"ธรรมนัส" ลั่นไม่เคยกลัวฝ่ายค้านจองซักฟอก ยันทำทุกอย่างถูกต้องพร้อมแจงทุกเรื่อง "จาตุรนต์" แนะตั้งกระทู้ถามนายกฯ ปม 2 รมต.ฉาว "ธีระชัย" เปิดเอกสาร "อุตตม" ให้การคดีทักษิณโกงแบงก์กรุงไทย ชี้ถ้าเป็นพยานในฐานะผู้ร่วมกระทำผิดหลุดเก้าอี้ รมว.คลังทันที ท้าโชว์หลักฐานหักล้าง
    เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อติด 1 ใน 6 รัฐมนตรีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจและจะเกาะติดการทำงานตลอดเวลาว่า ไม่เคยกลัว เพราะทำทุกอย่างถูกต้องไม่มีอะไรต้องกังวลใจ และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง ถามว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายในเรื่องใด หากจะยกเรื่องการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่เคยทำธุรกิจหรือสัมปทานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันได้ว่าไม่มีหุ้นอะไรเหลืออยู่แล้วแน่นอน เพราะก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมืองดำเนินการทุกอย่างถูกต้องแล้ว
    ร.อ.ธรรมนัสยังกล่าวถึงการพิจารณาบุคคลมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น เช่น เลขานุการ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าเรื่องนี้มอบหมายให้นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ พิจารณาบุคคลที่มีความสามารถและเคยทำงานในพื้นที่มาช่วยงาน โดยไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส. ในส่วนรัฐมนตรีอื่นของพรรค อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหารพรรคหารือกัน
    ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวถูกทาบทามร่วมทีมในฐานะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่ได้รับการทาบทาม ในพรรคยังไม่มีใครมาแจ้ง และปกติตามธรรมเนียมเมื่อเป็นโควตา พรรคจะคัดสรรตัวบุคคล ซึ่งต้องรอให้พรรคเป็นผู้พิจารณาตัวบุคคลจะดีกว่า เพราะในพรรคก็มีคนที่เหมาะสมหลายคน แต่ถ้าพรรคให้ไปทำหน้าที่ตรงนี้ตนก็ทำได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในการพิจารณารายชื่อบุคคลที่เหมาะสมจะเสนอให้เป็นทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีชื่อนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร. ไปก่อนหน้านี้ว่า ล่าสุดผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.จะให้โอกาสผู้หญิงที่มีศักยภาพเข้ามามีบทบาทในการทำหน้าที่ตรงนี้ด้วย ได้แก่ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยภาพลักษณ์ความเป็นนักวิชาการ มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการคิดนโยบายด้านสวัสดิการ อาทิ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นโยบายมารดาประชารัฐ เป็นต้น 
    ขณะที่อีกหนึ่งคนที่อาจถูกวางตัวไว้ให้ทำหน้าที่ คือ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. ที่ผ่านการทำงานในองค์กรของรัฐและเอกชนมาแล้ว ซึ่งรายชื่อทั้งหมดจะมีการเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาความเหมาะสมต่อไป เช่นเดียวกับรายชื่อแคนดิเดตในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ที่ได้โควตาพรรคละ 1 คน
