22ก.ค.62-“เสมา 3” ฟิต เริ่มลุยงานเตรียม หารือ หน่วยงานการศึกษาเอกชนที่เกี่ยวข้อง พุ่งเป้าปัญหาวิกฤต รร.เอกชน ทะยอยปิดตัว เพื่อหาแนวทางแก้ไขด่วน ลั่นจะลงพื้นที่เห็นของจริง ไม่ได้ฟังแต่รายงาน
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า ตามที่นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มีคำสั่งแบ่งงานโดยในส่วนของตนนั้นได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ตนได้วางแนวทางการขับเคลื่อนงานในหน่วยงานต่างๆ ไว้แล้ว และในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ตนจะประชุมหารือกับสมาคมการศึกษาเอกชนและหน่วยงานการศึกษาเอกชนที่เกี่ยวข้องว่าสภาพปัญหาของโรงเรียนเอกชนขณะนี้คืออะไร และเรื่องใดที่จะเร่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อยกระดับการศึกษาเอกชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยตนจะทำงานแบบเชิงรุกเน้นการบูรณการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ที่ผ่านมาทราบดีว่าโรงเรียนเอกชนกำลังประสบปัญหาวิกฤตโรงเรียนปิดตัวลงจำนวนมาก อีกทั้งประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดการศึกษาระดับชั้นอนุบาล 1 อายุ 3 ปี ทับซ้อนกับโรงเรียนเอกชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนจะวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด และวางแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป
นางกนกวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนมีแนวคิดอยากจะส่งเสริมเรื่องการใช้ภาษาของเด็กไทย โดยเฉพาะภาษาอาเซียนในจังหวัดที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะจากประสบการณ์ในการทำงานด้านการศึกษาของตนพบว่า มีแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเรียนรู้ภาษาไทยได้เก่ง ดังนั้นตนเตรียมที่จะนำร่องการส่งเสริมภาษาอาเซียนในโรงเรียนที่มีพื้นที่ติดกับชายแดน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มที่โรงเรียนในจังหวัดสุรินทร์ ก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เด็กไทยได้เรียนรู้ภาษาอาเซียนของประเทศเพื่อนบ้าง รวมทั้งตนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพการประอาชีพในอนาคตให้กับเด็กของเราได้ และตนจะหารือกับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศธ.เกี่ยวกับการปรับหลักสูตรอาชีวศึกษาใหม่ด้วย เนื่องจากได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการมาว่า เด็กอาชีวะยังขาดทักษะวิชาชีพไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
"อย่างไรก็ตาม ทุกคนทราบดีว่างานการศึกษามีเรื่องใดบ้างที่ยังต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ทั้งนี้ดิฉัน พร้อมรับฟังทุกความเห็น แต่ขณะเดียวกันก็จะลงพื้นที่เพื่อดูข้อเท็จจริงด้วยว่าประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากน้อยแค่ไหนด้วย"รมช.ศธ.กล่าว