20 ก.ค.62 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องเพื่อพิจาณาวินิจฉัยวามเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูฯมาตรา 170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 85((15)เพราะเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม และมาตรา 82 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2561 มาตรา 7(9) นั้น
กรณีนี้หากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยกคำร้อง เรื่องก็จะจบลงทันที พล.อ.เอกประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯต่อไป อย่างไรก็ตามหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ สิ่งที่จะตามมาก็คือจะส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที ซึ่งก็หมายถึงต้องพ้นสภาพจากการเป็นนายกฯ
จากนั้นที่ประชุมรัฐสภา ต้องโหวตเลือกนายกฯ กันใหม่ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถมีชื่อกลับมาให้ที่ประชุมโหวตเลือกได้อีก ทั้งนี้ถ้าสถานการณ์ไหลไปถึงจุดนั้น โดยช่วงดังกล่าวหากไม่มีการ ยุบสภา เกิดขึ้น พรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรค หากยังกุมสภาพกันได้อยู่ ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดเสียงแตกไปจับมือกับขั้วเพื่อไทย ก็ต้องมานั่งตกลงกันว่าจะหนุนใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยที่จะมีเสียง ส.ว. 250 คน คอยเป็นฐานหลักให้
ทั้งนี้ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรรคที่จะได้ลุ้นดังกล่าว ต้องมี ส.ส.อย่างน้อย 25 คนในสภาฯ และในบรรดาพรรคร่วม 19 พรรค มีเพียงสองพรรคคือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ที่ส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ ตอนเลือกตั้งคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |