อดีตเคยโด่งดังเป็นระดับต้นๆของวงการบันเทิงไทยเลยทีเดียว แต่จู่ๆ บุ๋ม-ตรีรัก รักการดี ก็ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดเจัาตัวมาเผยถึงเหตุผลที่ยอมทิ้งชีวิตในวงการทั้งๆที่กำลังโด่งดัง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
"พี่ไม่เข้าใจทำไมบุ๋ม ตรีรัก เข็ดความรักถึงไม่ยอมมีแฟน เป็นคำถามที่ถามมาตลอด 20 ปี คือ ณ วันนั้นพี่อยากเป็นโสด พี่มีแฟนมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นพี่ประมาณ 32 ปี ถึงจุดอิ่มตัวว่าทำไมแฟนคนนี้เขาดีนะ เรารักกัน ยังไงก็ยืนยัน ณ วันนั้นเรารักกัน แต่ผู้หญิงคนนึงคิดว่าทำไมคนข้างๆ เราช่วยเหลืออะไรเราไม่ได้เลย เป็นช้างเท้าหลัง พี่เป็นช้างเท้าหน้า แล้วพี่โคตรแมนเลย ก็ฉันเก่งกว่า ฉันเป็นคนชอบเทคแคร์ดูแลแฟน หางานให้ เสร็จแล้วอยากอยู่ด้วยกัน เราก็ซื้อบ้าน เพราะเรามีรายได้มากกว่า แล้วคนก็เม้าท์อีกว่าเขาเป็น เขาไม่แมน ทำไมถึงเลือกเขา ก็รักอะ มีอะไรป่าว
ตอนแรกเราเป็นเพื่อน เล่นละครด้วยกัน เรารู้แล้วว่าเขาเป็น พี่เป็นผู้หญิงยุคใหม่มากในยุคนั้น เขาถึงอึ้งกับ บุ๋ม ตรีรัก มากว่าทำไมกล้าคบเกย์เป็นแฟน แต่พี่ก็มองว่าทำไมหรอเกย์ก็ผู้ชายคนหนึ่ง เราก็เลยถามเขาตรงๆ ว่าชอบฉันใช่ไหม มาเป็นแฟนฉันไหม เรื่องแต่งงานนี่ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับใคร หมอดูบอกว่าดวงพี่แต่งแล้วก็หย่า ไม่มีลูก ตอนเด็กๆไม่เชื่อ แต่ลึกๆเราก็ทดสอบมาบ่อย แล้วก็รู้จักนิสัยตัวเอง เป็นคนที่มั่นใจเกินไป ไม่ชอบให้ใครมาคอนโทรล พี่ชอบเป็นผู้นำ
พี่บอกเลิกเขาแบบสุภาพว่าเราจะไปเรียนต่อนะ แต่ถ้าต่างคนต่างเจอคนใหม่ก็เข้าใจกันนะ แล้วเราก็ไป แต่ตอนนั้นเขายังอยู่บ้านเราอยู่ ฉะนั้นเราก็รอว่าเมื่อไหร่เขาเจอคนที่ใช่เขาจะได้ย้ายออกไป จนกระทั่ง 3 ปี เขาเห็นว่าพี่ไม่กลับเขาเลยบอกว่าตกลงเธอไม่กลับใช่ไหม แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาเจอคนใหม่แล้ว แต่ดูเหมือนดี พี่โทรไปเช็กตามแบงค์ที่เคยผ่อนหนี้ด้วยกัน แล้วบ้านเราก็ค้ำให้เขาซื้อรถ เราเอะใจเลยโทรไปเช็กว่าทุกอย่างเขาเคลียร์เรียบร้อยหรือยัง เขาก็เลยบอกว่าบ้านกำลังจะถูกยึดแล้วนะ เพราะขาดการผ่อนส่ง 6 เดือนแล้ว คือเขาคงลำบาก เราก็รู้ฐานะเขาอยู่ ก็เลยติดต่อทางครอบครัวเขา เขาก็เคลียร์ ทุกวันนี้ให้เจอกันพี่เจอได้ เพราะเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว จบเถอะ ไหนๆ ครั้งหนึ่งเราก็เคยรักกันมาก่อน
ที่พุ่งตรงไปที่ LA ไปเรียนตัดขนสุนัขอยู่ที่นู่น เพราะที่นั่นอากาศดี มีอาหารไทย แต่ภาษาไม่ได้เลย ก่อนไปพี่เรียนแล้ว 6 เดือน ไปนู่นกลางวันเรียนภาษา 9 โมงเช้าถึงบ่ายสาม 6 เดือนแรกเรียนอย่างเดียว ซื้อรถเลย งานไม่ทำ เงินฮวบเลย คือเรามีเงินเก็บของเราอยู่แล้ว แล้วใช้ไปทุกวัน เรารู้สึกว่าไม่ได้แล้วเลยโทรกลับเมืองไทยให้รุ่นน้องช่วยหาคนรู้จักหน่อย ว่ามีร้านอาหารไทยตรงไหนบ้าง พี่ไปสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟ พี่ไปร้านเครื่องเทศ พี่อยู่กับเขาถึง 4 ปี เด็กเสิร์ฟเป็นอาชีพเดียวที่เราสามารถทำตอนกลางคืนได้ แล้วพี่อยู่เทคแคร์ตรงหน้าบาร์ คือดูแล พวกไวน์-เบียร์ พี่ต้องยกลังเอง วันละ 20 กว่าลัง พี่ทำงานอาทิตย์ละ 3-4 วัน กล้ามนี่เป็นมัดๆเลย ไม่ลำบากนะ ยกเว้นตอนเสิร์ฟตอนแรกๆจะถูกคนดูถูก ก็เขาบอกว่า คุณบุ๋มยังสวยอยู่เลย ทำไมไม่กลับไปเล่นหนัง เล่นละคร มาทนลำบากทำไม แต่เราเห็นหน้าตาเขาแล้ว นี่มันกัดกู ไม่เป็นไร แต่ในใจอยากเอาถ่านปา
อนาคตอายุ 60 เนี่ยพี่ตั้งเป้าไว้ว่าจะกลับมาเมืองไทย ปีนี้พี่กลับมาเมืองไทย มาเปิดบริษัทเล็กๆทำเกี่ยวกับบิวตี้ เฮลตี้ ช่วง 2-3 ปีนี้พี่จะอยู่เมืองไทยนานหน่อย 60 มาจะได้มีปัญญาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ส่วนอายุ 70 ปีก็คือกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว ความฝันของพี่ ที่ถาม 60-70-80 คือฉันต้องสวย ฉันต้องเป๊ะแบบนี้ให้ได้ แต่เรื่องที่บอกว่าหลายคนรอพี่เล่นละคร มันยากอะ เท่าที่พี่ได้ยินข่าวมาคือระเบียบวินัยไม่ค่อยมีกัน เวลานัดกันแล้วเลทกันมาก จากที่ได้ยินข่าว แล้วพี่แก่แล้วให้พี่ไปนั่งรอเด็ก พี่ไม่รอ"
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม trerakka
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |