18 ก.ค.62 - นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทยว่า พันธมิตรระหว่างสหรัฐและไทยนั้นยังคงเหนียวแน่นแข็งแรง และเรายังคงสนับสนุนให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้รวมถึงการที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ พันธมิตรของเราจะเจริญขึ้นและแข็งแรงขึ้นเมื่อเราร่วมงานกันเพื่อความสำเร็จของทั้งสองประเทศเช่น ความมั่นคง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในย่านอินโดแปซิกฟิกตลอดจนถึงประชาคมโลก

นายภัทร กล่าวว่า ในเรื่องนี้คนที่ผมจะให้เครดิตคงไม่ใช่ลุงตู่เพียงคนเดียวหรอกครับ แต่คนที่ควรได้เครดิตไปเต็มๆ คือ รมต.ดอน ปรมัตถ์วินัย และทีมงานของกระทรวงต่างประเทศ ซึงท่านดอนนั้นไม่ใช่คนทำงานแบบไก่กาเลย ท่านทำงานหนักมากและทำให้ประเทศชาติอยู่รอดในสังคมโลกมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแซงชั่น การขึ้นบัญชีดำ การแขวนสิทธิประโยชน์ที่พึงมีของประเทศในช่วงต้นของยุค คสช.นั้นก็ได้ทีมงานของกระทรวงนี้แหละครับที่ช่วยกันทำงานจนภาพพจน์ของประเทศไทยที่คนทั้งโลกมองเห็นนั้นเป็นไปในแนวที่ดีอย่างที่เห็นทุกวันนี้

"ผมอดที่จะพูดถึงคนบางคนที่เวลานี้ออกเดินสายพูดให้ร้ายประเทศไทยเสียหาย ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่เคยคุยเรื่องดีต่อชาติเลย ออกไปยืนถ่ายภาพตามป้ายต่างๆ รวมถึงหน้าสำนักข่าวต่างๆ ทั้งที่สำนักข่าวนั้นย้ายออกไปที่ใหม่แล้ว ไปตามสำนักข่าวทั้งที่สำนักข่าวไม่ให้ความสำคัญ ส่งคนมาสัมภาษณ์ก็ไม่ได้ออกคลิปในเว็บข่าวแต่อย่างไร ไปขอพบนักการเมืองโนเนมคนหนึ่งของอียูโดยที่ในสภานั้นที่มี สส.อยู่เจ็ดร้อยกว่าคน เพราะทั้ง สส. สำนักข่าว นักการเมือง ทุกคนในต่างประเทศนั้นจะถามว่าคนนี้คือใคร มีตำแหน่งอะไรถึงต้องไปพบเขา และทุกคนที่ไปพบนั้นก็ไม่โง่ที่จะรู้ว่าคนนี้โดนสั่งพักงาน และยังมีคดีอยู่ในศาลที่พร้อมจะโดนถอดถอนตำแหน่งในเวลาอันใกล้นี้ และอาจจะโดนยุบพรรคเอาง่ายๆจากคดีเงินสนับสนุนและคดีอื่นๆ อีกหลายคดี"

นักวิชาการอิสระรายนี้ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากเปรียบเทียบสองเรื่องนี้แล้ว คนไทยคงจะเห็นครับ อะไรคือกลุ่มคนทำงานที่ประสบความสำเร็จ อะไรเป็นได้แต่กลุ่มคนแสดงปาหี่งูเห่ากัดกับพังพอน ขายยาโง่ๆตามงานวัด