นายกฯ ชวนคนไทยทำความดีปฏิบัติธรรมวันมาฆบูชา "สุวพันธุ์" เร่งขับเคลื่อนงาน พศ.เชิงรุก กวดขันพระนอกรีต อุดรูรั่วเงินทอนวัด สั่งสาขาวัดธรรมกายทั่วประเทศ ทำกิจกรรมให้รายงานยิบ ยันไม่เห็นภาพโปรยดอกดาวเรืองอีก โยนถามดีเอสไอหาตัว "ธัมมชโย"
    เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกิจกรรมวันมาฆบูชาว่า เนื่องในเทศกาลมาฆบูชาได้มีการจัดงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนามาตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. ถึงวันที่ 1 มี.ค. โดยมีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ และช่วงเย็นมีพิธีเวียนเทียน โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีเวียนเทียนที่พุทธมณฑล ขอเชิญชวนชาวไทยร่วมเวียนเทียนและเข้าวัดทำบุญตักบาตร เสริมสร้างทำความดี
    สำหรับงานด้านพุทธศาสนานั้น ได้หารือกับผู้อำนวยการ พศ. โดยมอบแนวทางให้แล้วว่า ต้องให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.)ทั่วประเทศ ทำงานเชิงรุก คือการเข้าไปติดตามช่วยเหลือและสนับสนุน ดูแลกิจการของวัดและคณะสงฆ์ในต่างจังหวัดอย่างรวดเร็วทั่วถึง และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ขอให้แก้ไขตั้งแต่ต้นทาง เป็นการให้จังหวัดทำงานเชิงรุกมากขึ้น นอกจากนี้ให้ พศ.ไปหารือกับคณะสงฆ์ที่มีคณะกรรมการดำเนินการรับผิดชอบตามแผนปฏิรูปประเทศ 6 ด้าน ได้นำเรื่องนี้ไปดำเนินการอย่างใกล้ชิดต่อไป เช่น ด้านการปกครอง สมบัติของวัด การศึกษาและเผยแผ่ และต้องเดินหน้าต่อในเรื่องการปฏิรูป
    นายสุวพันธุ์กล่าวถึงการแก้ปัญหาพระนอกรีต เช่น หนีมาบวช เสพยาเสพติด เสพเมถุน ว่าคณะสงฆ์ไม่ได้นิ่งดูดายในเรื่องดังกล่าว และไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียเช่นนี้ขึ้น ส่วนที่ไม่ดีมีอยู่ ก็ต้องยอมรับในข้อเท็จจริง ต้องเป็นเรื่องของพระสังฆาธิการของคณะสงฆ์ ไม่ว่าเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล อำเภอ จังหวัด ที่จะต้องช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น แก้ปัญหารวดเร็วขึ้น มีระบบของการตรวจสอบ ไม่ว่าจะบวชใหม่หรือบวชอยู่เดิม มีระบบการทำบัตรประจำตัวพระสงฆ์ แบบสมาร์ทการ์ด แทนใบสุทธิ แทนบัตรประจำตัวเพื่อดูแลใกล้ชิดให้มากขึ้น 
    อย่างไรก็ตาม มีหลายเรื่องที่คณะสงฆ์ทำแล้วดี และ พศ.สนับสนุน คือโครงการนำร่องการปรับระบบบัญชีทรัพย์สิน และการใช้จ่ายของวัดที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติให้วัด 16 แห่งต้องจัดทำบัญชี อย่างละเอียดตามมาตรฐานของ พศ. และการตรวจสอบเรื่องตัวชี้วัดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ต้องทำเพื่อประเมินผล ถือเป็นผลการปฏิบัติงานของ พศ. ที่ต้องรายงานประจำปีให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบด้วย และหากปีแรก 16 แห่งนี้ประเมินแล้วประสบความสำเร็จ ปีต่อไปต้องขยายผลในวัดอื่นๆ อีก
    นายสุวพันธุ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย และการติดตามหาตัวพระธัมมชโยว่า พศ.รายงานมาให้ทราบแล้วว่าได้ประสานงานกับ พศจ.ทั่วประเทศที่มีวัดสาขาของวัดพระธรรมกายตั้งอยู่ และหากมีการจัดงาน ทางวัดจะรายงานเจ้าคณะจังหวัดให้ทราบ และประสานงานกับผู้อำนวย พศจ.ในจังหวัดนั้นๆ ว่ามีการจัดกิจกรรมอย่างไร ดังนั้นเราจะไม่เห็นภาพที่เดินโปรยดอกไม้ริมถนนอีกแล้ว โดยทางวัดจะแจ้งให้ทราบว่าจะทำกิจกรรมใดบ้าง เช่น นั่งรถบัสเข้าไปแล้วทำกิจกรรมในพื้นที่เฉพาะ โดยสิ่งที่ทำจะไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย สังคมและประชาชนไม่เดือดร้อน ส่วนการติดตามหาตัวพระธัมมชโยนั้น ขอให้สอบถามจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทำงานร่วมกันอยู่กับ พศ.
    ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญชวนพุทธศาสนิกชนนำหลักธรรม “โอวาทปาติโมกข์” ไปปฏิบัติเนื่องในวันมาฆบูชา ได้แก่ หลักการ 3 คือ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ผ่องใส อุดมการณ์ 4 คือ ความอดทน อดกลั้น ความไม่เบียดเบียน ความสงบ และนิพพาน และวิธีการ 6 คือ ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้าย เคารพกฎกติกา รู้จักความพอดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และฝึกทำจิตใจให้สงบ
    “นายกฯ ยังแนะนำให้ทุกคนใช้ช่วงเวลาสำคัญนี้ไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรม เจริญจิตภาวนา เวียนเทียนร่วมกับครอบครัว และร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อสืบสานพระศาสนา พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าการส่งเสริมให้คนไทยทำความดีตามแบบไทยนิยม ก็สอดคล้องกับหลักธรรมทางศาสนาด้วย” พล.ท.สรรเสริญกล่าว และว่า พล.อ.ประยุทธ์ใช้วันหยุดทบทวนการทำงาน และวางแผนงานเตรียมลงพื้นที่ จ.สมุทรสาครและเพชรบุรี รวมทั้งตั้งจิตอธิษฐานภาวนาให้บ้านเมืองก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างราบรื่น ประชาชนอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน
    ที่วัดปทุมวนารามฯ นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำคณะทูตานุทูตประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ 8 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย ภูฏาน กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา เมียนมา และลาว ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ และเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2561 
    นายพงศ์ศักติฐ์กล่าวว่า กรมการศาสนา (ศน.) ได้ร่วมกับ มส. และ 20 กระทรวง เป็นเจ้าภาพจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยวันมาฆบูชาจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตร และเวียนเทียน โดยเชิญทูตานุทูตจากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาเข้าร่วมกิจกรรม  
    นายเหงียน ฮ๋าย บัง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนและภริยารู้สึกปลาบปลื้มใจที่ร่วมกิจกรรมทางพุทธศาสนาในวันมาฆบูชาที่วัดปทุมวนารามฯ ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวไทย ประเทศเวียดนามเป็นเมืองพุทธศาสนาเช่นกัน แต่ต่างนิกาย เวียดนามเป็นมหายาน แต่ได้น้อมนำหลักคำสอนตามพุทธศาสนามาใช้ในชีวิตช่วยพัฒนาตัวเองและทำให้บ้านเมืองมีสันติสุข กิจกรรมครั้งนี้ยังเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศด้วย.