มทภ.4ขออยู่จนเกษียณ ฟุ้งสานงานไฟใต้ใกล้จบ


เพิ่มเพื่อน    

    "บิ๊กป้อม" โยนถาม "ผบ.ทบ." ไฟเขียว "พล.ท.ปิยวัฒน์" นั่งเก้าอี้ต่อจนเกษียณหรือไม่ "แม่ทัพภาค 4" รับอยากสานงานชายแดนใต้ให้จบ ยอมแลกไม่ขึ้นติดยศ พล.อ. อยู่ต่อตำแหน่งเดิม เผย "โอไอซี" พอใจโครงการพาคนกลับบ้าน เชื่อสถานการณ์ไฟใต้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเร็วๆ นี้  
    เมื่อวันพุธ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กลาโหม) กล่าวถึงกรณีการปรับย้ายนายทหารช่วงกลางปีนี้ ในเดือนเมษายน โดยเฉพาะตำแหน่งของแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่ง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ได้ขออยู่ต่อในตำแหน่งเดิมจนกว่าจะเกษียณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้ว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับบัญชีรายชื่อจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ 
    "ส่วน พล.ท.ปิยวัฒน์จะสามารถอยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไปได้หรือไม่นั้น ผมมองว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พิจารณา" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ด้าน พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวถึงข่าวขออยู่ต่อในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 จนเกษียณอายุราชการว่า อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาว่าจะให้อยู่หรือไม่ เราแต่งเครื่องแบบ ผู้บังคับบัญชาให้เราไปไหนเราก็ไป เราไม่มีสิทธิ์มีเสียง ให้จบภารกิจเราก็จบ ให้อยู่ต่อก็อยู่ต่อ 
    "ถ้าถามผมว่าอยากอยู่ต่อหรือไม่ ผมก็อยากอยู่ต่อ อยากสานต่อให้จบ พลเอกใครๆ ก็อยากได้ แต่ถ้าแลกกันระหว่างดูแลด้ามขวานผืนแผ่นดินไทยข้างล่าง ผมก็ขอดูแลข้างล่าง ขอจบภารกิจที่นั่นตอนเกษียณอายุราชการ“ พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าว
    แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกรณีที่องค์กรความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ทางโอไอซีพอใจในโครงการพาคนกลับบ้าน ถ้ารัฐบาลไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้โอไอซีช่วยอะไรในโครงการนี้ ก็จะช่วยทุกอย่าง เพราะเป็นนโยบายที่ดี เท่าที่ดูจากสายตาบ่งบอกถึงความพอใจ ความสุข และดีใจที่คนไทยรับผู้เห็นต่างเข้ามาในพื้นที่และดูแลอย่างดี โดยเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมาก สามารถทำให้สถานการณ์ยุติขึ้นโดยเร็ววัน มั่นคง และยาวนาน  
    "มีผู้เห็นต่างเข้ามาร่วมโครงการรอบนี้ 96 คน และเดินทางกลับมาแล้วชุดแรก 288 คน ซึ่งโอไอซีพูดกับคนเหล่านี้ว่าโครงการนี้ให้เริ่มชีวิตใหม่แล้ว ขอให้ช่วยประเทศไทย ผู้ที่เห็นต่างเขาก็พร้อมทำทุกอย่างในการพัฒนาประเทศไทย พร้อมกับรับปากว่าเขาจะช่วยบอกกับผู้ที่เห็นต่างที่เป็นมุสลิมให้กลับมา" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว  
    พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเพียงกลุ่มเดียวที่พยายามขยายอำนาจของตัวเอง ถ้าจะจบก็ขอให้คนกลุ่มนี้ยุติบทบาท และคิดว่าตัวเองแก่แล้ว ก็กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานดีกว่า ให้คนรุ่นใหม่ที่ดีเข้ามา ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้ามาในวงจรอุบาทว์นั้น เพราะปัญหาเรื่องความยากจน เลยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็จะเป็นเครื่องมือของกลุ่มแรกที่มาข่มขู่ว่าถ้าไม่ทำต่อก็จะถูกจับติดคุก  
