด
        เขากล่าวว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ก็ลงไปติดตามคดีด้วยตนเอง และขณะนี้สามารถขยายผลได้เป็นอย่างมาก จะเห็นว่าตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา และไม่เห็นแก่ใครทั้งสิ้น หรือว่าตำรวจได้ให้ความเกรงใจใครหรือไม่ และตำรวจได้ให้ความเท่าเทียมกัน ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ใครมีเงินมากหรือเงินน้อย หรือมีชื่อเสียงกับไม่มีชื่อเสียง ก็ดำเนินการเช่นเดียวกัน สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม
        "ผมมั่นใจว่าทางทีมงานสืบสวนสอบสวนซึ่งนำโดยท่านศรีวราห์นั้นทำงานอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าเงินซื้อตำรวจไม่ได้ บารมีของคนในสังคมนั้นทำให้ตำรวจเกรงขามหรือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นไปไม่ได้ แน่นอนขอให้อดใจรอ ทุกอย่างจะพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และการดำเนินงานของพนักงานสอบสวนเป็นอย่างไร มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนไม่ผิดหวังในเรื่องนี้แน่นอน" รอง ผบ.ตร.กล่าว
    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ยังไม่มีการกำหนดชนิดของสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในการคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ว่า ตนไม่ทราบ เรื่องดังกล่าวต้องถามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
    "ไม่ใช่ช่องโหว่ แต่เรารู้สึกว่าเป็นช่องโหว่ หากกฎหมายมีอยู่แล้วก็เพียงไปกำหนด แต่ในการกำหนดนั้นก็ไม่มีผลย้อนหลังอยู่ดี ทั้งนี้ ผมเชื่อว่ามีการกำหนดไว้ก่อนแล้ว"
    เมื่อถามว่า ในคดีของนายเปรมชัยที่หลุดข้อกล่าวหา เนื่องจาก พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้กำหนดชนิดสัตว์เอาไว้ นายวิษณุตอบว่า ทำไมเราจึงมาพูดเรื่องหมา แมวกัน เชื่อว่าก่อนหน้านี้มีกำหนดไว้แล้ว แต่ครอบคลุมไม่หมด ซึ่งตนไม่ทราบ อาจจะพูดผิดไปได้.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"