1 มี.ค. 61 - ที่โรงแรมเอเซีย พรรคพลังธรรมใหม่นำโดยนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล นำสมาชิกพรรค และว่าที่ผู้สมัครอาทิ นายอาทร พาทีพัฒนะ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังธรรม,นายอรุณ สุธาฎา ที่ปรึกษาคณะกรรมการภาคใต้, นายเจิดจ้า น้อยศิริ ผู้สมัครส.ส.แพร่,นายสามนต์ สังข์ทองนายทะเบียนพรรคและสมาชิกสัมพันธ์, ว่าที่ร้อยตรี วันชัย วรรณสว่าง ว่าที่ผอ.พรรค,นายสุทิน ช่วยธานี อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคพลังธรรมจ.ตรัง,นายวีรพจน์ ลือประสิทธิ์สกุล อดีตผู้สมัครส.ส.สัดส่วนพรรคพลังธรรม,นายอุทัยมหาวงศ์ อดีตฝ่ายการเมืองพรรคมหาชน,นายสมบูรณ์ ทองบุรานอดีตส.ส.พรรคพลังธรรม,นายสมบัติ เบญจศิริมงคล อดีตกรรมการพรรคพลังธรรม แถลงข่าวเปิดตัวพรรคพลังธรรมใหม่
นายแพทย์ระวี กล่าวว่า พรรคพลังธรรมเดิมได้ถูกยุบมาประมาณ 10 กว่าปีแล้ว แต่เพราะสั่งคมไทยเกิดวิกฤติรอบด้านก่อให้เกิดการขัดแย้งแตกแยกคอร์รัปชันโกงกิน ทุกรัฐบาลประเทศตกต่ำ จนหลายประเทศในอาเซียนด้วยกันแซงหน้าประเทศไทยไป จากวิกฤตินี้ จึงก่อให้เกิดพรรคพลังธรรมใหม่ขึ้น เพื่อนำประเทศไทยให้หลุดพ้นจากวิกฤติทั่วด้าน โดยเจตนารมณ์ที่สำคัญที่สุดของพรรค คือ การสืบทอดเจตนารมณ์ของความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใสของพรรคพลังธรรมเดิมเป็นแนวทางหลักของพรรค พรรคจะสร้างระบบที่เข้มแข็ง ตามหลัก "ระบบดีทำให้ผีกลายเป็นคน ระบบไม่ดีทำให้คนดีๆ กลายเป็นผี”
นายแพทย์ระวี กล่าวต่อว่าแนวทางของพรรคพลังธรรมใหม่ที่ตั้งไว้หลัก ๆ 4 ข้อคือ 1.พรรคจะนำสังคมไทยสู่สังคมธรรมาธิปไตย ที่มีระบบประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบตะวันตก สู่การค้าเสรีที่เป็นธรรม ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่ปลาทุกตัวต้องอยู่ร่วมกันได้ในสระน้ำเดียวกัน พรรคจะสร้างสังคมที่เป็นธรรม ลดการเลื่อมล้ำ 2.สมาชิกพรรพลังธรรมใหม่ไม่จำเป็นที่จะต้องเป้นคนดีพร้อมทุกอย่าง แต่พรรคต้องการคนที่ตังใจจะมาทำความดีทุกอย่างตามรอยพ่อ 3.สมาชิกพรรคจะมาจากหลากหลายทุกวัน ทุกอาชีพ ทุกชนชั้น ทุกศาสนา และ4.พรรคจะเป็นแกนกลางในการผยึกกำลังของประชาชนกลุ่มหรือองค์กรที่มีอุดมการณ์ใกล้เดคียงกันมาร่วมผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว
นายแพทย์ระวี กล่าวต่อว่าพรรคพลังธรรมใหม่จะมีการตรวจสอบกันเองของพรรคอย่างเข้มแข็ง โดยพรรคจะมีคณะธรรมาภิบาลของพรรคจะทำหน้าที่ตรวจสอบสมาชิกของพรรคทันที ที่เกิดปัญหาการทุจริต โดยหลังการตรวจสอบเสร็จจะส่งผลการตัดสินเบื้องต้นมาให้กรรมการบริหารพรรคถือว่าเป็นศาลตัดสินภายใน ไม่ต้องรอตั้งกรรมการเป็นเดือนๆ ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ผิดก็จะคืนตำแหน่งให้ ถ้าตัดสินว่าผิดหน้าที่กรรมการบริหารพรรคคือสั่งปลด
ผู้สื่อข่าวถามถึงบุคคลที่จะถูกวางเป็นแคนดิเดทเป็นนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ระวี กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งทางพรรค ก็จะมีบุคคลที่จะเป็นแคนดิเดทจำนวน 3คน โดยมีชื่อของหัวหน้าพรรคเป็น 1 ในนั้น แต่ในขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะมีการเลือกตั้ง จึงขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อแคนดิเดทนายกฯในวันนี้
เมื่อถามว่า ถ้านายกรัฐมนตรีเป็นคนนอก อย่างพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคพลังธรรมใหม่จะสนับสนุนหรือไม่ นายแพทย์ระวี กล่าวว่า พรรคจะเลือกคนดี มีคุณธรรม มีความสามารถขึ้นเป็นนายกฯ ถ้าพรรคได้คะแนนเสียงเกิน 25 คะแนนพรรคก็จะเสนอชื่อบุคคลของพรรคเพื่อชิงตำแหน่งนายกฯตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าสามารถทำได้ แต่ถ้าพรรคได้คำแนนเสียงต่ำกว่า 25 คะแนน เราก็ไม่สามารถเสนอชื่อได้ เราก็จะเลือกคนที่ดีที่สุด ถ้าภายในไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ต้องเลือกคนนอก ซึ่งทางพรรคพลังธรรมใหม่ไม่ปฎิเสธพลเอกประยุทธ์
ถามถึงพลตรีจำลอง ศรีเมือง อดีตหัวหน้าพรรคพลังธรรมเก่า นายแพทย์ระวี กล่าวว่า ได้คุยกันเมื่อวาน ท่านตัดสินใจ รักษาสัจจะวาจาที่มีประกาศเอาไว้แล้ว ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง และพรรคพลังธรรมใหม่อย่างแน่นอนเนื่องจากอายุมากแล้วประสิทธิภาพเริ่มลดลง โดยท่านได้มอบหมายให้พลังธรรมรุ่น 2 เป็นผู้ดำเนินการพรรคต่อไป
เมื่อถามถึงเงินทุนที่นำมาก่อตั้งพรรคการเมืองว่ามาจากที่ใด นายแพทย์ระวี กล่าวว่า เมื่อมีประชาชน เมื่อมีคนเงินก็มา พรรคพลังธรรมใหม่นั่นทุกจังหวัดต้องพึ่งตัวเอง ส่วนกลางไม่มีเงินสักบาทเดียว บรรดาผู้ที่จะมาสมัครทางพรรคบอกแล้วว่าต้องพึ่งตัวเอง พรรคไม่มีเงินให้ ซึ่งก็แจ้งไว้ตั้งแต่ขั้นตอนสมัครแล้ว ถ้ารับได้ก็เข้ามาทำงานร่วมกัน และเมื่อใกล้การเลือกตั้งพรรคจะระดมเงินจากทุกๆฝ่าย ถ้าได้มาก็แบ่งเฉลี่ยเท่ากันทุก ๆ เขต ซึ่งพรรคจะส่งผู้สมัครทั้ง 350 เขตทั่วประเทศแน่นอน ทั้งนี้ทางพรรคพลังธรรมใหม่จะเดินทางไปยัง กกต.ศูนย์ราชการ เพื่อยื่นขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองในวันพรุ่งนี้08.30 น.
