จับ 'อุตตม' เป็นตัวประกัน?


เพิ่มเพื่อน    

    พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนไป!    
    พยายามจะสลัดคราบทักษิณ
    เดิมทีใช้สโลแกน "ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ"
    วันนี้เปลี่ยนแล้ว "ประชาชนคิดเพื่อไทยทำ" 
    เหมือนจะดี...แต่...ไม่เข้าท่า
    มันควรจะเป็นประชาชนคิดเพื่อไทยทำมานานแล้วไม่ใช่หรือ ก็เห็นเอาแต่พ่นว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่ดันให้คนคนเดียวชี้นิ้วสั่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
    แถมยังเป็นคนโกงอีกต่างหาก!    
    แล้ววันนี้ประชาชนคิดเพื่อไทยทำจริงอย่างนั้นหรือ?    
    มองเผินๆ เหมือนปรับทิศทางให้สอดคล้องกับข่าวก่อนนี้ที่บอกว่า "ทักษิณ" ถอย!
    แต่ความจริงคือแค่ปรับพรรคให้เข้ากับรัฐธรรมนูญเท่านั้น
    แกนนำพรรคสอบตกหมด หัวหน้าพรรคไม่ได้เป็น ส.ส. ก็แค่โยกคนที่เป็น ส.ส.มาเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อไปนั่งเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
    ซึ่งเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ!
    เท่านั้นจริงๆ
    ที่เหลือเหมือนเดิม
    เหมือนอย่างไร?
    แค่ทักษิณบอกว่าปีนี้ไม่จัดงานวันเกิด ส.ส.เพื่อไทยถึงกับหันรีหันขวางเอาไงดี บางคนวิตกขั้นว่ากลัวนายใหญ่จะทิ้ง
    ประชาชนก็รอดูไว้ว่าหลังจากนี้เพื่อไทยจะทำตามความคิดใคร 
    ทักษิณ หรือ ประชาชน
    เพื่อไทยกับบทบาทฝ่ายค้าน บางคนบอกว่าผิดฝาผิดตัว เพราะเพื่อไทยเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล ก็คงจะจริง แต่ไม่ทั้งหมด 
    ปัญหาของเพื่อไทยคือความน่าเชื่อถือ!
    เมื่อครั้งเป็นรัฐบาลก็มักจะจบด้วยคอร์รัปชันเสมอ 
    รัฐบาลที่ถูกกล่าวหาเรื่องคอร์รัปชัน จนผู้นำรัฐบาลต้องหนีคดีไปต่างประเทศ ย้ายข้างมาเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ตรวจสอบคอร์รัปชัน  
    มันผิดฝาผิดตัวจริงๆ!
    ฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยจะทำอะไรหลังจากนี้ 
    ตรวจสอบรัฐบาล 
    หรือหาหนทางกลับเข้าสู่อำนาจ 
    คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ยังไม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตน จึงยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่เพื่อไทยจองกฐินตั้งแต่ไก่โห่ เตรียมซักฟอก ๗ รัฐมนตรี
    เป้าหมายจริงๆ น่าจะอยู่ที่ "อุตตม สาวนายน"
    และไม่ใช่ประเด็นความไม่เหมาะสมในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    แต่หวังให้มีการเปลี่ยนแปลงในคดีกรุงไทยที่ทักษิณเป็นจำเลยร่วมใช่หรือไม่? 
    การปล่อยข่าวว่า "ทักษิณ" ถอยก่อนนี้ ถูกประเมินว่า เป็นการหยั่งท่าที 
    ขนาด "จตุพร พรหมพันธุ์" ยังมองขาดว่า คนอายุ ๗๐ ที่ผ่านอะไรมามากมายต้องคิดมากกว่าปกติ  เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวตนเพียงแค่คนเดียว แต่เป็นเรื่องของครอบครัว
    แล้วเกี่ยวกับครอบครัว ชินวัตร อย่างไร? 
