17 ก.ค.62 - นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกี่ยวกับโครงการปรับปรุงเพนียดคล้องช้าง งบประมาณปี 2560 จำนวน 36 ล้านบาท ส่อทุจริตและยังปรากฏว่ามีการตัดหัวเสาตะลุงจำนวน 225 ต้น ขัดต่อโบราณกาลเป็นการลบลู่บรรพชนขุนศึกที่เคยกู้บ้านกู้เมืองมา ตนไปรับเรื่องจากชาวบ้านที่เพนียดคล้องช้างและสำรวจผลงานของกรมศิลปากรปรากฏว่าเป็นที่น่าสลดหดหู่หัวใจชาวไทยยิ่งนัก หัวเสาตะลุงด้านนอกเพนียดที่เคยเห็นตั้งแต่ปู่ย่าตายายสมัยทวดว่าเป็นทรงบัวตูมมาบัดนี้ถูกกรมศิลปากรตัดทิ้งหมด ในสมัยรัฐบาลคสช. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ชาวอยุธยาคัดค้านอย่างไร กรมศิลปากรก็ไม่เคยฟัง ทำไมราชการจึงไปสร้างความขัดแย้งกับชาวบ้านในท้องถิ่น

"ถ้าพลเอกประยุทธ์รู้ ท่านคงห้ามไม่ให้ตัดแน่ๆ เพราะเป็นคนรักประวัติศาสตร์ ตามโบราณราชประเพณี นอกจากเรื่องนี้ยังปรากฎว่ามีการส่อทุจริตนำไม้มาปะรอบเสาเพื่อปิดบังเนื้อไม้ผุ เสาที่ปลวกกิน และตบตาด้วยการทาสีทับ ประตูโตงเตงสำหรับให้ช้างเข้าก็เล็กเกินขนาด ลูกช้างก็ยังลอดเข้าไปไม่ได้ แต่มีการใช้งบประมาณมากถึง 36 ล้านบาท และงบกระจุกที่จังหวัดนี้ปีเดียวถึง 300 ล้านบาท จึงอยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการสอบการทุจริตและพิจารณาโยกย้ายนายอนันต์ ชูโชติ    อธิบดีกรมศิลปากรให้พ้นหน้าที่เป็นการชั่วคราว เพื่อการสอบสวนที่เป็นธรรม" นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 18 ก.ค. จะไปยื่นหนังสือถึงท่านนายกฯให้สอบการทุจริตเป็นเรื่องแรกของรัฐบาลใหม่ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.30 น. ซึ่งเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์คงยินดีที่ประชาชนมีความตื่นตัวร่วมตรวจสอบโครงการทุจริตต่างๆของทุกกระทรวง ทั้งนี้ ต้องการให้นายกมีความเด็ดขาดปราบทุจริต เพราะผู้รับเหมาตัดหัวเสาตะลุงถึง 225 ต้นจำนวนใกล้เคียงกับสมาชิกวุฒิสภาหรือใกล้เคียงกับเสียงที่ท่านมีสส.สนับสนุน หากท่านไม่บูรณะหัวเสาตะลุงให้เพนียดคล้องช้างดังเดิม อาจเกิดอาเพศกับการบริหารราชการแผ่นดินได้ ขอให้พล.อ.ประยุทธ์รีบไปดูกับตาแล้วสั่งกรมศิลปากรคืนหัวเสาตะลุงและทำพิธีขอขมาวิญญาณบรรพชนขุนศึกที่ล่วงลับไปแล้วเพื่อความเป็นสิริมงคลกับบ้านเมืองต่อไป