นิกกี เฮลีย์ยกมือค้านร่างข้อมติยูเอ็นเมื่อวันจันทร์

สหรัฐใช้สิทธิวีโตร่างข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

ในการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม เพื่อโหวตข้อมติในเรื่องนี้ที่อียิปต์เป็นผู้เสนอ ซึ่งย้ำสถานะของนครเยรูซาเลมว่าจะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจา การตัดสินใจหรือการกระทำใดๆ ที่เปลี่ยนแปลงสถานะ ลักษณะหรือองค์ประกอบของประชากรแห่งนครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเลม ถือว่าไม่มีผลทางกฎหมาย เป็นโมฆะและจะต้องถูกยกเลิก

ข้อมตินี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง 14 ชาติ รวมถึงชาติพันธมิตรกับสหรัฐ ได้แก่ สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, อิตาลี, ญี่ปุ่น และยูเครน แต่นิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐประจำยูเอ็นใช้สิทธิวีโตข้อมตินี้ และกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ถือว่าเป็นการดูหมิ่นสหรัฐ ซึ่งสหรัฐจะไม่มีวันลืม และเป็นอีกครั้งที่สหประชาชาติทำในสิ่งเป็นอันตรายมากกว่าที่จะเป็นการดีต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลทวีตในทันทีว่า ความจริงชนะเรื่องโกหก ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์และนิกกี เฮลีย์ ส่วนริยาด มันซูร์ ทูตปาเลสไตน์ประจำยูเอ็นกล่าวว่าเป็นเรื่องน่าเสียใจที่มีเพียงชาติเดียวที่ตัดสินใจคัดค้านทั้งโลก.