ทลายแก๊งลักรถ ส่งตามออเดอร์


เพิ่มเพื่อน    


    ตำรวจภาค 4 ปูพรมยึดรถผิดกฎหมาย 20 คันมูลค่ากว่า 10 ล้าน มีทั้งที่ถูกโจรกรรม ยักยอกแล้วปลอมแปลงเอกสารส่งขายราคาถูก ด้านตำรวจบุรีรัมย์จับแก๊งลักรถรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 4 คน มีผู้หญิงร่วม เลือกตามใบสั่ง อีซูซุ ดีแมคซ์ เกียร์ธรรมดา ส่งขายเขมรคันละ 5 หมื่น สารภาพเดินสายหากินตั้งแต่พัทยา สมุทรปราการ จนถึงอีสาน
    ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.ขอนแก่น วันที่ 22 กรกฎาคมนี้ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 แถลงข่าวผลการตรวจยึดรถยนต์ผิดกฎหมาย รวม 20 คัน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (ศปจร.) ภ.4 ตรวจยึดมาได้ ประกอบด้วย รถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ สีเทา หมายเลขทะเบียน ษอ 1548 กรุงเทพฯ, รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน ณร 3160 กรุงเทพฯ, รถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน 3 กฉ 9113 กรุงเทพฯ และรถยนต์ที่ถูกสวมทะเบียน อีก 17 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 5263 ยโสธร, รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎฉ 8567 กรุงเทพฯ, รถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน งค 8967 กรุงเทพฯ, รถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีเทา หมายเลขทะเบียน กฉ 3524 ขอนแก่น, รถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กส 4630 กรุงเทพฯ, รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กง 3391 กรุงเทพฯ, รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน วฐ 6969 กรุงเทพฯ, รถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน ณร 3650 กรุงเทพฯ
     รถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 2 กฆ 2758 กรุงเทพฯ, รถเก๋งนิสสัน เทียน่า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆษ 9485 กรุงเทพฯ, รถเก๋งมาสด้า 2 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ฎง 3458 กรุงเทพฯ, รถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 116i สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กจ 133 กรุงเทพฯ, รถเก๋งโตโยต้า อเวนซ่า สีเทา หมายเลขทะเบียน 4 กท 3185 กรุงเทพฯ, รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒต 1331 กรุงเทพฯ, รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒน 5886 กรุงเทพฯ, รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กง 2495 บุรีรัมย์ และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ตจ 2213 กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดมาได้จากพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน 
    พล.ต.ท.สุรชัยกล่าวว่า วันนี้ได้มีการส่งมอบรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม, ยักยอกทรัพย์และปลอมแปลงเอกสาร 20 คัน ให้กับเจ้าของที่แท้จริงทั้งหมด หลังจากเจ้าของตัวจริงนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า นอกจากเป็นรถที่คนร้ายโจรกรรมมาจากพื้นที่จังหวัดต่างๆ ก่อนนำมาดัดแปลงสภาพและจำหน่ายแล้ว ยังคงมีบางส่วนที่เป็นกลุ่มรถที่หลบหนีไฟแนนช์ นำมาดัดแปลงสภาพและจำหน่ายในราคาถูก จนมีคนหลงเชื่อซื้อรถไปใช้โดยไม่ตรวจสอบเอกสารใดๆ
    วันเดียวกัน ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.อ.รุทธพล เนาวรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวผลงานศูนย์ป้องกันปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ศปจร.ภจว.บุรีรัมย์) ทลายแก๊งลักรถกระบะรายใหญ่ ที่เน้นโจรกรรมรถยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ เกียร์ธรรมดา ตามคำสั่งของนายทุนประเทศเพื่อนบ้าน จับ 3 ผู้ต้องหา พร้อมรถกระบะ 3 คัน ได้แก่ นายสมพร หรือวุฒิ หิมชัน, น.ส.สุปรางทิพย์ หรือขวัญ ทรงโฉม และนายสันติ หรือมิก หวานเย็น ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และติดตามจับกุมที่เหลืออีก 1 คน คือนายภวินทร์ หรือบอย บุตรงาม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ค. ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการโจรกรรม แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์รถยนต์”
    สำหรับรถกระบะที่ยึดได้ ประกอบด้วย รถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ แค็บ สีเทา (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่) รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บ สีน้ำตาล (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่) และรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บ สีฟ้า ฝาประโปรงสีดำ บริเวณแค็บสีดำ (เปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่)
    โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. ตำรวจ สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะ จำนวน 3 คัน เนื่องจากรถยนต์ดังกล่าวมีพฤติกรรมขับรถหลบหนีด่านจุดกวดขันวินัยจราจร ที่หน้าตู้ยามเฉลิมพระเกียรติฯ โดยคนร้ายจอดรถแล้วพากันหลบหนีไป ก่อนที่ตำรวจจะติดตามคนร้ายได้ 4 คน ยังหลบหนีอีก 1 คน สอบสวนผู้ต้องหารับว่าเคยก่อเหตุลักรถกระบะในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี, อ.บางบ่อ จ.สมุทรปาการ และ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เพื่อขายให้นายทุนชาวกัมพูชา ในราคาคันละ 50,000 บาท
    พ.ต.อ.รุทธพลกล่าวว่า เมื่อคนร้ายลักรถมาได้แล้วก็จะนำรถไปจอดไว้ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แล้วบอกพิกัดตำแหน่งให้นายทุนชื่อเบิร์ด ชาวกัมพูชาทราบ จากนั้นจะมีคนมารับรถยนต์ไป
แล้วให้นายสมพรหัวหน้าแก๊งข้ามไปรับเงินที่กัมพูชาในราคาคันละ 5 หมื่นบาท หลังหักค่าใช้จ่ายในการทำงานแล้ว คนร้ายนำเงินที่ได้มาแบ่งคนละเท่าๆ กัน นำไปใช้จ่าย เที่ยว และซื้อยาเสพติด ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเครือข่ายที่เหลือ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"