ไม่ได้พูด! “ขุนคลัง” ลั่นพลังประชารัฐไม่เคยพูดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


เพิ่มเพื่อน    

ไม่ได้พูด! “ขุนคลัง” ลั่นพลังประชารัฐไม่เคยพูดลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% แจงยังไม่มีโอกาสชี้แจงว่าเป็นแค่การทบทวนโครงสร้างการจัดเก็บ หวังลดความเหลื่อมล้ำ ลั่นยึดวินัยการคลังเข้มข้น ประคองรายได้เข้ารัฐระยะยาว แจงมั่นใจแบงก์ชาติ คุมบาทแข็งอยู่ ระบุไม่มีการก้าวก่ายขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน

19 ก.ค.62 -  นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยถึงนโยบายการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ว่า นโยบายการปรับลดภาษีจะต้องมองในกรอบใหญ่ สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอไว้ไม่ได้พูดถึงลดภาษีโดยตรง แต่กำลังพูดว่าถึงเวลาที่น่าจะมาทบทวนโครงสร้างภาษีของประเทศ เพราะว่าจะมีความเหลื่อมล้ำอยู่ เช่น ภาษีเงินได้นิติบุคคล กับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มีอัตราจัดเก็บห่างกันพอสมควร ส่วนโครงสร้างการจัดเก็บภาษีเงินได้ การปรับเปลี่ยนอย่างไร ลดอะไรบ้าง จะต้องมาดูในรายละเอียด 

 อีกประเด็นคือ จะต้องดูด้วยว่าเรื่องการสร้างรายได้ เพิ่มรายได้ให้ประเทศจะทำอย่างไร ข้างหนึ่งถ้าแตะภาษีจะตอบโจทย์รายได้รัฐในระยะยาวอย่างไร สุดท้ายแล้ววินัยการเงินการคลังต้องไม่ถูกกระทบ เพราะฉะนั้นจะไม่พูดเรื่องว่าอยู่ดี ๆ ไปปรับลดภาษี บางทีเป็นข่าวออกไป เพราะยังไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายให้ตรงจุด 

 “จะต้องดูทั้งระบบ โจทย์คือการปรับโครงสร้างภาษี ต้องช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งอาจจะมีทั้งลดทั้งเพิ่ม และต้องสนับสนุนให้คนไทยมีความมั่งคั่งที่ยั่งยืนจากการประกอบอาชีพมากขึ้น ธุรกิจต้องไปได้ ประเทศจะได้ประโยชน์จากภาษีที่เพิ่มขึ้น” นายอุตตม กล่าว
 
 ทั้งนี้ ในเรื่องเศรษฐกิจนั้น กระทรวงการคลังจะเดินหน้าการสร้างความเข็มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ จากฐานราก ซึ่งแม้ว่าการส่งออกยังสำคัญ แต่โลกปัจจุบันถ้าประเทศไม่เข้มแข็งจากภายใน นอกประเทศยังผันผวน ก็จะไม่มีภูมิคุ้มกัน ไม่สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศเพื่อประชาชนได้เต็มที่ ดังนั้นจะมีมาตรการออกมาดูแลเรื่องของเศรษฐกิจหากมีผลกระทบจากข้างนอก ว่าจะดูแลกันอย่างไร ตั้งแต่ฐานรากขึ้นมาถึงทุกภาคส่วน
 นอกจากนี้ จะเน้นขับเคลื่อนในส่วนของนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนายกระดับประเทศไทยให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันก้าวทันโลก ตอนนี้เป็นโลกของเทคโนโลยี ภาคการเกษตรไม่เหมือนเดิมแล้ว ต้องใช้เทคโนโลยี การค้าขาย ภาคอุตสาหกรรม ชัดเจนเป็นโลกของเทคโนโลยี ภาคสังคม ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นกระทรวงการคลังจะดูแลในเรื่องงบประมาณ การสนับสนุนด้านการเงิน

 “กระทรวงการคลังจะดูแลสองเรื่องพร้อมกัน คือ การจัดสรรงบประมาณให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การยกระดับพัฒนาประเทศตั้งแต่ฐานรากขึ้นมาก และจะดูแลเรื่องวินัยการเงินการคลังต่อเนื่อง ไม่มีหย่อนยาน เพราะอย่างที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุไว้ว่านี่เป็นพื้นฐานของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ถ้าวินัยการเงินการคลังไม่เข้มแข็งก็ไม่มีแรงไปจัดงบประมาณขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ต้องมองระยะใกล้และระยะยาวว่าเราต้องมีเงินพอที่จะพัฒนาประเทศทุกส่วน ทุกพื้นที่ โดยสองเรื่องนี้ต้องไปด้วยกัน” นายอุตตม กล่าว 
 

อย่างไรก็ดี ในส่วนของค่าเงินบาทอย่างที่ทราบ มีปัจจัยที่กระทบอยู่ ทั้งด้านที่ทำให้บาทอ่อนและบาทแข็ง ซึ่งฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้พูดถึงว่าการที่ดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดต่างๆ ของไทยเข้มแข็ง ก็อาจเป็นเหตุผลทำให้บาทแข็งขึ้นมาบ้าง ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนการดูแลอย่างที่ทราบ กระทรวงการคลังเชื่อมั่นในธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการทำหน้าที่นี้ การดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งกระทรวงการคลังกับ ธปท.จะต้องมีการหารือร่วมกันในอนาคต แต่ไม่ได้หมายความว่า กระทรวงการคลังจะเข้าไปแทรกแซง หรือก้าวก่าย โดยเฉพาะเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ให้เป็นการตัดสินใจของ ธปท. ในส่วนของกระทรวงการคลังคงพูดไม่ได้


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"