ต้องบอกว่า “ลงทุนลงแรง” เสียเปล่าซะแล้ว สำหรับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ที่ลงทุนหอบหิ้ว “น้องช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคข้ามน้ำข้ามทะเลไปเดินสายต่างประเทศ ทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ซึ่ง แม้เป็นข่าววันสองวันแบบกระแสไม่ขึ้นแล้ว ยังถูก “หอก-ดาบ” ทิ่มแทงสารพัดสารพัน โดยมีการเปรียบเทียบถึงการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 กันเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็นานาจิตตังขึ้นอยู่กับใครจะเชียร์ใคร ...๐
ที่แน่ๆ ยิ่งกว่าแช่แป้งและทำให้ “พ่อฟ้าและน้องช่อ” เสียรังวัดอย่างปฏิเสธไม่ได้ และเรียกว่า “กลบข่าว” การทัวร์นอกของทั้งคู่แบบไม่เหลือชิ้นดีคือ สารจาก “ไมค์ ปอมเปโอ” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐที่แสดงความยินดีกับรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ...๐
เนื้อหาของ “ปอมเปโอ” ที่สื่อออกมา แม้ไม่ยาว อาทิ “สหรัฐอเมริกาตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของไทย เพื่อกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างประเทศของเราทั้งสอง อันจะทำให้มิตรภาพกว่าสองร้อยปีระหว่างประชาชนของเราเจริญงอกงามต่อไป” ซึ่งเรียกว่า “ตบหน้า” ส้มหวานแบบไม่มีชิ้นดี ที่พยายามสร้างภาพว่ารัฐบาลใหม่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ดูเหมือนรัฐบาล “โดนัลด์ ทรัมป์” และเชื่อว่าอีกไม่นานรัฐบาลนานาชาติก็จะออกสารและแถลงการณ์ในท่วงทำนองเดียวกัน ทำให้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศที่คนหน้าเหลี่ยมเคยหยิบใช้ และคนที่คิดว่าตัวเองเป็น “อนาคตใหม่” นำมาปัดฝุ่นใช้ ต้องเป็นหมันกันเลยทีเดียว ...๐
แปลกแต่จริง! การเมืองไทยไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผ่านการเลือกตั้งมาก็แล้ว ตั้งคณะรัฐมนตรีก็แล้ว แต่ “7 พรรคฝ่ายค้าน” กลับมาจัดเสวนาใหญ่ในวันที่ 21 ก.ค. ในหัวข้อ “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ” คำถามคือ ตอนนี้ส่วนใดที่ถึงขนาดต้องใช้คำว่า “วิกฤติ” หรือเพราะยังไม่ “ลืมแค้น” การหลุดเป็น “ฝ่ายค้าน” กันแน่ ทั้งที่ควรเดินหน้าตรวจสอบการทำงานรัฐบาล ตั้งรัฐบาลเงา หรือเสนอปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องปากท้องที่ 7 พรรคฝ่ายค้าน “ตีฆ้องร้องป่าว” มาตั้งแต่การหาเสียง แต่กลับยังหมกมุ่นเรื่อง “สืบทอดอำนาจ” หรือ “ชำเรารัฐธรรมนูญ” กันอยู่ ทั้งที่ไปถามชาวบ้านร้านถิ่นดูเถิดว่าเขาสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญกันบ้างหรือไม่ และเขารู้หรือไม่ว่าปัจจุบันมันกี่มาตรา และอะไรบ้าง แหม! แค่ฝ่ายค้านเริ่มตั้งไข่ได้แค่นี้ ก็เรียกว่างานนี้รัฐบาลคงมีแต่ยิ้มกริ่มกันอย่างเดียวหากไม่เกิดสนิมจากเนื้อใน ...๐
วิกฤติยามนี้ที่เห็นชัดๆ จะจะตาคือ กำลังซื้อภายในประเทศที่ไม่ใช่เรื่องตกหรือไม่ตก แต่ไม่จับจ่ายใช้สอย เนื่องจาก “ราคา” ที่สูงลิบลิ่ว ซึ่งก็เข้าใจได้ว่ามาจาก “ต้นทุน” ที่พุ่งกระฉูดแบบคุมไม่อยู่ในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะ “ค่าแรง” และหากมีการขยับไปเป็น 400 บาทตามที่ขายฝันกัน ก็ไม่รู้ว่ากำลังซื้อจะหดหายไปไหนอีก งานนี้คงต้องลุ้น “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ที่นั่งคุมกระทรวงแรงงาน รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ภายใต้การดูแลของ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” และ “อุตตม สาวนายน” ขุนคลัง ซึ่งแม้จะมาจาก 3 พรรค แต่หากอยากให้ “รัฐนาวา” ได้ผลงานชิ้นโบแดงก็ต้องเร่งบูรณาการแก้ไขปัญหาโดยด่วน ...๐
พูดถึง “อุตตม” ไม่พูดถึงการจะเป็นเป้าโจมตีหลักในการแถลงนโยบายก็ไม่ได้ ขำไม่ออกจริงๆ เพราะ “อุตตม” ก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในการบริหารประเทศ ครั้งดำรง ตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรมในยุครัฐบาลประยุทธ์ 1 กลับไม่เคยถูกโจมตีในเรื่องคุณสมบัติ อาจอ้างว่าเป็นยุค “รัฏฐาธิปัตย์” แต่มันก็ต้องเรียกว่าสีข้างเข้าถูจริงๆ หากจะดึงดันถล่ม แล้วที่อยากหัวเราะดังๆ คือ การกล่าวหาและ ลากโยง “อุตตม” ให้เข้าดงน้ำครำก็ยิ่งสะท้อนว่านโยบายของ “นายใหญ่” รวมทั้ง “ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน” ที่มีส่วนพันพัวนั้นผิดจริงไม่ใช่การกลั่นแกล้งหรืออคติ ที่ใช้ฝ่ายตรงข้ามจ้องจัดการเหมือนที่ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองในรอบ 10-15 ปีที่ผ่านมา ...๐
ขุนคลังคนใหม่ก็ไม่รู้ว่านอกจากต้องเป็นหลักแก้ไขปัญหาปากท้องแล้ว ก็ควรมาดูภาพใหญ่อย่าง “ค่าเงินบาท” ที่แข็งค่าติดอันดับโลก รวมถึงเรื่องดอกเบี้ยด้วยก็น่าจะดี โดยเฉพาะส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก รวมถึงดอกเบี้ยบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดต่างๆ ซึ่งดูเหมือน “วิรไท สันติประภพ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะไม่ค่อยให้ความใส่ใจมากเท่าที่ควร เพราะหากดูเรตดอกเบี้ย บัตรเครดิตตอนนี้ คิดดอกเบี้ย 18% บัตรกดเงินสดที่ 28% เมื่อเทียบกับเงินกู้นอกระบบแล้วเรียกว่าไม่ต่างกันแต่ประการใดเลย รัฐบาลประยุทธ์ 1 เคยปราบนายทุนเงินกู้โหด แล้วเงินกู้ในระบบแบบนี้เรียกว่าโหดหรือไม่จ๊ะ ก็อยากให้ “ขุนคลัง” คนใหม่ลองพินิจพิจารณาดูด้วย ...๐
...ท.ศักดิ์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |