19 ก.ค.62-แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แจ้งว่า ภายหลังจากรัฐมนตรีแต่ละคนเริ่มเข้าปฏิบัติ หน้าที่แต่ละกระทรวงเกือบครบหมดแล้ว ทำให้ต่อจากนี้จะต้องมีการการจัดสรรตำแหน่ง เก้าอี้ทางการเมืองให้กับพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 19พรรค

โดยมีรายงานว่าเมื่อช่วงสายวันพฤหัสบดีที่18 ก.ค.ที่ผ่านมา   แกนนำรัฐบาลคนหนึ่งที่ มีบทบาทสูงในการจัดตั้งรัฐบาล ได้เปิดเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งเพื่อให้ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล19พรรค โดยเฉพาะพรรคขนาดกลางและเล็ก ส่งรายชื่อบุคคลที่แต่ละพรรค จะเสนอรายชื่อไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อให้ครม.อนุมัติใน3ตำแหน่งหลักคือ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี  ที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี-รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เพื่อให้แกนนำรัฐบาลคนดังกล่าวทำโผก่อนส่งชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณา

 แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันพฤหัสบดีบรรดาแกนนำแต่ละพรรคการเมืองในบรรดาพรรค ได้ให้คนนำเอกสารรายชื่อส่งไปยังแกนนำรัฐบาลคนดังกล่าวแล้ว  เช่น กลุ่ม 10 พรรคเล็กได้ส่งชื่อ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ไปให้ โดยพบว่า กลุ่ม10พรรคดังกล่าว ที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้อง เก้าอี้รัฐมนตรี2ตำแหน่ง แต่สุดท้ายไม่ได้ ตอนนี้กลุ่ม10พรรคได้ส่งชื่อคนของพรรค ตัวเองที่จะให้ไปเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ไปให้ แกนนำรัฐบาลคนดังกล่าวอีกรอบ หลังก่อน หน้านี้ เคยส่งผ่าน ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ไปแล้วรอบหนึ่ง โดยทุกพรรค ส่งกันหมดทั้ง 10 พรรค จนทำให้เกิดปัญหาในการจัดสรร โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี เพราะบางพรรคเสนอรายชื่อซ้ำกระทรวงกัน

“และล่าสุด 10 พรรคเล็กเสนอรายชื่อบุคคลพรรคละหนึ่งคนจึงเกิดปัญหา เพราะหนึ่งพรรคจะขอโควตาหนึ่งเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรี เช่น บางพรรคขอดูแลกระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงพลังงาน  กระทรวงอุตสาหกรรม แต่กระทรวงเหล่านี้พรรคใหญ่ๆเช่น ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย  มีคนของตัวเองเป็นรัฐมนตรีอยู่แล้ว และต้องการส่งบุคคลในพรรคมาทำหน้าที่นี้ไว้แล้ว  จึงทำให้เกิดปัญหาไม่ลงตัว โดยกลุ่มพรรคเล็กมี3พรรคขอโอกาสส่งคนของพรรคตัวเองไปเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เช่นพรรคของพล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรคประชานิยม  พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ จาก พรรคพลังชาติไทย   ส่วนนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ขอโควตา กระทรวงมหาดไทย    พรรคครูไทย ขอไปดูแลกระทรวงศึกษาธิการ  เป็นต้น “

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พรรคไทยศรีวิไลย์ ของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ก็เสนอชื่อคนในพรรคไปเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง  ทำให้เมื่อ แกนนำรัฐบาลคนนี้อ่านรายชื่อเหล่านี้ได้บ่นว่า แบบนี้คงไม่ยุติ จึงขอเวลาไปหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะกฎหมายระบุว่ารายชื่อผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้นขึ้นกับสำนักนายก รัฐมนตรี  นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาลจะเป็นผู้นำรายชื่อเหล่านี้เข้าที่ประชุมครม. เพื่อให้ความเห็นชอบ  ฉะนั้นห้วงเวลาเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่จะเสนอชื่อบุคคลเหล่านี้ต่อ ที่ประชุมครม.นั้นน่าจะต้องเลื่อนไปก่อน และรอหารือนายกรัฐมนตรีให้ลงตัวด้วย   โดยคิดว่าน่าจะพิจารณารายชื่อดังกล่าวในช่วงหลังการอภิปรายนโยบายรัฐบาลจบลง”แหล่งข่าวระบุ

 แหล่งข่าวกล่าวว่า ส่วนประธานกมธ.ในสภาผู้แทนราษฎรนั้น พรรคพลังท้องถิ่นไทของ นายชัชวาลล์ คงอุดม ที่มีสามส.ส.จะได้เก้าอี้ประธานกมธ.สามัญหนึ่งคณะซึ่งเป็น โควต้าพรรคร่วมรัฐบาล และอาจได้ผู้ช่วยรัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่งเพราะพรรคนี้ไม่มีการ ต่อรองใดๆ และ ตอนนี้ต้องติดตามพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ของนายดำรง พิเดช ที่ มีส.ส.2คน ที่เคยขอเก้าอี้ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯที่พรรคชาติไทยพัฒนาดูแล แต่พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยไม่ได้รับโอกาสนี้และเคยขู่จะถอนตัว จากการร่วมรัฐบาล ตอนนี้กำลังเจรจาว่าจะได้เก้าอี้ ประธานกมธ.สภาฯ หรือไม่

อนึ่ง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. 2546  ระบุขั้นตอนการตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นสมควรแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิใดเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ เห็นควรมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงใด ให้เสนอรายชื่อพร้อมด้วย ประวัติต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบหากเห็นว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้าม ให้รายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป โดยตำแหน่งดังกล่าวต้องไม่ใช่คนที่เป็นส.ส. ถึงจะมานั่งได้