    ที่เห็นชัดๆ คดีที่ต่อเนื่องกันนี้ "พานทองแท้ ชินวัตร" เป็นจำเลยร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตปล่อยกู้ของผู้บริหารธนาคารกรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานคร
    ศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษา วันที่ ๒๕ พฤศจิกายนนี้ 
    อีก ๔ เดือน!
    การไล่ล่า "อุตตม สาวนายน" จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวพันกัน 
    ถ้า ทักษิณ-พานทองแท้ ผิด อุตตม ก็ต้องผิดด้วย 
    ถ้ารอดก็ต้องรอดหมด 
    คือตรรกะที่ฝ่ายประชาธิปไตยโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ใช้อยู่ในตอนนี้
    แต่เมื่อลงไปดูรายละเอียดของเรื่องราว ไม่ง่ายที่จะล่า "อุตตม สาวนายน" 
    นักกฎหมายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และพรรคสัมภเวสีแตกแบงก์พัน พากันประโคมว่า การสอบสวนใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นภายใต้การรัฐประหาร หาความจริงได้ยาก 
    ดิสเครดิต คตส.ว่าไร้ความน่าเชื่อถือ เพราะมาจากคณะรัฐประหาร 
    ขอโทษครับทั่น! ไปดูหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษของธนาคารแห่งประเทศไทย ยุคที่คุณชายอุ๋ย   ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นผู้ว่าการแล้วหรือยัง 
    นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งมหากาพย์การตรวจสอบทุจริตคดีแบงก์กรุงไทยทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานคร  
    ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุกสุชาย เชาว์วิศิษฐ, วิโรจน์ นวลแข, มัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา ๑๘ ปี 
    คตส.แค่ทำหน้าที่อัยการ
    สำนักข่าวอิศรานำหนังสือร้องทุกข์ของแบงก์ชาติมาเผยแพร่หลายวันแล้ว และไม่รู้ว่า คนในเพื่อไทย ไปอ่านประดับความรู้กันบ้างหรือยัง 
    .....สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลจากหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารธนาคารกรุงไทย กรณีปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานคร ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงนามโดย  ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ขณะนั้น) เมื่อปี ๒๕๔๘ ถึงเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อแก่เครือกฤษดามหานคร จนนำไปสู่คำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในที่สุด 
    สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
    ....ประเด็นสำคัญของกรณีนี้คือ คณะกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย และเข้าร่วมประชุมเพื่ออนุมัติสินเชื่อให้แก่เครือกฤษดามหานครในเวลานั้น ได้แก่ ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ ประธานกรรมการ นายวิโรจน์ นวลแข กรรมการ นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ กรรมการ นายอุตตม สาวนายน กรรมการ  นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา กรรมการ
    อย่างไรก็ดีตามหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าว ระบุข้อมูลในช่วงท้ายว่า นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน กรรมการบริหาร ซึ่งเป็นกรรมการอิสระที่กระทรวงการคลังแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารในคณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย ภายหลังจากทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของธนาคารกรุงไทยว่า มีการให้สินเชื่อที่ผิดปกติ ได้มาพบเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและให้ถ้อยคำกับผู้ตรวจการธนาคารพาณิชย์ โดยมีสาระสำคัญคือ
