กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันเมื่อวันจันทร์ รัฐบาลจีนและบริษัทจีนจะตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับการขายรถถังและมิสไซล์ให้ไต้หวันมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลสหรัฐอนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน (ขวา) และไมเคิล สปลินเตอร์ ประธานยูเอสทีบีซีและประธานแนสแด็ก ขณะให้สัมภาษณ์สื่อที่นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 / AFP

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอนุมัติแผนการขายอาวุธตามคำร้องขอของไต้หวันมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 67,800 ล้านบาท โดยอาวุธนั้นรวมถึงรถถังอับรามส์ เอ็ม1เอ2ที ของบริษัท เจเนอรัลไดนามิกส์ จำนวน 108 คัน และมิสไซล์สติงเกอร์ ผลิตโดยบริษัท เรย์เธียน จำนวน 250 ลูก และทำให้รัฐบาลจีนกล่าวเตือนเมื่อวันศุกร์ว่า จีนจะแซงก์ชันบริษัทสหรัฐที่ขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน แต่ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม

    ข่าวรอยเตอร์กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม เกิ้ง ซวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่งว่า การขายอาวุธของสหรัฐแก่ไต้หวันละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และสร้างความเสียหายต่ออำนาจอธิปไตยและความมั่นคงแห่งชาติของจีน

    "รัฐบาลจีนและบริษัทจีนจะไม่ร่วมมือหรือติดต่อการค้ากับบริษัทสหรัฐเหล่านี้" โฆษกจีนแถลง โดยบอกว่าเขายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในตอนนี้ แต่ขอให้เชื่อว่า คนจีนรักษาคำพูดเสมอ

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี สื่อทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เผยแพร่บทความในบัญชีวีแช้ต ระบุชื่อบริษัทสหรัฐที่อาจโดนจีนลงโทษ ซึ่งรวมถึงบริษัท ฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล ที่ผลิตเครื่องยนต์สำหรับรถถังอับรามส์ และบริษัท กัล์ฟสตรีม แอโรสเปซ ผู้ผลิตเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่เป็นบริษัทลูกของเจเนอรัล ไดนามิกส์ จีนเป็นตลาดสำคัญของทั้งฮันนีเวลล์และกัล์ฟสตรีม

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีนประกาศแซงก์ชันบริษัทสหรัฐที่ขายอาวุธให้ไต้หวัน ก่อนหน้านี้จีนเคยประกาศลงโทษบริษัทสหรัฐมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง เมื่อปี 2553 และ 2558 แต่ไม่ชัดเจนว่าได้มีการบังคับใช้หรือไม่

    นอกจากแผนการขายอาวุธที่ทำให้จีนประท้วงและเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกทันที สัปดาห์ที่แล้วจีนยังไม่พอใจที่สหรัฐอนุญาตให้ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน แวะเยือนสหรัฐระหว่างเดินทางเยือนมิตรประเทศของไต้หวันในทะเลแคริบเบียน ไช่มีกำหนดกลับมาเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจในสัปดาห์หน้า.