    แหล่งข่าวในพรรค พปชร.เปิดเผยว่า ผู้ที่จะรับผิดชอบในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องทำงานและร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด และยังต้องรับผิดชอบการสรุปเนื้อหาการประชุม นำเสนอต่อสาธารณะได้อย่างครบถ้วนแม่นยำ และสามารถชี้แจงเรื่องต่างๆ ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าในสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ อาจจะต้องมีการแต่งตั้งรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ มากกว่า 3 คน เพื่อให้ครอบคลุมงานทุกด้าน และช่วยชี้แจงตอบโต้ประเด็นปัญหาต่างๆ
    วันเดียวกัน นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของรัฐมนตรีบางรายในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ ว่างานการเมืองเป็นงานมีเกียรติสูงส่ง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของบ้านเมืองและชีวิตประชาชน นักการเมืองต้องเป็นคนดีสูงส่ง ไม่คิดชั่ว ประพฤติชั่ว และมีจิตอาสาบริสุทธิ์เพื่อเข้ามารับใช้บ้านเมืองและประชาชน พวกมาเฟีย มิจฉาชีพ และผู้ไม่มีความสามารถ ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่มีสิทธิ์มาทำงานการเมือง ผู้ที่เคยต้องโทษ แม้ได้รับอภัยโทษหรือนิรโทษฯ จากการทำผิด หากความผิดนั้นเป็นความชั่ว ก็ยังต้องถือว่าผู้นั้นเป็นคนชั่ว ที่ไม่มีสิทธิ์มารับใช้ทางการเมือง ผู้ที่ยินยอมให้นำคนชั่วเข้ามาทำงานการเมืองต้องรับผิดชอบและมีความผิดด้วย
ชงกระทู้ถามบิ๊กตู่ตั้ง รมต.ฉาว
    นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า รัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลใหม่นี้มีปัญหาภูมิหลังความเป็นมาถึงขั้นไม่ควรให้มาเป็นรัฐมนตรีกันได้เลย คงต้องมีการติดตามตรวจสอบกันต่อไป แต่เฉพาะหน้านี้ มีรัฐมนตรี 2 คนที่ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักคือนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งควรมีการตรวจสอบเพิ่มเติมแบบจับให้มั่นคั้นให้ตาย อยากเสนอว่าฝ่ายค้านและผู้ที่ต้องการตรวจสอบน่าจะสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากขึ้นอีก ขณะเดียวกันก็ควรตั้งกระทู้ด่วนถามนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ เพราะการเสนอชื่อเพื่อ ครม.เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายกฯ 
     กรณีนายอุตตม 1.นายกฯ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายอุตตมแล้วหรือไม่ ถ้าตรวจสอบแล้วถามว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย (บอร์ดธนาคารกรุงไทย) ครั้งที่มีการอนุมัติเงินกู้ที่นำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีจนมีผลให้กรรมการหลายคนถูกพิพากษาจำคุกไปแล้วนั้น นายอุตตมเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ มีหลักฐานใดที่แสดงว่านายอุตตมไม่เห็นด้วย และได้แสดงการคัดค้านหรือทักท้วงการอนุมัติในครั้งนั้นหรือไม่
         2.นายอุตตมตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ด้วยหรือไม่ ถ้านายอุตตมไม่เป็นผู้ต้องหา ผู้กล่าวหาได้ให้เหตุผลไว้อย่างไร เหตุใดไม่กล่าวหานายอุตตม ถ้านายอุตตมตกเป็นผู้ต้องหา นายอุตตมถูกตั้งข้อหาอะไร เพราะเหตุใด พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอให้ฟ้องนายอุตตมหรือไม่ เพราะเหตุใด นายอุตตมถูกอัยการฟ้องต่อศาลพร้อมกับกรรมการคนอื่นๆ หรือไม่ นายอุตตมได้รับการตัดสินในชั้นศาลให้ยกฟ้องหรือเรื่องของนายอุตตมไม่ได้ไปสู่ศาลเลย
          3.นายกฯ มีข้อมูลบ้างหรือไม่ว่าผู้ที่ร่วมกระทำผิดร้ายแรงในคดีต่างๆ ถูกกันเป็นพยานและไม่ต้องถูกดำเนินคดีในปีหนึ่งๆ มีจำนวนมากน้อยเพียงใด เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากนายอุตตมร่วมกระทำผิดในคดีการปล่อยกู้จริงแล้วไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อนายอุตตมมาเป็นรัฐมนตรีคลังแล้วเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีมีมาตรการป้องกันไม่ให้นายอุตตมกระทำผิดกฎหมายในเรื่องที่รับผิดชอบแล้วหรือไม่ 
    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "คุณอุตตมควรเปิดหลักฐานในมือ" พร้อมเอกสารของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 8 หน้า ซึ่งเป็นคำให้การของนายอุตตม ในฐานะพยานโจทก์ คดีที่อัยการสูงสุด ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ข้อหาทุจริตธนาคารกรุงไทย อนุมัติสินเชื่อ 9 พันล้านบาทให้บริษัทในเครือกฤษดามหานคร โดยระบุว่า มีผู้อ่านเฟซบุ๊กส่งเอกสารดังกล่าวมา จึงนำบางส่วนมาเผยแพร่ เพื่อวิเคราะห์เชิงวิชาการตามข้อมูลเท่าที่ปรากฏ ให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ แต่เนื่องจากเป็นเบาะแสจากภาคประชาชน จึงไม่สามารถยืนยันได้
    โดยเอกสารฉบับที่ 1 และ 2 เป็นคำเบิกความต่อศาลของนายอุตตม ซึ่งเผยแพร่ในเว็บไซต์ของศาลฎีกาฯ มีข้อความระบุว่า “ข้าฯ ตัดสินใจไม่อนุมัติสินเชื่อรายนี้ในครั้งนี้” เอกสารฉบับที่ 3 อ้างว่าแสดงรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546 ซึ่งมีกรรมการบริหารครบทั้ง 5 คน รวมถึงนายอุตตม เอกสารฉบับที่ 4 ระบุว่า “ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่า ความเสี่ยงและความเป็นไปได้ของโครงการตามเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแล้ว สามารถสนับสนุนวงเงินสินเชื่อแก่บริษัทฯ ได้” เอกสารฉบับที่ 5 อ้างว่า ที่ประชุมซึ่งมีนายอุตตมร่วมด้วยนั้น มีมติที่ประชุม ‘อนุมัติ’ เอกสารฉบับที่ 6 อ้างว่าเป็นลายเซ็นของนายอุตตม 
    ปัญหามีอยู่ว่า กรณีธนาคารกรุงไทยนั้น คณะกรรมการเคยมีมติว่า การอนุมัติสินเชื่อโดยคณะกรรมการบริหาร ต้องเป็นมติเอกฉันท์เท่านั้น ถ้ามีกรรมการแม้แต่คนหนึ่งตัดสินใจไม่อนุมัติ คำขอสินเชื่อจะตกไป หรือถ้ามีกรรมการแม้แต่คนหนึ่ง ตั้งประเด็นคำถามแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ซึ่งฝ่ายสินเชื่อยังไม่สามารถเคลียร์ได้ การอนุมัติต้องเลื่อนออกไปก่อน แต่ข้อความที่นายอุตตมระบุว่า ‘ตัดสินใจไม่อนุมัติสินเชื่อรายนี้ในครั้งนี้’ นั้น ตนไม่เห็นว่าปรากฏที่ใดในรายงาน ดังนั้น ถ้าเอกสารรูปต่างๆ นี้ถูกต้อง จะแสดงว่านายอุตตมน่าจะมีเอกสารหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ และสนับสนุนข้ออ้าง ซึ่งหักล้างสิ่งที่ปรากฏในเอกสารข้างต้นได้ ทั้งนี้ ในเรื่องเกี่ยวกับการอนุมัติสินเชื่อแบงก์นั้น จะต้องอ้างอิงพยานเอกสารเป็นหลัก 
บี้อุตตมโชว์หลักฐานหักล้าง
    เอกสารฉบับที่ 7 เป็นคำพิพากษา ส่วนที่วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ผิดตามฟ้องหรือไม่ และเอกสารฉบับที่ 8 คำพิพากษาระบุว่า ในการกระทำความผิดนั้น ผู้กระทำคือคณะกรรมการบริหาร ซึ่งย่อมหมายถึง ครบทั้ง 5 คน เพราะถ้าหากไม่ครบ 5 คน ย่อมไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ และศาลระบุเหตุผลประกอบในการลงโทษว่า เนื่องจากจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 เป็นคณะกรรมการบริหาร จึงมีความเห็นทางวิชาการว่า หลักฐานที่ปรากฏตามคำพิพากษานี้ อาจจะมีผลทำให้นายอุตตมขาดคุณสมบัติหรือไม่?