    ๑.การอนุมัติสินเชื่อให้แก่บริษัท โกลเด้นฯ ของคณะกรรมการบริหารนั้น ประธานกรรมการ (ร.ท.สุชาย) ได้ขอให้พิจารณาไปด้วยความรวดเร็วก่อนมีการประชุม และมีการรวบรัดให้การพิจารณาของที่ประชุมยุติลงโดยเร็ว โดยอ้างถึงบุคคลภายนอกขอมา และเป็นสัญญาณว่า ต้องอนุมัติสินเชื่อรายนี้แน่นอน ทั้งที่กรรมการบริหารดังกล่าว (นายชัยณรงค์ และนายอุตตม) ไม่เห็นด้วย โดยตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ของโครงการซึ่งเป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น และไม่มีรายละเอียดชัดเจน ที่ดินที่ตั้งโครงการและหลักประกันมีการประเมินศักยภาพทางตลาดเท่านั้น โดยลูกหนี้เป็นผู้เลือกบริษัทประเมินราคาและวิธีประเมินราคา ในส่วนการ Refinance จากธนาคารกรุงเทพ มีส่วนที่ Hair Cut ยังไม่ชัดเจน  ทั้งนี้กรรมการผู้จัดการที่เป็นกรรมการบริหารได้ทราบเรื่องนี้ดี และช่วยอธิบายแทนสายงานที่นำเสนอสินเชื่อด้วย การตรวจสอบยอดหนี้ Refinance สายงานสินเชื่อ กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกรุงไทยสามารถตรวจสอบได้โดยง่าย
    ๒.ในการขายหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ของธนาคารกรุงไทยนั้น  กรรมการบริหารทราบเรื่องน้อยมาก แต่ทราบจากนายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการในขณะนั้นว่า เป็นผู้เจรจากับบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ให้นำบริษัทตัวแทน (Nominee) คือบริษัท แกรนด์ คอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด มาซื้อหุ้นคืนจากธนาคารกรุงไทย และคณะกรรมการบริหารเพียงแต่อนุมัติหลักการให้ไปเจรจาขายหุ้นในราคา ๑๐ บาท/หุ้น แก่ผู้ที่สนใจเท่านั้น แต่นายวิโรจน์มิได้แจ้งรายละเอียดการเจรจาตกลงขายหุ้นกับบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารทราบแต่อย่างใด....
    เพื่อไทยถามหาหลักฐาน "อุตตม สาวนายน" คัดค้านการอนุมัติเงินกู้...ก็นี่ไง 
    หนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษของแบงก์ชาติหนักแน่นพอที่จะเชื่อถือได้หรือยัง?
    แต่ดูเหมือนว่าบรรดาสมุนทักษิณ พยายามเลี่ยงไม่พูดถึง 
    สดๆ ร้อนๆ วันสองวันมานี้ก็ยังถามหาหลักฐานที่แสดงว่า "อุตตม สาวนายน" คัดค้านหรือทักท้วงการอนุมัติในครั้งนั้น
    นี่คือสิ่งที่ฝ่ายค้านของสมุนทักษิณกำลังทำ
๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๑ หรือ ๒๑ ปีที่แล้ว คือวันกำเนิดพรรคไทยรักไทย 
"ภูมิธรรม เวชยชัย" เขียนรำลึกไว้สวยหรู    
    "ดร.ทักษิณ ชินวัตร กับคณะบุคคลที่อยากเห็นการเมืองที่ดี การเมืองที่ใช้มืออาชีพทำงาน ใช้คนทุกภาคส่วนช่วยกันสร้างและผลักดัน ให้เกิดการเมืองที่มีคุณภาพใหม่ในนาม...พรรคไทยรักไทย"
    แต่สิ่งที่ภูมิธรรมไม่ได้เขียนคือ ปัจจัยที่ทุ่มลงไปเพื่อดูด ส.ส. ตกปลาในบ่อเพื่อน และควบรวมพรรคการเมือง 
    ไม่ได้พูดถึงการซุกหุ้น เผด็จการรัฐสภา ครอบงำองค์กรอิสระ เหิมเกริมในอำนาจ
    และวันนี้ คนของทักษิณโหยหารัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน มีความเป็นประชาธิปไตยสูง
    ซึ่งก็ใช่!    
    แต่ รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ ก็มีช่องโหว่ ให้อำนาจฝ่ายบริหารมากเกินไป หากผู้นำประเทศโกง การตรวจสอบในสภาจะเป็นไปอย่างยากลำบาก 
    และพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากการเติบโตของระบอบทักษิณ
    ที่สืบทอดความวิบัติมาถึงทุกวันนี้.
                        ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"