    ถามถึงกรณีคณะพูดคุยสันติสุขบรรลุข้อตกลงเรื่องการตั้งเซฟเฮาส์ โดยจะมีตัวแทนของผู้เห็นต่างจากรัฐ ในนามมาราปาตานี ส่วนหนึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับต้องพักโทษชั่วคราวเพื่อมาร่วมกันทำงาน พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าวว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะต้องให้รัฐบาลออกคำสั่งพิเศษหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เป็นเรื่องรัฐบาล ตนเป็นฝ่ายปฏิบัติ พูดได้แค่ว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย แม้กระทั่งโครงการพาคนกลับบ้านก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย 
    “เชื่อว่าจะต้องไม่เกิดความลักลั่น เพราะถ้าใครเข้ามาก็ต้องเคลียร์เรื่องที่กระทำผิดข้อกฎหมาย ถ้ายังไม่เคลียร์ก็อย่าเข้ามา เพราะจะมีปัญหา ทุกคนต้องเข้ามาด้วยความยุติธรรม และความบริสุทธิ์ ถ้าจะก้าวเข้ามาเล่น ก็ต้องก้าวเข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จะมีสิทธิพิเศษไม่ได้ ถ้ามีหมายจับก็ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยุติธรรมเหมือนกันทุกภาคส่วน ใครจะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้” พล.ท.ปิยวัฒน์กล่าว
    แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า  สิ่งที่เราอยากเห็นคืออยากให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ มีงานทำ และกลับไปสู่ความสงบสุขเหมือนเดิม เมื่อก่อนนี้ปักษ์ใต้มีรอยยิ้มเวลาไปไหนมาไหน เพราะตนอยู่มาตั้งแต่เป็นร้อยตรี ตอนนี้ก็กำลังจะเป็นความจริงแล้ว โครงการพาคนกลับบ้านก็มีเสียงตอบรับ เราไม่ได้ดูเรื่องสถิติการก่อเหตุมากขึ้นหรือน้อยขึ้น แต่ดูเราประชาชนมีความสุขหรือไม่  สภาพทั่วไปประชาชนจับจ่ายใช้สอยได้ ร้านค้าประกอบธุรกิจได้ ที่สำคัญเด็กๆ มีการยกมือไหว้ แสดงว่ารุ่นใหม่ปฏิเสธความรุนแรง เป็นนิมิตหมายที่ดี คิดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้
    ขณะที่ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า ได้มีการตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติชายแดนใต้ ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เพื่อรองรับคณะโครงการพาคนกลับบ้านที่มาจากมาเลเซียเมื่อปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และอาจจะมีเพิ่มเข้ามาอีก ทั้งนี้ มีการประชุมตั้งคณะทำงานที่แม่ทัพภาคที่ 4 ตั้งขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อทำประวัติ ตรวจสอบสัญชาติ เข้ากระบวนการพิสูจน์สัญชาติ โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพ โดยจะมีการพิสูจน์ ซักประวัติ สืบสวนสอบสวนฝ่ายปกครอง และตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่มีญาติ ให้นำคนใกล้ชิดตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงได้
    นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานกรรมการอิสลามประจําจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หากรัฐทำโครงการพาคนกลับบ้านอย่างจริงจังจริงใจ ทำให้ได้มีอาชีพ มีบัตรประชาชน ลูกหลานมีการศึกษา และได้รับความสะดวก จะทำให้คนเหล่านี้เกิดความมั่นใจต่อรัฐ จากนั้นจะเชิญชวนคนอื่นๆ มามอบตัว ซึ่งยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นคนเหล่านั้นรอดูว่ารัฐให้การดูแลอย่างไรกับชุดแรกที่ออกมาเข้าร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"