    ส่วนกรณีถ้าหากเหตุผลที่ไม่มีการดำเนินคดีนายอุตตม เกิดขึ้นจากให้การเป็นประโยชน์ ในลักษณะที่ทางราชการไม่สามารถหาข้อมูลนี้ได้จากแหล่งอื่น ควรชี้แจงว่ามีการให้การเป็นประโยชน์อย่างใด อนึ่ง ผู้ที่จะถูกกันเป็นพยานได้นั้น จะต้องอยู่ในเหตุการณ์ และอาจเป็นผู้ร่วมกระทำผิด ซึ่งตามระเบียบพิธีปฏิบัติ จะต้องมีการกล่าวหาเสียก่อน แล้วอัยการค่อยสั่งไม่ฟ้องทีหลัง แต่เท่าที่ดูคำเบิกความต่อศาล ไม่เห็นว่ามีประเด็นที่เป็นประโยชน์ตรงจุดไหน ไม่เห็นมีอะไรที่ก้าวล่วงไปถึง Big boss รวมทั้งกรณีหากถูกกันเป็นพยาน ในฐานะเป็นผู้ร่วมกระทำผิด จะทำให้ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีโดยอัตโนมัติอีกด้วย
    "ผมไม่ยืนยันว่ามีผู้ใดกระทำผิด โดยเฉพาะบริษัทเอกชน แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และบางรายอาจมีข้อเคลือบแคลง ดังนั้น เพื่อความสง่างาม ผมจึงขอแนะนำให้คุณอุตตมเร่งเปิดเผยหลักฐานในมือ ที่โต้แย้งข้อมูลข้างต้น เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน แก่รัฐสภา และแก่ท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งยืนยันหรือปฏิเสธข้อมูลเกี่ยวกับความถูกต้องครบถ้วนของเบาะแสต่างๆ รวมไปถึงการเบิกความต่อศาล ว่าตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไร ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะให้สภาที่ 3 จัดเวทีเพื่อถกเถียงเรื่องนี้อีก ก็ยินดีครับ" นายธีระชัยระบุ
    นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เห็นพ้องกับอดีต รมว.คลังที่ขอให้ รมว.คลังคนใหม่ต้องตอบข้อสงสัยต่างๆ ดังกล่าว เพราะเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและการกระทำที่อาจจะเข้าข่ายทุจริตประพฤติมิชอบ แม้จะเกิดขึ้นในอดีต แต่สร้างความเสียหายให้กับประเทศจำนวนมหาศาล ส่วนข้อมูลต่างๆ ไม่ทราบว่าถูกหรือผิด จริงหรือเท็จ และสุดวิสัยที่ตนจะเข้าไปตรวจสอบโดยละเอียดได้ แต่เมื่อนำเสนอโดยอดีต รมว.คลัง รวมทั้งหลายชิ้นนำมาจากราชกิจจานุเบกษา จึงเห็นว่าการนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อช่วยกันตรวจสอบความจริงความเท็จความถูกความผิด และนำเสนอต่อ รมว.คลังคนใหม่ให้ตอบ ไม่ใช่เรื่องที่นำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือเป็นการหมิ่นประมาท รมว.คลังคนใหม่ 
    "รมว.คลังคนใหม่ ที่ชื่อ อุตตม ไม่สามารถหลีกเลี่ยงในการตอบคำถามดังกล่าวได้ รวมไปถึงนายกฯ ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงในการทำความกระจ่างในเรื่องดังกล่าวว่า นายอุตตม มีส่วนรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดหรือบางส่วนหรือไม่ มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่? มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หากการณ์ปรากฏว่านายอุตตมไม่สามารถชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้กระจ่างชัดได้ว่า ไม่ได้กระทำความผิดและต้องรับผิดชอบในความผิดที่เกิดขึ้นทั้่งหมด หรือแม้ส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวจริง นายกฯ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการนำเอานายอุตตมที่คุณสมบัติไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเข้ามาร่วมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลใช่หรือไม่" นพ.เหวงระบุ.