ระยองเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย นอกจากท้องทะเล หมู่เกาะ ผลไม้เลิศรสต่างๆ แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัดวาอารามเก่าแก่อีกมากให้ทุกท่านได้ทำบุญ กราบไหว้ และสร้างความดี โดยเฉพาะในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะพาครอบครัวและคนรักไปทำกิจกรรมสร้างสรรค์ ท่องเที่ยววิถีพุทธ เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต 
     นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดระยอง กล่าวว่า ททท.สำนักงานระยอง ร่วมกับเทศบาลตำบลเมืองแกลง เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาไหว้พระ เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ภายใต้กิจกรรม  “ไหว้พระ...ทั่วไทย สุขใจ...ถ้วนหน้า”  ที่อำเภอแกลง  จังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562 
     สำหรับ “อำเภอแกลง” นับเป็นย่านเมืองเก่าอีกย่านหนึ่งของระยองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์น่าค้นหา เรียนรู้ และเพิ่มประสบการณ์ท่องเที่ยววัดสำคัญๆ ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกที่เดินทางเข้าถึงสะดวก ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากนัก   
กิจกรรมทางศาสนาที่จัดขึ้นนักท่องเที่ยวจะได้ไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเสริมสิริมงคล ชมสถาปัตยกรรมสวยงามของโบสถ์ ศึกษาประวัติศาสตร์ของวัด บ้านเก่า วิถีชีวิต ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กับการนั่งรถราง บนเส้นทาง “เที่ยวระยอง อิ่มบุญ สุขใจ เล่าขานตานาน...เมืองแกลง” ไหว้พระ 5 วัด ได้แก่

(วัดสารนาถธรรมาราม)

     1.วัดสารนาถธรรมาราม สร้างเมื่อปี พ.ศ.2487 เป็นวัดที่มี “มหาอุโบสถปูชนียสถาน” ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก หลังคามีรูปแบบจัตุรมุข มีพระบรมธาตุเจดีย์อยู่บนยอดอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และได้มีการจำลองพระเจดีย์ที่สำคัญเอาไว้ทั้ง 4 ทิศ คือ องค์พระปฐมเจดีย์ พระธาตุพนม พระธาตุไชยา และพระพุทธเจดีย์พุทธคยาจำลอง   
     2.วัดบ้านนา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงของตำบลบ้านนา อำเภอแกลง ซึ่งเจ้าอาวาส “หลวงพ่อบุญ” หรือพระครู   สุทธิวัตรสุนทร (หลวงพ่อบุญ สุสมโณ) เป็นพระมหาเถระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ในสมัยที่มีชีวิตอยู่ ท่านมีลูกศิษย์นับถือมากมาย ปัจจุบันสังขารของท่านบรรจุในโลงให้ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไปได้แวะเวียนมากราบไหว้ทุกวัน
     3.วัดหนองจระเข้ เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ภายในบริเวณวัดมีสวนป่าที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน ทอดผ้าป่าซื้อที่ดินมาก่อตั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 ด้วยความตั้งใจที่จะให้เป็นสวนป่ายั่งยืนและเป็นพื้นที่สีเขียวของชุมชน

(วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาวราราม)

     4.วัดราชบัลลังก์ประดิษฐาวราราม หรือวัดทะเลน้อย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คาดว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยก่อนสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้นำกำลังพล ตีฝ่าวงล้อมพม่าไปทางทิศตะวันออกมาทางเมืองแกลงและหยุดพักไพร่พลที่วัดแห่งนี้

(วัดวังหว้า)

      5.วัดวังหว้า สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน สร้างเมื่อปี พ.ศ.2426 มี “หลวงปู่คร่ำ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่มีเมตตาธรรมสูง มีผู้คนเคารพนับถือและเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก และนับว่าเป็นพระเถระที่มีพรรษาสูงสุดของเมืองไทยรูปหนึ่ง หลวงปู่คร่ำมีชื่อเสียงทางด้านวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมากมาย แต่สิ่งที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของหลวงปู่คร่ำ คือ “ผ้ายันต์พัดโบก” ผ้ายันต์แห่งโชคลาภซึ่งเป็นที่นิยมของพุทธศาสนิกชนเชื่อว่าจะช่วยให้ค้าขายเจริญรุ่งเรือง 
     กิจกรรมนี้ จะมีการจัดรถรางให้บริการแก่นักท่องเที่ยว 2 รอบ รอบละ 4-5 คัน จุดขึ้นรถ บริเวณวัดสารนาถธรรมาราม (รอบเช้า เวลา 08.00 น. / รอบบ่าย เวลา 13.00 น.) ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย 200 คนแรกที่สมัครออนไลน์เข้าร่วมกิจกรรมผ่าน  QR Code ตั้งแต่วันนี้ รับพระเครื่องหลวงปู่คร่ำ ปี 2536 และในช่วงกิจกรรมนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ได้แบ่งปันความสุข สนุกบอกต่อผ่านสื่อออนไลน์โดยถ่ายรูปกับวัดทั้ง 5 ที่ไปเยือน เป็นเพื่อนบน FB ททท.สำนักงานระยอง #ททท.สำนักงานระยอง #ไหว้พระระยอง ยอด Like มากกว่า 100 รับผ้ายันต์พัดโบก จาก ททท.สำนักงานระยอง เป็นของที่ระลึก
     ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานระยอง กล่าวต่อ ในเมืองแกลง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือชุมชนสามย่าน ที่สะสมความเก่าแก่กว่า 100 ปี ปัจจุบันนี้ ยังคงทิ้งร่องรอยต่างๆ ของบ้านเรือนให้เห็น พร้อมวิถีชีวิตผู้คนที่เรียบง่าย ถนนสะอาดสะอ้าน เหมาะสำหรับการเดินชมเมืองเก่า และชมสตรีทอาร์ต งานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่นได้อีกด้วย  

(สะพานฉลอง 100 ปี บ้านตลาดสามย่าน)

     ยังมีไฮไลต์สำคัญคือ สะพานฉลอง 100 ปี บ้านตลาดสามย่าน ที่แต่เดิมเรือสำเภาสามารถเข้ามาส่งสินค้าในคลองที่มีขนาดกว้างกว่านี้ได้ แต่ปัจจุบัน เกิดการตื้นเขินและมีชุมชนเข้ามาอาศัยอยู่มาก ทำให้คลองดังกล่าวมีขนาดเล็กลง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมวิถีชุมชน 2 ข้างคลองโดยมีเรือให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

(ร้านเกี๊ยวปลานายเคี้ยม)

     หลังจากเพลิดเพลินกับกิจกรรมชมเมืองเก่าแล้ว  ไม่ควรพลาดชิมอาหารเด็ดต่างๆ ของชุมชนแห่งนี้   อาทิเต้าหู้ทอดร้อนๆ ยอมรับว่าน่ากินมาก เมื่อราดด้วยน้ำจิ้มหวาน ใส่ถั่วคั่วหอมๆ เวลากินได้รสชาติของเต้าหู้ที่สดใหม่ ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว แต่หากอยากกินอาหารหลัก ก็ต้องไปร้านเกี๊ยวปลานายเคี้ยม ที่รวบรวมเกี๊ยวทุกชนิด และลูกใหญ่มาก ทั้งเกี๊ยวปลา เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวหมู เกี๊ยวหยก แถมมีกระดูกหมูต้มเปื่อยมาให้แทะทานเล่นด้วย รับรองได้ชามเดียวสุดคุ้ม ปิดท้ายด้วย ขนมโบราณชื่อ “ขนมนิ่มนวล” แป้งนิ่ม ข้างในเป็นมะพร้าวคลุกเกลือกินแล้วก็เค็มๆ มันๆ แปลกไม่เหมือนใคร

(บ้านเรือนในชุมชนเก่าสามย่าน)

      “นี่คือกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ต้องการเชิญชวนทุกท่านมาร่วมไหว้พระ ทำบุญ ผ่านการนั่งรถรางบนเส้นทางไหว้พระ 5 วัด และเยี่ยมเยือนชุมชนเก่าสามย่านในอำเถอแกลง ที่สำคัญหากมีเวลาเหลือ ยังสามารถเลือกพักผ่อนตามชายทะเลหาดแหลมแม่พิมพ์ หาดแม่รำพึง เที่ยวเกาะเสม็ด ชมทุ่งโปรงทอง ถ่ายรูปกับสะพานรักษ์แสมรักเสมอ ทานอาหารถิ่น อาหารซีฟู้ดแสนอร่อย รับรองว่าได้รับความสุขกลับออกไปอย่างแน่นอน” ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานระยอง กล่าว
     ผู้สนใจร่วมกิจกรรมดังกล่าว และสอบถามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองระยอง โทรศัพท์ได้ที่ ททท.สำนักงานระยอง โทร. 0-3865-5240-1 หรือเฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานระยอง 
สรณะ รายงาน

แห่เทียนเข้าพรรษาสุพรรณบุรี 62
     เว็บไซต์ www.เที่ยวภาคกลาง.com ของ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้เผยแพร่กิจกรรม ที่น่าสนใจกล่าวคือ จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับองค์กรการบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2562 วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาวพุทธให้คงอยู่สืบต่อไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุพรรณบุรี ให้แพร่หลายเป็นการจัดงานต่อเนื่องทุกปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 11
     โดยกิจกรรมเริ่มวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 15.00 น. รถเทียนพรรษา ทั้ง 10 อำเภอ จอดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้ชมความวิจิตรตระการตา  วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ต่อด้วยวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป บริเวณหน้าแขวงทางหลวงสุพรรณบุรีที่ 1 ชมพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดสุพรรณบุรี การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของวิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี พร้อมชมขบวนแห่เทียนพรรษาอันยิ่งใหญ่ตระการตา 
     ภายในขบวนมีการแสดงในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การฟ้อนรำที่อ่อนช้อยงดงาม ชมการประกวดเทียนพรรษา การประกวดขบวนแห่ และชมการจัดโชว์รถต้นเทียนพรรษาแบบผสมผสาน โดยการประดับตกแต่งด้วยเทียนบุปผชาติ ในรูปแบบที่เน้นวัสดุธรรมชาติ โดยการนำเสนอความเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่นในแต่ละอำเภอ วิถีการดำรงชีวิตจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ภาษาถิ่น ตำนาน วรรณคดี การแต่งกาย การละเล่นพื้นบ้าน รวมทั้งการสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่น การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0-3553-5380, 0-3553-6022