นับถอยหลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำทัพ “ครม.ประยุทธ์ 2” เข้าทำเนียบรัฐบาล ลุยงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งขณะนี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมห้องทำงาน และทยอยขนข้าวของเข้ามาในทำเนียบฯ แล้ว รวมถึงในส่วนของรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ก็ได้เตรียมห้องทำงานในกระทรวงไว้แล้วด้วยเช่นกัน

        แต่เพียงไม่กี่อึดใจนี้ ที่ ครม.ชุดใหม่จะได้ทำงานอย่างเป็นทางการ บิ๊กตู่ เองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเต็มร้อย เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่ามากหรือน้อย แต่จะมีเข้ามานับจากนี้อย่างแน่นอน

        เพราะขนาดยังไม่ทันเริ่มเดินเครื่อง ครม.ใหม่ อุตส่าห์ฟันฝ่ามรสุมแย่งเก้าอี้กันมาได้จนลงตัวแล้ว ก็ยังไม่วายมีปมซดเกาเหลาแย่งห้องทำงานกัน ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องให้บิ๊กตู่ต้องปวดหัวทั้งสิ้น จนต้องสั่งว่าที่นายกฯ น้อย "ดิสทัต โหตระกิตย์" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และว่าที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปดูความเรียบร้อยการจัดเตรียมห้องทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลอีกที่หนึ่งด้วย

        ขณะเดียวกัน บิ๊กตู่ ยังต้องเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมข่มอารมณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อรับศึกในเวทีแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ซึ่งต้องเจอกับบรรดา ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่คอยจ้องจะอภิปรายในตัว บิ๊กตู่ อย่างแน่นอน

        แต่บิ๊กตู่ก็ออกมาปรามท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติในสภาก่อนแล้วว่า เป็นการแถลงนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน และการเสนอข้อคิดเห็นกัน เพื่อให้เกิดความครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นคนละเรื่อง คนละวาระ ขอให้ทุกคนให้เกียรติประชาชนที่เลือกเข้ามา

        ส่วนเรื่องอารมณ์ร้อนๆ ของบิ๊กตู่ ที่ทุกคนกังวล และจ้องว่าจะหลุดออกมา จนเข้าทางบรรดาฝ่ายตรงข้ามนั้น หากสังเกตดีๆ ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่บิ๊กตู่จะได้เป็นนายกฯ สมัยที่ 2 ไม่นาน บิ๊กตู่เริ่มปรับตัวได้ดีตามที่ตั้งใจไว้ โดยไม่หลุดปากคำหยาบ ไม่โมโหง่ายๆ และมีรอยยิ้มเกือบทุกวัน

        แม้บางวันจะถูกสื่อตั้งคำถามที่ไม่สบอารมณ์ อย่างดีก็แค่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีน้ำเสียงหรือสีหน้าที่ดุดันแบบสุดๆ เหมือนแต่ก่อน ดังนั้นเป็นไปได้ว่า เข้าสภาฯ ครั้งแรกของบิ๊กตู่จะสามารถข่มอารมณ์รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องเจอได้ดีในระดับหนึ่ง

        ขณะเดียวกัน บิ๊กตู่ได้อำลา ส่งท้าย ครม.ชุดเก่า และส่งท้ายการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช.ไปเรียบร้อย พร้อมกับส่งสารถึงคนไทย และเพื่อขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมกันทำงานมา 5 ปี และจากนี้จะเตรียมนำทัพ ครม.ประยุทธ์ 2 ลุยงานอย่างเต็มที่

        โดยวางคิวลงพื้นที่พบปะประชาชน และประชุม ครม.สัญจรทุกเดือน เหมือนเช่นที่ผ่านมา ตามที่ตั้งใจว่าจะไปให้ครบทุกจังหวัด โดยวางคิวลงพื้นที่จังหวัดยะลา ช่วงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นจังหวัดที่บิ๊กตู่ยังไม่เคยไปตรวจราชการอย่างเป็นทางการในรัฐบาลที่ผ่านมา 

        ส่วนการประชุม ครม.สัญจรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาเลือกจังหวัดและพื้นที่ที่มีความพร้อมและเหมาะสม เพื่อใช้เป็นสถานที่ประชุมสัญจรนัดแรกของ ครม.ใหม่ และจะมีผลในเรื่องของการอนุมัติงบประมาณลงพื้นที่นั้นๆ ด้วย

        และยังจะใช้โอกาสนี้ ขอบคุณประชาชนที่เทคะแนนเสียงให้ อีกทั้งยังเป็นการไปเพื่อตอกย้ำว่า รัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่มาจากประชาธิปไตยแล้ว จะทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งผลสำรวจจากหลายๆ โพลตอนนี้ก็ชี้ว่า ประชาชนต้องการให้รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทำตามนโยบายที่หาเสียง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่บิ๊กตู่ต้องทำให้ได้ เพื่อแสดงความจริงใจ ไม่ใช่เพียงแค่ลมปากเพื่อหวังคะแนนเสียงเท่านั้น

        ส่วนจากนี้ไป เมื่อ ครม.ใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ และรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ เสร็จสิ้น ก็เป็นเวลาที่ “บิ๊กตู่” จะเดินหน้าได้อย่างเต็มสูบ ส่วนจะมีอุปสรรคใดมาขัดขวาง ก็ต้องพิสูจน์ฝีมือ “นายกฯ สมัย 2” คนนี้ ว่าจะสามารถนำทัพฝ่าฟัน ไปได้อีกครั้งหรือไม่.