19 ก.ค.2562 นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในครึ่งแรกของปี 2562 ว่า ตลาดโดยรวมสำหรับผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยยังมีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ชะลอตัว ขณะที่ตลาดผู้ซื้อเพื่อการลงทุนโดยมากจะอยู่ในกลุ่มตลาดคอนโดมิเนียม มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีปัจจัยจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ทำให้การซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนลดลง นอกจากนี้ยังส่งผลให้ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อ เพราะไม่มั่นใจว่าจะขอสินเชื่อได้หรือไม่
สำหรับการแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่าจะยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งระบายสต๊อกที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จ และที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องระมัดระวังการลงทุนใหม่ โดยเน้นตลาดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่จริงเป็นตลาดหลัก และพยายามรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ไม่ให้สูงเกินไป รวมถึงรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ขณะที่ผู้บริโภคจำเป็นจะต้องวางแผนทางการเงินในการซื้อบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการขอสินเชื่อกับธนาคาร
“ปัจจัยบวกที่จะมากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะมาจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ซัพพลายคอนโดเข้าสู่ตลาดน้อยลงเพราะมีหลายบริษัทปรับกลยุทธ์ชะลอการเปิดโครงการ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดปรับสู่สมดุลมากยิ่งขึ้น และจะช่วยผ่อนคลายให้ราคาที่ดินไม่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา ในส่วนของการเปิดอีอีซีของรัฐบาลใหม่น่าจะผลักดันต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงชดเชยยอดส่งออกและท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เพื่อดึงความเชื่อมั่นในการลงทุน ให้กลับคืนมาโดยเร็ว”นายไชยยันต์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 3,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% ของเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5,300 ล้านบาท เป้าหมายรายได้ 4,650 ล้านบาท เติบโต 15% ส่วนแผนเป้าหมายในการพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้บริษัทตั้งพัฒนา 8-10 โครการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท ในกทำเลรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว และแหล่งงานสำคัญ ปัจจุบับริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอนอยู่ที่ 900 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้กับรายได้ของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |