เดี๋ยวเจอกัน!

                นักการเมืองที่ชอบชักน้ำเข้าลึก...ชักศึกเข้าบ้าน

                "ศรีสุวรรณ จรรยา" ส่งสัญญาณไปถึง "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"

                "ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต (ปอ.๑๑๙)"

                และ "ศรีสุวรรณ" บอกว่า "จะนำความไปร้องต่ออัยการสูงสุดเพื่อส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย"

                "ธนาธร" ไปชักศึกเข้าบ้านจริงหรือ?

                เพราะฝั่งที่พยายามทำตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างใคร พวกเฒ่าโซเชียลอีแอบมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี และฝั่งส้มหวาน ยืนกรานว่า ไม่ได้ขายชาติ ไม่ได้ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ได้ด่าประเทศตัวเอง

                แค่ไปพูดถึงข้อเท็จจริง ที่ประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น

                แล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่                    

                ถ้าจะอ้างข้อมูลจากแหล่งอื่น คงจะเถียงกันไม่จบ

                เอาชัดๆ จากเพจเฟซบุ๊กพรรคอนาคตใหม่ ที่ทำหน้าที่รายงาน "ธนาธรออนทัวร์" แบบนี้จะได้ไม่ต้องเถียงกัน

                เพจพรรคอนาคตใหม่รายงานว่า

                "...การเดินทางเยือนกรุงบรัสเซลส์ครั้งนี้ นายธนาธรและคณะได้พบกับ นายอลัน สมิธ สมาชิกรัฐสภายุโรป และหนึ่งในคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศของรัฐสภายุโรป หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กับสมิธ ได้พูดคุยกันถึงผลการเลือกตั้งในไทยและรายงานความผิดปกติเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง

                โดยสมาชิกรัฐสภายุโรปยืนยันว่า สหภาพยุโรปจะนำเรื่องความชอบธรรมและเสถียรภาพของรัฐบาลไทยหลังเลือกตั้ง รวมถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนมาพิจารณา ก่อนที่จะเดินหน้าเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างอียูกับไทย ซึ่งหยุดชะงักมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร ๒๕๕๗

                นอกจากนี้ ยังได้พบกับ ลอทเทอร์ ลิชท์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำยุโรป

                ลิทช์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในไทยหลังเลือกตั้งว่า สิ่งสำคัญที่รัฐสภายุโรปต้องตระหนักก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยไม่ใช่การกลับคืนสู่ประชาธิปไตย และไม่สามารถยอมรับได้ ประชาธิปไตยจะมีความหมายได้อย่างไร ถ้าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน รวมถึงสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง และสิทธิในการชุมนุม ไม่ได้รับการปกป้อง"

                สรุปง่ายๆ ทางสมาชิกรัฐสภาอียูนายหนึ่ง บอกว่าจะนำเรื่องความชอบธรรมของรัฐบาลลุงตู่ไม่เป็นประชาธิปไตย เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย เป็นเงื่อนไขในการเจรจา FTA ไทย-อียู

                แล้วตัว "ธนาธร" พูดอะไร?

                จากการให้สัมภาษณ์ VOA ภาคภาษาไทย ที่วอชิงตัน "ธนาธร" พูดว่า

                "ที่นิวยอร์กได้พบกับมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน พบกับนิวยอร์กไทม์ พบกับบรรณาธิการที่ดูเรื่องข่าวต่างประเทศ เขาสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เรานั่งพูดคุยเรื่องสถานการณ์การเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย"

                "เรานิยามประเทศไทยตอนนี้ว่าระบอบ คสช.ที่มีการเลือกตั้งน่าจะเหมาะสมที่สุด นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตยแน่ๆ ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยแน่ๆ"

                ที่จริงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ "ธนาธร" สามารถพูดถึงประเทศตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นมุมดี มุมเลวร้าย

                ขณะเดียวกัน หากมองในมุมที่ "ศรีสุวรรณ" มอง มันก็เป็นปัญหาเช่นกัน

                "ธนาธร" ไปตะโกนด่าประเทศไทยให้ฝรั่งฟังว่าไม่เป็นประชาธิปไตย มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน 

                เกิดอียูบ้าจี้เอาคำพูดของ "ธนาธร" เป็นข้ออ้างยังไม่เจรจา FTA กับไทย จนกว่ารัฐบาลลุงตู่จะพ้นหน้าที่ไป

                คนเสียหายไม่ใช่ลุงตู่ แต่เป็นประเทศไทย 

                ฉะนั้นชักน้ำเข้าลึก...ชักศึกเข้าบ้าน หรือไม่แล้วแต่จะคิด.