วันเดียวกัน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ อดีตผู้ชำนาญการประจำสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่าในวันที่ 2 มีนาคมนี้ กลุ่มไทยศรีวิไลย์จะเดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อจดทะเบียนเป็นพรรคการเมือง ตามที่ กกต.ให้ดำเนินการจดทะเบียนพรรคการเมืองสำหรับพรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ โดยจะเดินทางไปถึงสำนักงาน กกต.ในเวลา 07.30 น.
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่ากลุ่มไทยศรีวิไลย์มีผมเป็นหัวหน้ากลุ่ม และนายณัชพล สุขพัฒนะ (มาร์ค พิทบูล) เป็นรองหัวหน้ากลุ่มไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยคณะผู้ก่อตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยจะสานต่องานจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในส่วนที่สำเร็จและจะเพิ่มเติมเรื่องปราบคนโกง ติดตามทรัพย์สินที่อดีตนักการเมืองเก่า ข้าราชการ พ่อค้า ที่โกงไป เพื่อมาใช้หนี้สาธารณะเดิม และที่เหลือพัฒนาประเทศไทยทุกด้านต่อไป
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ริเริ่มก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า ในวันที่ 2 มี.ค. จะมี 3 ตัวแทนของพรรคประชาชนปฏิรูป ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเข้าคิวยื่นเอกสารตามที่กกต.กำหนด เพื่อขอจองชื่อจดตั้งพรรคการเมืองใหม่
นายไพบูลย์ กล่าวว่าจากนั้นต้นสัปดาห์ถัดไป พรรครประชาชนปฏิรูป จะดำเนินการตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 โดยส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือขออนุญาตคสช. เพื่อประชุมพรรคการเมือง สำหรับจัดทำข้อบังคับพรรคการเมือง และคัดเลือกแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ตามกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ตอนนี้พรรคประชาชนปฏิรูปพร้อมลงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะก่อนหรือหลัง เดือนก.พ. 62 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ประกาศไว้
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการมูลนิธิกปปส. จะตั้งพรรคใหม่ แล้วทำให้แย่งคะแนนกันหรือไม่ เนื่องจากสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกันนั้น นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง สุดท้ายขึ้นกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 50 ล้านคน จะเป็นผู้ตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันศุกร์ที่ 2 มี.ค. เป็นต้นไป จะเป็นวันแรกของการยื่นคำขอแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงได้เผยแพร่ขั้นตอนการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองมานำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเพื่อให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจหรือผู้ที่มีเจตจำนงในการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองได้เข้าใจมากขึ้น ดังนี้ 1.บุคคลจำนวนไม่น้อยกว่า 15 คน ยื่นคำขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง 2. นายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารหลักฐานคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวมถึงชื่อ ชื่อย่อ และภาพเครื่องหมายพรรคการเมือง
3.หากถูกต้องนายทะเบียนพรรคการเมืองจะออกหนังสือรับแจ้ง แต่ในกรณีที่ไม่ถูกต้อง นายทะเบียนพรรคการเมืองจะให้เวลาผู้ยื่นขอแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดหากแก้ไขได้ถูกต้องนายทะเบียนพรรคการเมืองจะออกหนังสือรับแจ้งและหากไม่แก้ไขตามเวลาที่กำหนดคำขอนั้นถือว่าสิ้นผล
4. เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองออกหนังสือรับแจ้งแล้ว ผู้เตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองจะต้องดำเนินการ ดังนี้ หาผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 500 คน , ประชุมผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมือง ไม่น้อยกว่า 250 คน , รวบรวมเงิน/ทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ต้องดำเนินการภายใน 180 วัน และ5. หากดำเนินการครบถ้วนจะสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 180 วัน แต่หากดำเนินการไม่ครบถ้วน คำขอนั้นถือว่าสิ้นผล.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |