ส่อเสีย'ค่าโง่'ซ้ำ ไทยพ่ายคดีปินส์ นำเข้าบุหรี่นอก!


เพิ่มเพื่อน    


    ไทยส่อเค้าเสียค่าโง่อีกแล้ว ดับเบิลยูทีโอตัดสิน “ไทย” แพ้คดีนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศ 3 คดีรวมถึงชั้นอุทธรณ์ รมต.การค้าปินส์จี้ไทยยอมรับและแก้ตามคำตัดสินให้สมศักดิ์ศรีประธานอาเซียน  ศุลกากรรับมีคณะทำงานประเมินผล
    เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ได้เผยแพร่คำตัดสินครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการพิจารณาข้อพิพาท โดยคณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกเห็นด้วยตามข้อเรียกร้องของประเทศฟิลิปปินส์ ว่าประเทศไทยดำเนินการขัดต่อกฎหมายขององค์การการค้าโลกเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายศุลกากร ซึ่งรวมถึงการฟ้องคดีอาญากับบริษัทผู้นำเข้าบุหรี่ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด (PMTL) ในข้อหาสำแดงราคาบุหรี่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียระหว่างปี 2545-2546 ต่ำกว่าความเป็นจริง พร้อมระบุให้ไทยต้องปฏิบัติตามคำตัดสินก่อนหน้านี้ของดับเบิลยูทีโอ
    โดยนายรามอน โลเปซ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องว่า ข้อพิพาทในองค์การการค้าโลกคดีนี้กินระยะเวลามากว่า 10 ปีแล้ว ประเทศไทยแพ้ทั้ง 3 คดี และแพ้ในชั้นอุทธรณ์ด้วย ถึงเวลาเสียทีที่ไทยต้องยอมรับคำตัดสิน และดำเนินการเปลี่ยนแปลงการประเมินราคาศุลกากรตามคำตัดสินดังกล่าว
    ทั้งนี้ ข้อพิพาทระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ที่กินเวลายาวนานเป็นสิบปีนี้ เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องของไทยในการประเมินราคาสินค้าส่งออกจากฟิลิปปินส์ให้ถูกต้องตามความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากรขององค์การการค้าโลก มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบถึงความอยู่รอดของภาคธุรกิจทั้งในประเทศฟิลิปปินส์และไทย โดยส่งผลกระทบอย่างมากกับชาวไร่ยาสูบของฟิลิปปินส์ และยังส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกโดยรวมของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ยังเป็นผลเสียต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของสองประเทศด้วย
    นายโลเปซกล่าวว่า ไทยถือเป็นผู้ให้การสนับสนุนรายสำคัญของระบบการค้าพหุภาคีขององค์การการค้าโลก และยังเป็นประธานคณะมนตรีใหญ่ขององค์การการค้าโลกในขณะนี้อีกด้วย และไทยก็เพิ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนปี 2019 ดังนั้น การยอมรับคำตัดสินของคณะผู้พิจารณาในคดีนี้จะเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและความเป็นผู้นำของไทยในองค์การการค้าโลกและในอาเซียน
    ทั้งนี้ ในคดีหลักคณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกและองค์กรอุทธรณ์ได้มีคำตัดสินในปี 2553 ว่ามาตรการในการประเมินราคาศุลกากรของไทยขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากรและกฎขององค์การการค้าโลก ซึ่งหลังจากที่มีคำตัดสินดังกล่าว ไทยได้มีมาตรการใหม่ในการประเมินราคาศุลกากรต่อบุหรี่ของฟิลิปปินส์ที่ขัดต่อองค์การการค้าโลก โดยการฟ้อง PMTL เป็นคดีอาญาโดยกล่าวหาว่ามีการสำแดงราคาต่ำ ทำให้ฟิลิปปินส์ได้ฟ้องคดีต่อองค์การการค้าโลกในการบังคับให้มีการปฏิบัติตามคำตัดสินเป็นคดีแรก และในเดือน พ.ย.2561 คณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกก็ได้มีคำวินิจฉัยว่ามาตรการใหม่ในการประเมินราคาศุลกากร และการฟ้องคดีอาญาคดีแรกดังกล่าวขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากร
และในระหว่างพิจารณาคดีดังกล่าวไทยก็ได้ฟ้องคดีอาญาเป็นคดีที่สองบังคับให้ฟิลิปปินส์ต้องเริ่มกระบวนการฟ้องไทยให้ปฏิบัติตามคำตัดสินเป็นครั้งที่ 2 โดยล่าสุดคณะผู้พิจารณาขององค์การการค้าโลกได้มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่าการฟ้องคดีอาญาคดีที่สองนี้ก็ขัดต่อความตกลงว่าด้วยการประเมินราคาศุลกากรเช่นกัน
    ด้านนายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร ระบุว่า กรมมีคณะทำงานติดตามข้อพิพาทดังกล่าวอยู่ ซึ่งต้องมาประเมินกันอีกครั้ง ผลการตัดสินที่ออกมาจะกระทบกับการดำเนินคดีความในไทยหรือไม่อย่างไร
    ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลยุติการฟ้องร้องคดีอาญาบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย เพื่อลดผลกระทบความเสียหายและความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับฟิลิปปินส์กรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า แต่ก็ถูกโจมตีว่าไม่ควรดำเนินการ โดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ออกมาโจมตีเรื่องดังกล่าวว่าหากดำเนินการจะมีคนติดคุกแน่นอน และจะเปิดโปงผู้ที่รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ แต่จากผลพวงจากการตัดสินของดับเบิลยูทีโอครั้งนี้ ก็อาจทำให้ไทยอาจต้องเสียค่าโง่อีกครั้งหนึ่ง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"