จบเกาเหลาห้องทำงาน รมช.เกษตรฯ "ประภัตร" ได้ห้องเดิม ปีกซ้าย เลข 121 สั่งเปลี่ยนโซฟาชุดใหม่ทันทีรองรับทีมงานจากสุพรรณฯ "ธรรมนัส" ลั่นเรื่องเล็กน้อยมาก ไม่มีความขัดแย้ง ร่ำลือกระทรวงเกษตรฯ เจ้าที่แรง รัฐมนตรีต้องส่งซินแสย่องดูฮวงจุ้ยก่อน
    เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่าตนและนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีปัญหาขัดแย้งเรื่องห้องทำงานที่กระทรวงเกษตรฯ นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งส่วนตัวยังไม่ได้ส่งทีมงานเข้าไปดูห้องทำงานด้วย และถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากทางกระทรวงจัดให้ส่วนไหนก็ไม่มีปัญหา เพราะตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องเกษตรกร มากกว่าจะมายึดติดเรื่องห้องทำงาน
    "โดยส่วนตัวรู้จักและให้ความเคารพนับถือนายประภัตรมาตลอด ที่ผ่านมาก็ปรึกษาหารือกันอย่างดี ดังนั้นขอสื่ออย่าจับประเด็นในเรื่องที่จะสร้างความขัดแย้งขึ้นมาโดยไม่มีความจำเป็น และไม่มีมูลความจริง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ขัดแย้งกันด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้" ร.อ.ธรรมนัสระบุ 
    ด้านนายประภัตรกล่าวว่า ไม่ทราบถึงปัญหาดังกล่าว เพราะไม่ได้เข้าไปจัดการเรื่องห้องทำงาน เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กระทรวงจัดการห้องให้กับรัฐมนตรี โดยดูเรื่องของความเหมาะสมว่าจะให้ใครไปอยู่ที่ห้องไหน ยืนยันว่าทั้งตนและ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการแย่งห้องทำงาน แต่ถ้าแย่งกันทำงาน นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ ต่างคนต่างเห็นข่าวแล้วก็รู้สึกตกใจเหมือนกันว่ามีปัญหาดังกล่าวขึ้นได้อย่างไร
    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ทั้ง 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส, นายประภัตร และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ จะนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ในวันที่ 14 ก.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. ที่โรงแรมแมริออท สุขุมวิท 57
    นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้รัฐมนตรีที่แย่งห้องทำงานกัน ไม่ว่าจะเกิดที่กระทรวงใด ควรคำนึงถึงหัวอกประชาชนที่เลือกเข้ามาทำงานบ้าง ส่วนตัวคิดว่าหลักการเป็นผู้แทนปวงชน โดยเฉพาะผู้ที่มีโอกาสเป็นรัฐมนตรี ต้องนึกไว้เสมอว่าห้องทำงานไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับผลงานที่จะทำออกมา หากเราทำผลงานออกมาได้ดี น่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และควรแย่งกันทำผลงานมากกว่าที่จะมาแย่งห้องทำงาน ถ้าแย่งกันทำผลงานได้ดี ประโยชน์ก็จะตกไปถึงประชาชน เพราะห้องทำงานไม่ได้มีความหมายมากไปกว่าผลงานที่ทำให้ประชาชน
    แหล่งข่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยกรณีเกาเหลาเรื่องแย่งห้องทำงาน รมช.เกษตรฯ ห้อง 121 ที่อยู่ปีกซ้ายของกระทรวง จนล่าสุดได้มีคำสั่งมาถึงเจ้าหน้าที่ให้เร่งดำเนินจัดเตรียมห้องทำงานรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ 3 คนให้เสร็จสิ้นในวันที่ 14 กรกฎาคม
    มีรายงานว่า ห้อง 121 ดังกล่าว จะเป็นห้องทำงานของนายประภัตร เพื่อให้เกียรตินายประภัตร ที่เคยเป็นอดีต รมว.เกษตรฯ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า อดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ ที่เกษียณราชการไปแล้ว 2-3 คนเข้ามาเป็นทีมงานของนายประภัตร ได้เข้ามาจัดเตรียมห้องดังกล่าวแล้ว พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดซื้อโซฟาชุดใหม่ เพื่อนำมาเปลี่ยนภายในห้องทำงานและห้องรับรองที่อยู่ในห้องรมช.เกษตรฯ และยังมีการนำโต๊ะ เก้าอี้ ในส่วนทีมงานหน้าห้องไปเพิ่มเติมจากเดิมด้วย เพื่อรองรับทีมงานจาก จ.สุพรรณบุรีและ จ.ชัยนาท มานั่งหน้าห้องด้วย
        ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าทีม รมต.อาจจะส่งซินแส ย่องมาดูฮวงจุ้ยในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ตามธรรมเนียมที่นักการเมืองปฏิบัติกันมา เพื่อให้มาดูฤกษ์งามยามดีเข้าที่ทำงานและการจัดวางในห้องทำงาน
          แหล่งข่าวเผยว่า มีเสียงร่ำลือกันมากว่ากระทรวงเกษตรฯ เจ้าที่แรง จึงทำให้ที่ผ่านมาอดีต รมต.เกษตรฯ เกือบทุกคน ก่อนจะมาเข้าทำงานจะต้องส่งซินแสมาดูฮวงจุ้ย ทิศทาง การวางหันทิศโต๊ะทำงานของ รมต. ที่แต่ละคนจะหันหน้าโต๊ะทำงานไปในทิศที่แตกต่างกัน และนำเครื่องรางของขลังมาวางไว้ในมุมต่างๆ เพื่อให้เปิดทางสมดุลพลังอำนาจ ถ้ามีอะไรมาขวางพลังก็จะถูกรื้อถอนออกไป 
    แหล่งข่าวระบุว่า ในสมัยอดีต รมว.เกษตรฯ คนหนึ่งถึงกับถอนต้นปาล์มด้านหน้ากระทรวงออกทั้งหมด เพราะมีลำต้นที่สูงและปลายใบแหลม จะเป็นเหมือนมีคนคอยทิ่มแทงข้างหลัง และบดบังพลังส่งจากภายนอก ต่อมายังมีการทำสระน้ำพุยาวตลอดแนวสองข้างบันไดกระทรวงเพื่อลดเรื่องร้อนแรงที่กระทรวงมีข่าวทุจริตหลายโครงการ รวมทั้งเมื่อช่วงปี 56 ยังได้หล่อพระพิรุณทรงนาคองค์ใหม่มาประดิษฐานแทนองค์เก่า โดยนำมาไว้ในพิพิธภัณฑ์ อยู่บริเวณห้องโถงชั้น 1
         นอกจากนี้ มีเรื่องความเร้นลับของกระทรวงเกษตรฯ หากบูรณะซ่อมแซมกระทรวงครั้งใด ถ้าไม่ทำของไหว้พญาครุฑ ติดหน้าป้ายกระทรวง จะทำให้การก่อสร้างมีปัญหาหรือคนงานได้รับบาดเจ็บอย่างที่ไม่คาดคิด อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะรัฐมนตรีบางคนเข้าทำงานโดยไม่ปรับอะไรเลยก็เคยมีมาแล้ว.