โจรใต้ดักวางระเบิดทหารพรานนาวิกโยธินเจ็บ 4 นาย รถยนต์เสียหาย 1 คัน ขณะไปรับทหารพรานหญิงไปช่วยงานบุญบริเวณถนนสายบาเจาะ-บ้านทอน สตช.แต่งตั้งรอง สว.-ผบ.หมู่ 13,973 รายเสร็จเรียบร้อยแล้ว 3 จว.ชายแดนใต้แห่ย้ายกลับภูมิลำเนา 765 นาย ฟุ้งจัดวางบุคคลเหมาะสมกับหน้าที่ไม่มีใครโดนเตะ
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ร.ต.อ.วิโรจน์ บุญแข รองสารวัตรสอบสวน สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ทพ.นย.ทร. ที่บริเวณถนนสายบาเจาะ-บ้านทอน หมู่ที่ 2 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส จึงประสานไปยังผู้บังคับบัญชาและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.บาเจาะ, นาวาโทภานุ อุ่นญาติ เสนาธิการกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 50 เซนติเมตร มีเศษสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณกลางถนน ซึ่งเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สหุงต้มปิกนิก น้ำหนักประมาณ 30 กก.วางไว้ใต้กอหญ้าที่รกทึบข้างทางหน้าบ้านชาวบ้าน จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือจำนวน 3 คันขับผ่านมา มุ่งหน้าเดินทางไปยังค่ายจุฬาภรณ์ เพื่อรับทหารพรานหญิงไปร่วมงานบุญยังพื้นที่อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดระเบิดทันทีเสียงดังไปทั่วบริเวณ สิ้นเสียงระเบิดพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย ประกอบด้วย 1.อส.ทพ.ธีระวัฒน์ ศรีสุข มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก 2.พ.จ.อ.เชิดชัย อินต๊ะวิกุด มีอาการหูอื้อ 3.อส.ทพ.วิทยา อักขชาติ มีอาการหูอื้อ 4.อส.ทพ.จักรพันธ์ พลขับ และรถกระบะแบบหุ้มเกราะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บต 1161 นราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าบริเวณข้างขวาจนเป็นรูพรุน แต่โชคดีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นรถหุ้มเกราะจึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
สอบสวนได้ความว่า เหตุเกิดขณะเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินนราธิวาสจัดกำลังพล จำนวน 1 ชุด เดินทางด้วยรถยนต์ 6 ล้อ จำนวน 1 คัน และรถกระบะหุ้มเกราะ จำนวน 1 คัน เดินทางไปรับทหารพรานหญิงที่ค่ายจุฬาภรณ์เพื่อไปร่วมงานทำบุญที่วัดไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งคนร้ายแอบสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ และกดระเบิดทันทีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนทำให้ชาวบ้านที่กำลังขายอาหารและลูกค้าในร้านน้ำชาที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต่างตกใจแตกตื่นวิ่งหนีหาที่กำบัง เพื่อความปลอดภัย
ต่อมา พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว คาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีนายมะรอมือ กาแจกาซอ เป็นหัวหน้ากลุ่มแกนนำสั่งการ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้กระจายกำลังกันเข้าปิดล้อมในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายเพื่อไล่ล่าคนร้ายและผู้ต้องสงสัยดังกล่าวแล้ว
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.และโฆษก สตช.กล่าวถึงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร (สว.) ถึงผู้บังคับหมู่ (ผบ.หมู่) วาระประจำปี 2561 ว่า ขณะนี้การแต่งตั้งโยกย้ายดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยผู้บัญชาการทุกหน่วยได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งในวันที่ 30 มิ.ย.62 และให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.62 เป็นต้นไปพร้อมกันทุกหน่วย รวมจำนวนทั้งสิ้น 13,973 ราย แบ่งเป็นระดับรอง สว.จำนวน 3,732 ราย และระดับ ผบ.หมู่ จำนวน 10,241 ราย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำชับให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเดินทางไปรายงานตัวปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งใหม่ให้เสร็จสิ้นภายวันที่ 15 ก.ค.นี้
พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ในการแต่งตั้งวาระประจำปีนี้มีข้าราชการตำรวจได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน อาทิพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผู้ที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่มาเป็นเวลานานย้ายกลับภูมิลำเนา จำนวน 765 นาย กองบัญชาการตำรวจนครบาลย้ายกลับภูมิลำเนา จำนวน 69 นาย กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 395 นาย
อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่หรือบางหน่วยงานที่มีเหตุผลความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ ได้แก่ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) และสถานีตำรวจนครบาลบางแห่ง จำเป็นต้องถ่ายทอดงานให้แก่กำลังพลที่มาทดแทนให้เกิดความต่อเนื่อง สตช.จึงมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งออกจากหน่วยงานดังกล่าว อยู่ปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนถึงเดือน ต.ค.62
"ในการแต่งตั้งครั้งนี้ สตช.ได้เน้นให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง โดยผู้บังคับบัญชาใกล้ชิด สามารถพิจารณาจัดวางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ยืนยันไม่มีใครโดนเตะ เป็นการแต่งตั้งลงในตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการร้องขอกลับภูมิลำเนา หรืออุปการะครอบครัว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจ มุ่งมั่นให้การแต่งตั้งระดับรอง สว.ถึง ผบ.หมู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ใกล้ชิดและติดต่อให้บริการประชาชนโดยตรงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถจัดคนได้ตรงกับงาน เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น หน่วยต่างๆ สามารถบริหารสถานภาพกำลังพลให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ได้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและสังคมต่อไป" พล.ต.ท.ปิยะกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |