มทภ.4ฟุ้งคดีมั่นคงลด35%


เพิ่มเพื่อน    


    แม่ทัพภาค 4 เชื่อดับไฟใต้มาถูกทาง  คดีมั่นคงลดกว่า 35% ควบคู่ใช้โมเดล "CAMP 35" แก้ปัญหายาเสพติด ผบ.ทร.สั่งเพิ่มมาตรการด้านการข่าว-สร้างความไว้ใจคนในพื้นที่ คุมเข้มช่วงวันเข้าพรรษา
    ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อม พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการ ศปก.ตร.สน. แถลงสรุปผลการปฏิบัติด้านความมั่นคงและยาเสพติดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ไตรมาส 3 (เม.ย-มิ.ย. 62) โดยมีเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว
     พล.ท.พรศักดิ์กล่าวว่า การปฏิบัติงานด้านความมั่นคงและยาเสพติดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4  อำเภอของจังหวัดสงขลา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ร่วมกับ ศปก.ตร.สน. และตำรวจภูธรภาค 9 ดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนด้านการควบคุมพื้นที่ ควบคู่กับการแก้ไขปัญหายาเสพติดด้วยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนมีส่วนร่วม บูรณาการการทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งกำลังประจำถิ่นและภาคประชาชนมาช่วยดูแลหมู่บ้านชุมชน ใช้ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ และชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน รวม 775 ชุดปฏิบัติการ เข้าปฏิบัติงานในหมู่บ้านร่วมกับผู้นำ 4 เสาหลัก ทั้งคณะกรรมการหมู่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัย เพื่อกดดันจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่ให้ใช้หมู่บ้านเป็นแหล่งพักพิง ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจและช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยและความเชื่อมั่นศรัทธาในรัฐที่เข้มแข็ง ทำให้สถิติเหตุการณ์ในคดีความมั่นคงลดลงจากปี 61 กว่าร้อยละ 35.18 
    "ถือว่าสถานการณ์ในภาพรวมมีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้ CAMP 35 เป็นโมเดลในการบำบัดทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และชุมชนบำบัด พบว่าร้อยละ 70  สามารถเลิกขาดจากยาเสพติดได้ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี โดยจะนำโมเดล CAMP 35 ไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆให้ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดต่อไป เชื่อว่ามาถูกทางแล้ว" แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
    ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าวว่า คดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเทียบกับปี 2561 พบว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ไตรมาสที่ 3 มีคดีความมั่นคงเพียง 115 คดี คดียาเสพติดสามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 4,709 คดี ผู้ต้องหา 5,256 คน สามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 56,930,565 บาท ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ดำเนินงานตามนโยบายอย่างเด็ดขาดเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม
     พล.ร.ท.กาญจน์ ดีอุบล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือ ขณะปฏิบัติหน้าที่ ริมถนนสายบ้านทอน-บาเจาะ ช่วงบริเวณบ้านดูกู หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ทหารพรานนาวิกโยธินที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถยนต์ลาดตระเวนได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ประกอบด้วย พันจ่าเอกเชิดชัย อินต๊ะวิกุด, อาสาสมัครทหารพรานธีระวัฒน์ ศรีสุข และอาสาสมัครทหารพรานวิทยา อักขชาติ เมื่อวันที่่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 นายถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะ ทั้งหมดอาการปลอดภัยแล้ว
    โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า เส้นทางที่ถูกลอบวางระเบิดในครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่พระสงฆ์และพี่น้องประชาชนในพื้นที่สัญจรไปมาอยู่เป็นประจำ ดังนั้นเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข รวมทั้งเตรียมความสงบเรียบร้อยก่อนวันพระใหญ่ ในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา กองทัพเรือจึงได้จัดกำลังทำการลาดตระเวนและคุ้มครองเส้นทางดังกล่าว โดยกำลังพลของกองทัพเรือทุกนายจะยังคงมุ่งมั่นทุ่มเทในการปฏิบัติภารกิจ เพื่อให้ความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นฝ่ายใด  
    "พล.ร.อ.เอกลือชัย รุดดิษฐ์  ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความห่วงใยและกำชับกำลังพลให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท เพิ่มมาตรการด้านการข่าวและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งมอบนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่แก่กำลังพลทุกนายที่ว่า ทหารเรือต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจ เชื่อมใจ และมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีอันตราย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ ให้สมกับคุณค่าที่ส่งมอบให้กับสังคม เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ” พล.ร.ท.กาญจน์ระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"