รถไฟไทยเกิดปัญหาอีกแล้ว ขบวนรถบรรทุกหินตกรางที่สถานีบางกล่ำ ส่งผลให้การเดินรถสายใต้ทั้งขึ้น-ล่องเป็นอัมพาต ต้องใช้เวลาทั้งวันกู้ เวลาไล่เลี่ยกัน ขบวนกรุงเทพฯ-ตรัง ก็แหกโค้งตกราง ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย แต่การเดินรถก็ชะงักงันเช่นกัน
    เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 1 มีนาคมนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟที่ 1552 ซึ่งเป็นขบวนรถไฟบรรทุกหินตกรางที่สถานีรถไฟบางกล่ำ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ในสภาพที่หัวรถจักรพุ่งตกจากรางและตะแคงข้าง รวมทั้งตู้โดยสารอีก 1 ตู้ ในขณะที่ตู้บรรทุกหินอีก 12 ตู้ยังอยู่บนรางไม่ได้รับความเสียหาย โดยจุดที่ตกรางอยู่ตรงประแจทางหลีกด้านใต้ของสถานีรถไฟบางกล่ำ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพนักงานประจำรถไฟปลอดภัย แต่ได้ทำให้ขบวนรถไฟสายที่มาจากกรุงเทพฯ ปลายทางสถานีรถไฟหาดใหญ่ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งขบวนรถที่จะออกจากหาดใหญ่ทุกขบวนต้องกลายเป็นอัมพาต เนื่องจากจุดที่รถไฟตกรางเป็นเส้นทางรถสายหลัก
โดยรถที่มาจากกรุงเทพฯ ต้องจอดที่สถานที่รถไฟควนเนียง และที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องจอดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ได้พยายามกู้ขบวนรถไฟที่ตกราง คาดว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ชั่วโมง และต้องปิดการเดินรถตลอดทั้งวัน
    มีรายงานต่อมาว่า เจ้าหน้าที่งานเดินรถแขวงหาดใหญ่ได้นำรถปั้นจั่นและรถเครนเข้าพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อยกหัวรถจักรที่ตกรางซึ่งมีน้ำหนักถึง 60 ตัน ขึ้นมาไว้บนรางและลากออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุให้แล้วเสร็จและสามารถเปิดทางได้ในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม
    นายสมาน รักษาวงศ์ สารวัตรงานเดินรถแขวงงานหาดใหญ่ เปิดเผยว่า อุบัติเหตุรถไฟตกรางที่ขึ้นขึ้นทำให้ปิดเส้นทางระหว่างสถานีบางกล่ำ-สถานีบ้านดินลานชั่วคราว โดยมีรถไฟขบวนขึ้นล่องกรุงเทพฯ ติดค้างอยู่ที่สถานีรถไฟควนเนียง 2 ขบวน คือ รถเร็วกับรถสปรินเตอร์ และที่สถานีหาดใหญ่ 2 ขบวน คือ ขบวน 32 กับ 38 โดยขบวนรถขึ้นกรุงเทพฯ ทุกขบวนคาดว่าจะสามารถปล่อยรถได้หลังจากเปิดทางในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม
    ขณะเดียวกัน เวลา 09.45 น. เจ้าหน้าที่การรถไฟตรังได้รับแจ้งเหตุรถไฟตกรางบริเวณบ้านวังแตระ หมู่ที่ 7 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง หลังออกจากสถานีรถไฟห้วยยอด เส้นทางทุ่งสง-ตรัง ก่อนถึงสถานีปลายทางตรังประมาณ 10 กิโลเมตร หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พบขบวนรถด่วนที่ 83 เส้นทางกรุงเทพฯ-ตรัง มีผู้โดยสารจำนวน 14 โบกี้ เกิดล้อพลาดตกราง เป็นโบกี้สุดท้าย ตู้ที่ 14 เป็นชั้นปรับอากาศนั่งและนอน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานีปลายทางสถานีตรัง เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่ารถไฟได้พลาดตกรางบริเวณถนนทางโค้งเลยป้อมยามรถไฟบ้านน้ำปลายมาประมาณ 1 กม. ที่กำลังมีการสร้างอุโมงค์ซึ่งเป็นบริเวณที่ประสบอุบัติภัยน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา
    ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น มูลค่าความเสียหายประมาณ 40,000-50,000 บาท จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ จากพื้นที่ตรัง และสถานีทุ่งสงประมาณ 100 คน เพื่อมาช่วยกันกู้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการกู้ตั้งแต่เวลา 10.00 น.จนถึง 14.00 น. ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ยังกู้ไม่สำเร็จ เนื่องจากบริเวณที่รถไฟตกราง ยังมีร่องรอยการทรุดตัวอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ระดมเครื่องไม้เครื่องมือมาเพิ่มเติมคาดว่าจะให้เสร็จทันในวันเดียวกัน
    นายชัยรัตน์ ดวนสูงวิศวะ เจ้าหน้าที่กำกับการเขตบำรุงทางทุ่งสง เปิดเผยว่า รถไฟขบวนดังกล่าวได้มาจากกรุงเทพฯ ปลายทางตรัง-กันตัง ระหว่างทางได้เกิดอุบัติเหตุขณะที่รถเข้าเทโค้งบริเวณบ้านวังแตระก่อนถึงสถานีตรัง ส่งผลให้รางรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย หลังจากนี้จะมีการเร่งกู้โบกี้ที่ล้อพลาดตกราง และเบื้องต้นได้รายงานแจ้งยังผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว 
    ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งปิดเส้นทางเดินรถสายใต้ หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก (ชั่วคราว) เนื่องจากขบวนรถพิเศษหินที่ 1552 ตกรางที่สถานีบางกล่ำ สาเหตุขบวนรถตกรางอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดจะเปิดทางเดินรถได้ในเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถคืนตั๋วโดยสารได้เต็มราคา
    นอกจากนี้ การรถไฟฯ ก็ได้แจ้งปิดเส้นทางเดินรถสายใต้ระหว่างสถานีชุมทางทุ่งสง-กันตัง (ชั่วคราว) เนื่องจากขบวนรถตกราง โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 09.00 น. ได้เกิดเหตุรถไฟขบวนด่วนที่ 83 (กรุงเทพฯ-ตรัง) ตกรางขณะทำขบวนถึงกิโลเมตรที่ 816/4-5 ระหว่างสถานีห้วยยอด-ตรัง พื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง เป็นเหตุให้ตู้โบกี้นอนปรับอากาศตกรางแคร่หน้า 2 เพลา 4 ล้อ กีดขวางการเดินรถ ซึ่งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบให้ขบวนรถเร็วที่ 167 (กรุงเทพฯ-กันตัง) ที่ทำขบวนออกจากรุงเทพฯ เมื่อเย็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เดินรถได้ถึงสถานีชุมทางทุ่งสง และการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำการขนถ่ายผู้โดยสารโดยรถยนต์ไปยังสถานีปลายทางแล้ว
    ส่วนสาเหตุขบวนรถตกรางอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่บำรุงทางตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็ว เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดทางเดินรถได้ในเวลา 16.00 น.