ไม่รู้ว่าจะสมราคาคุยของ “ดอกเตอร์เหลิม” ผู้อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น เจ้าของวลีที่เคยบอกถึงพฤติกรรมของ “นายใหญ่เหลี่ยม” ว่า “ทักษิณไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม” ว่าการอภิปรายในรัฐสภานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะได้พบได้เจอกับ “นรกมีจริง” ในขณะที่ “กูรูด้านกฎหมายตัวพ่อ” อย่าง “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นั้นก็บอกว่าอาจเป็นแค่การ “ตัดไม้ข่มนาม” หรือการ “เขียนเสือให้วัวกลัว” เท่านั้น ซึ่งดูๆ จากในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดโพยผู้อภิปราย หรือแม้แต่เนื้อหาข้อสอบแล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่าอาจเข้าทางของ “อาจารย์วิษณุ” ซะมากกว่า...๐

ยิ่งดูรายชื่อผู้อภิปรายแล้วก็ได้แต่จะขำกลิ้ง โดยเฉพาะทั้งกรณีว่าที่ ผู้นำฝ่ายค้านอย่าง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งแม้เป็น ส.ส.หลายสมัย แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า “สมพงษ์” แม้จะ เป็นอดีตแกนนำกลุ่ม 16 ร่วมก๊วน “สุชาติ ตันเจริญ-เนวิน ชิดชอบ” แต่ก็ไม่ใช่ “ขาไฮปาร์ก” แต่ประการใด และยิ่งมาดูโทรโข่งของพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.อย่าง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” ที่ให้สัมภาษณ์แต่ละครั้งคราก็บอกได้คำเดียวว่ามีแต่ “โวหาร” มากกว่าเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ ที่สำคัญโวหารที่นำมาใช้นั้น 80-90% ก็มาจากสื่อ นสพ.และสื่อออนไลน์เสียเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าไม่มีอะไรใหม่เลยก็ว่าได้...๐

แล้วยิ่ง “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้านออกมาเปิดโพยชื่อคนอภิปรายคุณสมบัติของ “ลุงตู่-ลุงป๊อก-ลุงป้อม” แล้วก็ต้องบอกว่าต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกรณี “พล.อ.ประยุทธ์” แม้ล่าสุดจะประโคมว่าจะไม่พูดชี้นำคดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ เพราะอยู่นอกสำนวนนั้น แต่หากดูรายชื่อคนจองกฐินอย่าง “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็บอกได้คำเดียวว่า แน่ใจได้เหรอว่าจะสมราคาคุย เพราะหากย้อนกลับไปดูช่วงการหาเสียงก่อนเลือกตั้งแล้วลองไปดูตามเวทีต่างๆ ที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ไปออก รวมทั้งช่วงการสัมภาษณ์ที่หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความดุดัน และท่าที “พระเอกนาแก” แล้ว มีสาระและอะไรใหม่ให้จับต้องได้หรือไม่ก็น่าจะรู้ๆ กัน...๐

ที่น่าติดตามและ น่าสนใจคือ “ลุงมิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ จะอภิปรายในเรื่องเศรษฐกิจ เพราะถือเป็นคนที่มีฝีปากดี ที่สำคัญ “ลุงมิ่ง” ยังพูดได้แบบมีเนื้อสาระ จะเรียกว่า “ติเพื่อก่อ” ก็ไม่เกินไปนัก เช่นเดียวกับบรรดา ส.ส.จากซีกอนาคตใหม่ที่น่าสนใจในหลายราย หากไม่ยึดติดว่าเป็นตัวเอกที่ “ถูกต้อง” แต่ฝ่ายเดียว แล้วไม่อ้างเรื่องการ “กดขี่-ประชาธิปไตย” แบบพร่ำเพรื่อ ก็เชื่อว่าการอภิปรายจะมีเนื้อมีหนังให้น่าสนใจน่าจดจ้องหน้าจอกันเลยทีเดียว...๐

หันกลับมาที่เมืองกรุงกันบ้าง เพราะไม่ปกติอย่างยิ่งที่ระดับรองผู้ว่าฯ ทั้ง “จักกพันธุ์ ผิวงาม” และ “ทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์” ไขก๊อกพ้นเก้าอี้แบบติดๆ กัน แม้ล่าสุด “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” พ่อเมืองกรุงเทพฯ จะแต่งตั้ง “ศักดิ์ชัย บุญมา” และ “พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์” มานั่งเก้าอี้ทดแทน แล้วก็ตามที แต่เชื่อว่าสังคมยังคงกังขาในสาเหตุการลาออกอย่างมาก เพราะก็รู้ๆ กันว่าในช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าก็จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กันแล้ว เรียกว่า อยู่กันไม่ถึง 6-8 เดือนเท่านั้น หากไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรก็น่าจะประคับประคองกันไปได้ แต่นี่กลับตัดช่องน้อยแต่พอตัว แสดงว่าต้อง “มีอะไรในกอไผ่” อย่างแน่นอน...๐

มีลาออก แต่อีกฝั่งก็มีแต่งตั้ง เมื่อ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย และ “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” หรือกำนันป้อ รมช.ปฏิบัติตามนโยบายพรรคลาออกจากปาร์ตี้ลิสต์พรรคภูมิใจไทย ก็ทำให้ “ส้มหล่น” มายังปาร์ตี้ลิสต์ลำดับถัดไปทั้ง “พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ” และ “นพ.มารุต มัสยวาณิช” ที่ได้ขยับขึ้นมาเป็นทั่นผู้แทนแล้วจ้า ส่วนรายชื่อในลำดับ 15 อย่าง “สวาป เผ่าประทาน” นั้นจะได้ขึ้นแท่นอีกคน แทนที่ “นาที รัชกิจประการ” หรือไม่นั้นก็ยังต้องลุ้นการอุทธรณ์ ว่าหวยจะออกอย่างไร...๐

พูดถึง “ภูมิใจหนู” ไม่เอ่ยถึง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมไม่ได้ เพราะต้องบอกว่ายามนี้ผลงานเข้าตาคนเมืองกรุงอย่างแท้จริง เพราะตั้งแต่เข้ากระทรวงแล้วประกาศว่ายุคนี้จะไม่มี “ค่าโง่” และล่าสุดประกาศที่จะทำให้ค่ารถไฟฟ้าราคาเดียวที่ 15-20 บาท รวมถึงการหั่นค่ารถเมล์ ขสมก.ที่ปรับขึ้น แต่คุณภาพไม่ปรับตาม เรียกเสียงปรบมือได้มากทีเดียว และ นี่อาจเป็นผลงานชิ้น “โบแดง” หากทำได้จริง แล้วที่สำคัญจะช่วยกลบและช่วยยื้อเรื่องให้แต่ละบ้านปลูกกัญชาได้ 6 ต้น ที่ดูเค้ารางเลือนเข้าไปทุกทีได้...๐

...ท.ศักดิ์