18 ก.ค.62-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2562 เวลา 08.57 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาถึงกระทรวงฯ โดยถือฤกษ์เวลา 09.09 น. ทำพิธีสักการะ “พระพุทธคมนาคมบพิธ” พระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม จากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. ได้พบปะผู้บริหารระดับสูง สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม และหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคารสโมสร และในเวลา 10.30 น. พบปะสื่อมวลชน ณ ห้องราชดำเนิน
นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมในยุคของตนเองนั้น จะไม่มีเรื่องค่าโง่อย่างเด็ดขาด ในส่วนของนโยบายกระทรวงคมนาคมที่จะดำเนินการ และการแบ่งงานของรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านนั้น ขอให้รอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างเป็นทางการก่อน โดยภายหลังการแถลงนโยบายแล้วนั้น จะกำหนดนโยบายอย่างเร็วที่สุด และจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนนโยบายการผลักดัน Grab ให้ถูกกฎหมาย ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยนั้น ยืนยันว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดแรก เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.ได้บรรจุนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดไว้แล้ว นอกจากนี้ เมื่อถามว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือไม่นั้น นานศักดิ์สยาม กล่าวว่า ท่านนายกฯให้ดูแลครอบคลุมทุกด้าน และดูแลความเดือดร้อนของประชาชนในการเข้ามาทำงาน
“การทำงานร่วมกันของ 3 พรรค จะไม่มีปัญหา เพราะเคยทำงานร่วมกันมาแล้ว และที่สำคัญทั้งสามรัฐมนตรีเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันเดียวกัน จึงมองการทำงานจะสามารถสานต่อโครงการลงทุนให้เดินหน้าได้ ส่วนประเด็นการทำงานของรัฐมนตรีคนเก่าได้สร้างผลงานไว้ไม่หนักใจ เพราะส่วนตัวมีหน้ามี่จะต้องทำงานให้ดีขึ้นไปอีก ยืนยันจะไม่พบปัญหาซ้ำรอย ค่าโง่จะต้องไม่มีในคณะนัฐมนตรีของกระทรวงคมนาคมชุดนี้” นายศักดิ์สยาม กล่าว
ขณะที่ นายถาวร กล่าวว่า จะยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ จะร่วมกันทำงานอย่างมุ่งมั่น และสื่อสารผ่านสื่อมวลชน ซึ่งถือเป็นกระบอกเสียง เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่ามีนโยบายใดบ้างที่จะดำเนินการ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ด้าน นายอธิรัฐ กล่าวยืนยันว่า รัฐมนตรี 3 คนสามารถทำงานร่วมกันได้ แม้มาจากต่างพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาส่งนายอธิรัฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (ลูกชาย) เข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงคมนาคมเป็นวันแรก พร้อมเชื่อมั่นว่าจะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายสมัย และรับข้าราชการมานาน รวมถึงก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาข้อมูล รวมถึงโครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมมาไว้บ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนไม่เป็นห่วง หรือกังวลการทำงานของนายอธิรัฐ เนื่องจาก มีทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถ มาคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่แล้ว
นโยบายคมนาคม ภท.-พปชร.-ปชป.
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สำหรับนโยบายด้านคมนาคม หากจำแนกตามพรรคการเมืองที่รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมสังกัดอยู่นั้น โดยพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีนโยบายคมนาคม กล่าวคือ พรรคภูมิใจไทยได้มีแนวคิดแบบดิจิทัลเข้ามาแก้ปัญหาด้านคมนาคม ทั้งระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งนโยบายหลักในการหาเสียงช่วงก่อนการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น คือ การแก้กฎหมาย เพื่อผลักดันให้ Grab ถูกกฎหมาย หวังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับคนกรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ เดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร รวมถึงนโยบายการทำงานและเรียนออนไลน์ที่บ้าน 1 วัน เพื่อลดความแออัดบนท้องถนน โดยจะส่งเสริมให้ใช้กับทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนด้วย
ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอนโยบายด้านคมนาคม โดยจะต่อยอดทุกโครงการที่รัฐบาลได้ดำเนินการไว้แล้วให้เป็นรูปธรรม เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อหารายได้จากระบบรถไฟฟ้า โครงการรถไฟทางคู่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเสนอให้มี Bangkok Card หรือบัตรใบเดียวที่สามารใช้ได้ครอบคลุมในการเดินทางขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งยังเชื่อมการขนส่งด้วยระบบ Feeder ด้วย เพื่อส่งเสริมให้คนใช้ขนส่งสาธารณะให้ได้มากที่สุด ในส่วนของการแก้ปัญหาการจราจรนั้น เตรียมนำเอาระบบ AI เข้ามาช่วยให้จัดการจราจรบนถนน เพื่อให้เราสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชั่น
ฟากพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายด้านคมนาคม คือ การเสนอลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าที่รัฐบาลลงทุนเอง 100% เป็น 15 บาทตลอดสาย พร้อมทั้งขยายรถไฟทางคู่ไปยังจังหวัดที่ยังไม่มีเส้นทางรถไฟ ครอบคลุมระยะทาง 3,000 – 5,600 กิโลเมตร ภายใน 10 ปี อีกทั้งจะเดินหน้าก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ เส้นทางจากเหนือจรดใต้ตามแผนแม่บท 2 สาย นอกจากนี้ จะจัดหารถเมล์ไฟฟ้า 5,000 คัน และปรับสายรถเมล์ให้สอดคล้องกับเส้นทางรถไฟฟ้า เพื่อให้มีขนส่งสาธารณะรองรับการเดินทางอย่างต่อเนื่อง ลดการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคล และพลังงานเชื้อเพลิง รวมถึงนำเสนอนโยบายคาร์พูล ทางเดียวกันไปด้วยกัน ที่นอกจากช่วยลดปริมาณรถยนต์แล้ว ยังช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่น
รายชื่อหน่วยงานในสังกัด
สำหรับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้นแบ่งเป็น ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.), กรมทางหลวงชนบท (ทช.), กรมการขนส่งทางบก (ขบ.), กรมเจ้าท่า (จท.), กรมท่าอากาศยาน (ทย.), สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ขณะที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.), การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.), การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.), องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.), บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.), บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด (บทม.), บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.), บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.), บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (รทส.), บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์ เอเชีย จำกัด (ทอส.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |